สลด!! หนุ่มวัย 26 ปี นอนเสียชีวิตอยู่ในบ้าน กลางสวนทุเรียน
30 พ.ค. 2564, 19:25
เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 30 พ.ค.64 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า พ.ต.ท.ถาวร อัมพัน สารวัตร สอบสวน สภ.พะโต๊ะ อ.พะโต๊ะ จ.ชุมพร รับแจ้งเหตุพบผู้เสียชีวิต ที่ หมู่ที่ 14 ต.พะโต๊ะ อ.พะโต๊ะ จ.ชุมพร พร้อมด้วยหน่วยกู้ภัยสมาคมพุทธประทีปหลังสวน ผู้ใหญ่บ้าน ผช.ผญบ. รุดที่เกิดเหตุ
ที่เกิดเหตุ ห่างไกลจาก ถนนสายหลัก หลังสวน-ราชกรูด ขึ้นไปบนภูเขาสูง เส้นทางทุรกันดาร คดเคี้ยวตามไหล่เขา ร่วม 10 กม. พบว่า ใจกลางหุบเขาพะโต๊ะ เป็นบ้านไม้ยกพื้นสูง ต.พะโต๊ะ อ.พะโต๊ะ จ.ชุมพร สร้างท่ามกลางสวนทุเรียน นับร้อยไร่ ด้านบนของบ้าน ใช้ผ้าพลาสติกกั้นเป็นห้องนอน บนที่นอนพบศพของนายกมล อายุ 26 ปี อาชีพทำสวนทุเรียน นอนคว่ำหน้าตัวแข็งทื่อ จึงพลิกศพพบว่า ที่หมอนมีเลือดที่ไหลออกจากปากและจมูกเต็มไปหมด แต่ไม่พบร่องรอยการถูกทำร้ายร่างกาย หรือการต่อสู้ และไม่มีบาดแผลในร่างกายแต่อย่างใด จึงนำศพส่ง รพ.พะโต๊ะ เพื่อชันสูตรพลิกศพหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป
จากการสอบถามญาติ ๆ ทราบว่า นายกมล บ่นว่ามีอาการไข้มา 2-3 วัน ปวดเมื่อยตามร่างกาย ซึ่งอาจจะเป็นโรคฉี่หนู ที่กำลังระบาดในพื้นที่ ต.พะโต๊ะ มีผู้ป่วยอาการหนักมารับการรักษา ใน รพ.พะโต๊ะ อยู่จำนวนหนึ่ง
นางพรรณี อายุ 54 ปี แม่ของ นายกมล เล่าว่า ลูกชายแยกจากครอบครัว ที่ อ.หลังสวน จ.ชุมพร ไปได้ภรรยาทำธุรกิจด้านหอพักที่ จ.ปทุมธานี เมื่อเกิดการระบาดของโควิด-19 ได้แยกกันอยู่ นายกมล ได้เดินทางกลับมาทำสวนทุเรียนที่ อ.พะโต๊ะ เมื่อสองเดือนที่ผ่านมา ภรรยาได้คลอดลูก จึงกลับไปเยี่ยม ที่ จ.ปทุมธานี แล้วส่งภรรยากลับไปอยู่ที่ จ.สุโขทัย บ้านเก่า ส่วนตัว นายกมล กลับมาทำสวนทุเรียนต่อไป พร้อมทั้งได้กักตัว และ ตรวจหาเชื้อโควิด-19 แต่ไม่พบ นายกมล จึงเดินหน้าทำสวนทุเรียนหมอนทองที่มีอยู่ร้อยกว่าไร่ ในพื้นที่ดังกล่าวโดยทำร่วมกับลุง จนเมื่อสามวันที่ผ่านมา นายกมลบ่นว่ามีอาการเป็นไข้ ปวดเมื่อยตามตัว เมื่อวานนี้ (29 พ.ค.) จึงไปหาหมอที่คลินิกใน ตลาดพะโต๊ะ ได้รับการฉีดยา 1 เข็ม พร้อมทั้งยากินอีกจำนวนหนึ่ง แล้วกลับมานอนที่บ้าน จนวันนี้ (30 พ.ค.) ช่วงเกือบเที่ยงลุงได้ขึ้นไปเรียกบนห้องนอน พบว่าเสียชีวิตแล้ว จึงรีบแจ้งตำรวจ และหน่วยกู้ภัยหลังสวนมาดำเนินการ
ทางด้านนายสุทิน อายุ 51 ปี พ่อของนายกมล กล่าวว่า ยังติดใจเรื่องสาเหตุการตาย และอยากรู้ว่า ลูกป่วยตายด้วยโรคอะไรกันแน่ เพื่อจะได้ทำให้เกิดความกระจ่าง ถ้าเป็นโรคติดต่อก็จะได้ให้ชาวบ้านระวังป้องกันตัว ซึ่งได้รับแจ้งจากแพทย์ว่า ต้องส่งศพไปยังหน่วยนิติเวช ที่ จ.ระนอง หรือ จ.สุราษฏร์ธานี ก็จะทราบผลที่ชัดเจน ส่วนสาเหตุอื่นๆ เช่น การฆาตกรรมไม่ได้ติดใจอะไร จะได้ปรึกษากับญาติๆ เพื่อนำตัวส่งพิสูจน์หาสาเหตุโรคที่ทำให้ลูกชายที่ยังหนุ่มแน่นแข็งแรงไม่เคยมีอาการว่าจะเป็นโรคอะไรให้แน่ชัดต่อไป