นายกฯ เผยหากจะนำเข้าวัคซีนทางเลือก ทุกบริษัทต้องทำตามขั้นตอนเท่านั้น
28 พ.ค. 2564, 14:06
วันที่ 28 พ.ค. 2564 นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า เมื่อเวลา 09.00 น. พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมด้วย นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พลตำรวจเอก อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมจุดบริการฉีดวัคซีนโควิด–19 นอกสถานพยาบาลฯ ภายใต้ความร่วมมือระหว่างกรุงเทพมหานครและหอการค้าไทย ดำเนินการโดยศูนย์การค้าเอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์ และโรงพยาบาลบางปะกอก 1 ณ บริเวณโกดัง 4 ศูนย์การค้าเอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์ เขตบางคอแหลม กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นหนึ่งในภาคเอกชนที่เข้าร่วมโครงการตามนโยบายของภาครัฐที่ส่งเสริมและเร่งรัดการฉีดวัคซีนโควิด–19 จำนวน 25 แห่ง ในพื้นที่กรุงเทพมหานครอย่างครอบคลุมและทั่วถึง โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีการระบาดในระดับควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ซึ่งหน่วยบริการดังกล่าวจะเริ่มฉีดวัคซีนระหว่างวันที่ 28 พ.ค. – 31 ธ.ค. 64 มีเป้าหมายในการให้บริการฉีดวัคซีนโควิด - 19 จำนวน 1,500 – 2,000 คน/วัน
นายกรัฐมนตรี กล่าวให้กำลังใจการทำงานของเจ้าหน้าที่ ที่เสียสละทำงานอย่างเต็มที่และขอบคุณทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชน ที่ร่วมกันดำเนินการในเรื่องดังกล่าวซึ่งถือเป็นการสร้างกุศลและความดีให้กับตนเองและประเทศชาติ ย้ำการกระจายวัคซีนเป็นไปตามปริมาณวัคซีนที่เข้ามา และจะกระจายให้เร็วที่สุดให้สอดคล้องกับการแพร่ระบาดในแต่ละพื้นที่ ยืนยันประชาชนจะได้ฉีดวัคซีนครบทุกคน พร้อมขอให้ประชาชนทุกคนดูแลตนเองให้ดีที่สุด และปฏิบัติตามมาตรการทางด้านสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด
นายกรัฐมนตรี กล่าวต่อว่า วันนี้เป็นวันแรกสำหรับการให้บริการจุดบริการฉีดวัคซีนโควิด-19 ที่เอเชียทีค ซึ่งเป็นหน้าที่ของกรุงเทพมหานครที่ต้องบริหารจัดการวัคซีนตามที่ได้รับมอบไปตามที่กำหนด เพราะฉะนั้นการบริหารวัคซีนต้องบริหารให้ทุกคนได้ฉีดให้มากที่สุดในแต่ละเดือนและเพียงพอในเดือนถัดไปตามเป้าหมายที่ตั้งใจว่าจะฉีดให้ได้ภายในเดือนธันวาคม เราต้องปฏิบัติงานโดยมีการกำหนดไว้ล่วงหน้าในระดับต่าง ๆ สอดคล้องกับสถานการณ์ที่มีการเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ฉะนั้นการกระจายวัคซีนจะต้องคำนึงทั้งในเรื่องของจำนวน และสถานที่ให้บริการมากที่สุด
นายกรัฐมนตรี กล่าวในตอนหนึ่งถึงวัคซีนทางเลือก ว่า ก็มีบริษัทเข้ามาติดต่อเป็นทางการแล้วกับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ซึ่ง อย.ขึ้นทะเบียนแล้ว และอยู่ระหว่างการเจรจานำเข้า โดยต้องเข้าตามช่องทางที่ถูกต้องเป็นไปตามกฎหมายตามมาตรการ ถ้าไม่เข้าตามช่องก็มาไม่ได้ จะมาพบใครก็ไม่ได้ เพราะตนไม่ได้มีหน้าที่ตรงนั้น เพราะเป็นหน้าที่ของอย. และองค์การเภสัชกรรม (อภ.)
ในตอนท้ายนายกรัฐมนตรียืนยันเป้าหมายการบริหารการฉีดวัคซีนจะให้เสร็จสิ้นภายในเดือนธันวาคม ประชาชนคนไทยทุกคนจะได้รับการฉีดวัคซีนครบทุกคนอย่างแน่นอน นอกจากนี้แผนการกระจายวัคซีนในเดือนมิถุนายนนั้น จะกระจายให้มากที่สุด ซึ่งอาจจะมีการปรับเปลี่ยนแผนตามสถานการณ์ต่าง ๆ ในบางพื้นที่ที่ต้องควบคุม