วันที่ 4 พฤษภาคม 2564 เวลา 15.00 น. ร.ต.อ.พยุง ศรีโฮง รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองนครพนม รับแจ้งเหตุมีคนถูกแทงเสียชีวิต บ้านโพนงาม หมู่ 3 ต.นาทราย อ.เมือง จ.นครพนม จึงประสานแพทย์เวร รพ.นครพนม รุดไปพร้อม พ.ต.อ.ณัฏฐวิชฌ์ ราชแก้ว ผกก.สภ.เมืองนครพนม เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน พิสูจน์หลักฐาน(พฐ.ภ.จว.นครพนม) กู้ภัยศรีสัตตนครพนม กู้ภัยสว่างนาวาธาตุพนม และรถกู้ชีพ อบต.นาทราย

ที่เกิดเหตุอยู่ซอย 5 เป็นบ้านเช่าครึ่งปูนครึ่งไม้ หน้าบ้านพบศพนางบังอร มีทิราด อายุ 47 ปี ชาวลาว สภาพศพนอนหงายสวมกางเกงขายาวสีม่วง สวมเสื้อแขนสั้นสีขาว  บริเวณกลางหลังถูกแทงด้วยของมีคมเป็นแผลฉกรรจ์  ใกล้ริมรั้วพบอาวุธมีดปลายแหลมยาว 25 ซ.ม. เปื้อนคราบเลือดตกอยู่ ส่วนท้ายรถเก๋งสีขาว ยี่ห้อมิตซูบิซิ สีขาว ทะเบียน กฉ 652 นครพนม พบรอยเลือดกระเซ็นจำนวนหนึ่ง เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน

ส่วนคนร้ายที่ก่อเหตุทราบชื่อภายหลังคือนายสมบูรณ์  เจาะจง อายุ 52 ปี แฟนของนางบังอรผู้ตาย หลังก่อเหตุได้ขับรถสามล้อเครื่องสีแดงหลบหนีลัดเลาะไปทางทะลุด้านหน้ามหาวิทยาลัยนครพนม เจ้าหน้าที่จึงกระจายกำลัง เพื่อเร่งมือมีดรายนี้มาดำเนินคดี

สอบสวนนายธาวัด คำแสง อายุ 56 ปี ชาวบ้านท่าควาย เขตเทศบาลเมืองนครพนม ให้การว่าก่อนเกิดเหตุตนขับรถเก๋งยี่ห้อมิตซูบิซิ สีขาว ทะเบียน กฉ 652 นครพนม มาพบนางบังอรซึ่งมีศักดิ์เป็นน้าสาว ขณะนั้นได้มีนายสมบูรณ์มีอาการคล้ายมึนเมาสุรา จอดรถสามล้อเครื่องคู่ใจแล้วเดินเข้ามาในบ้าน มีปากเสียงทะเลาะกับนางบังอรด้วยถ้อยคำรุนแรง กล่าวหาว่าผู้ตายจะปันใจไปมีแฟนใหม่ ตนจึงเข้าห้ามปราบให้ค่อยๆคุยกัน

ขณะที่ผู้ตายจะเดินออกมาขึ้นรถยนต์ของตนที่จอดไว้หน้าบ้าน  นายสมบูรณ์ได้วิ่งไปคว้ามีดปลายที่ซ่อนไว้ใต้เบาะรถสามล้อเครื่อง  จ้วงแทงบริเวณกลางหลังของผู้ตาย 3 ครั้ง  ล้มนอนจมกองเลือดหายใจหวยระริน กระทั่งทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ

นายธาวัดเล่าต่อว่าเมื่อประมาณ 2 ปีที่แล้ว บ้านหลังนี้มีเจ้าของบ้านเป็นชายผูกคอเสียชีวิตใต้ต้นมะม่วงหน้าบ้าน  ตนเชื่อว่าอาจจะเป็นเพราะวิญญาณเจ้าของบ้านที่เฮี้ยน โดยชาวอีสานเชื่อว่าวิญญาณผีตายโหงเป็นสิ่งอัปมงคล ยังสิงสถิตห่วงบ้านหลังนี้ไม่ยอมไปผุดไปเกิด  จนน้าสาวพาลูกๆมาเช่าบ้านอยู่ และมักมีเรื่องทะเลาะกับนายสมบูรณ์แฟนจอมขี้หึงเป็นประจำ กระทั่งถูกแทงเสียชีวิต