ปิดตำนาน 24 ปี สวนเสือศรีราชา ประกาศยกเลิกกิจการอย่างถาวร
1 พ.ค. 2564, 12:59
เมื่อวันที่ 1 พ.ค.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สวนเสือศรีราชา จ.ชลบุรี ได้ติดประกาศเลิกกิจการถาวรตั้งแต่วันที่ 30 เมษายน 2564 ที่ผ่านมา โดยนัดให้พนักงานสวนเสือศรีราชา ทุกคนร่วมประชุมในวันที่ 3 พ.ค.นี้ ร่วมกับคณะผู้บริหารเพื่อทำความเข้าใจและชี้แจงการเลิกกิจการ จึงติดต่อไปสอบถามข้อเท็จจริง ได้รับการเปิดเผยจากนายวสันต์ เต็มศิริพงศ์ กรรมการบริหาร บริษัทสวนเสือศรีราชา จำกัด ว่า สวนเสือศรีราชาเริ่มเพาะเลี้ยงเสือโคร่งในปี พ.ศ. 2532 เกิดจากคณะผู้บริหารที่มีใจรักในอาชีพปศุสัตว์ ประกอบกับได้มีโอกาสเดินทางไปศึกษาดูงานและเก็บข้อมูลจากสถานที่ต่างๆ ในหลายประเทศทั่วโลก จึงนำจุดเด่นของแต่ละสถานที่มาพัฒนาปรับใช้กับสวนเสือศรีราชา โดยเริ่มต้นได้เสือมาจากสวนสัตว์เชียงใหม่ 2 คู่ และสวนสามพรานอีก 2 คู่ การที่ทางสวนเสือศรีราชาเลือกเพาะเลี้ยงเสือโคร่ง เนื่องจากเสือโคร่งเป็นเสือที่พบมากที่สุดในทวีปเอเชีย และในปัจจุบันเสือโคร่งในธรรมชาติมีจำนวนลดน้อยลง และที่เลือกเสือพันธุ์เบงกอล เพราะเสือพันธุ์นี้มีขนาดลำตัวที่ใหญ่ มีสีเข้มสวยงาม และสามารถอาศัยในภูมิอากาศของประเทศไทยได้
นายวสันต์ เผยอีกว่า สวนเสือศรีราชา เปิดให้บริการมาตั้งแต่วันที่ 23 เมษายน พ.ศ.2540 โดยจัดการดำเนินงานเพื่อที่จะพัฒนาพันธุ์สัตว์ ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ แหล่งท่องเที่ยวเชิงนันทนาการ ควบคู่ไปกับการให้ความรู้แก่นักท่องเที่ยว สวนเสือศรีราชา เป็นสวนสัตว์เอกชน ตั้งอยู่ที่ ต.หนองขาม อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี บนพื้นที่ 250 ไร่ สวนเสือศรีราชาเป็นที่เพาะเลี้ยงเสือโคร่งเบงกอลที่ใหญ่ที่สุดในโลก และเป็นสถานที่ฝึกและแสดงความสามารถของสัตว์ อาทิ เสือ จระเข้ ช้าง และหมู นอกจากนี้ภายในยังเลี้ยง อูฐ กวางดาว กระต่าย และสัตว์ชนิดอื่นๆ ขณะที่นักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวจะได้ชมการแสดงจากสัตว์ป่านานาชนิด ชมลูกเสือที่ดูดนมแม่หมู เสือโคร่งที่สามารถอยู่ร่วมกับสุนัข มีผู้เลี้ยงเสือโคร่งที่มาจากเคนย่า นางพญาแมงป่อง การแข่งหมู และหมูคิดเลข นอกจากนี้ยังจะได้ให้อาหารสัตว์ และสามารถถ่ายรูปกับสัตว์ต่างๆ ได้อย่างใกล้ชิด
กรรมการบริหาร สวนเสือศรีราชา เผยว่า ส่วนสาเหตุในการประกาศเลิกกิจการอย่างถาวร เนื่องจากสภาวะเศรษฐกิจและสถานการณ์แพร่ระบาดโควิด-19 ที่กระทบอย่างหนัก แต่อย่างไรก็ดีทางคณะผู้บริหารจะออกมาแถลงรายละเอียดอีกครั้งเพื่อความชัดเจนเร็วๆนี้ หลังมีการพูดคุยทำความเข้าใจกับพนักงาน อีกทั้งการจำหน่ายสัตว์ต่างๆออกไปอยู่ในสถานที่เหมาะสม แต่อย่างไรก็ตามหากระหว่างนี้มีผู้ที่ต้องการเข้ามารับช่วงกิจการต่อก็ยินดีแต่คิดว่าคงไม่มีเพราะสถานการณ์โควิดวิกฤติหนักไปต่อไม่ไหวจริงๆ หลังเปิดมานานกว่า 20 ปี.