รมว.ทส. เจอไม้ถูกตัดอายุร่วม 40 ปี กว่า 400 ท่อน ที่ไทรโยค
24 เม.ย. 2564, 17:44
จากกรณีนายวิวรรธน์ มองเห็นทวีโชค หัวหน้าหน่วยป้องกันและพัฒนาป่าไม้ไทรโยค สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 10 (ราชบุรี) สนธิกำลังเจ้าหน้าที่หลายฝ่าย เข้าตรวจสอบการลักลอบตัดไม้ทำลายป่าที่อยู่ในเขตพื้นที่ของ สปก.ท้องที่บ้านวังกะ หมู่ 4 ต.ท่าเสา อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี
โดยไม้ที่ถูกตัดเป็นไม้กะยาเลย ถูกทอนเป็นท่อน รวม 21 ชิด เช่นไม้มะค่า ประดู เต็ง รัง เป็นต้น รวมจำนวน 427 ท่อน ปริมาตรรวมกัน 61.098 ลบ.ม.คิดเป็นเงินค่าภาคหลวง 2894.72 บาท คิดเป็นเงินที่รัฐเสียหายรวมกัน จำนวน 1,455,555.50 บาท และไม้แปรรูปหวงห้าม จำนวน 18 แผ่น ปริมาตรรมกัน 0.265 ลบ.ม.คิดเป็นเงินค่าภาคหลวง 42.40 บาท คิดเป็นเงินที่รัฐเสียหายรวมกัน จำนวน 17,670 บาท โดยไม้ของกลางทั้งหมดได้เคลื่อนย้ายมาเก็บรักษาที่ หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ กจ.1(ท่าเสา)เหตุเกิดเมื่อวันที่ 11 เม.ย.64 ที่ผ่านมา
วันนี้ 24 เม.ย. 2564 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรฯธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม นายชีวะภาพ ชีวะธรรม รองอธิบดีกรมป่าไม้ นายสมบูรณ์ ธีรบัณฑิตกุล ผู้อำนวยการสำนักป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่า นายนิทรรศ เวชวินิจ ผู้อำนวยการสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 10 (ราชบุรี) นายนิพนธ์ จำนงสิริศักดิ์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) รวมทั้งเจ้าหน้าที่ สปก.กาญจนบุรี เจ้าหน้าที่ ฉก.ลาดหญ้า กกล.สุรสีห์ รวมทั้งเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอไทรโยค และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เดินทางลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบพื้นที่ที่ถูกตัดโค้น ต้นไม้ที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติตามข้อมูลข้างต้น โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง จึงแล้วแล้วเสร็จ
จากนั้นคณะทั้งหมดเดินทางไปดูไม้ของกลางที่นำไปเก็บเอาไว้ที่หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ กจ.1(ท่าเสา) เมื่อเห็นทุกคนต่างเสียดายไม้เป็นอย่างมากโดยเฉพาะ นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทส. ซึ่งถึงกับพูดออกมาว่า ต้นไม้ทั้งหมดหากรวมกันอายุมากกว่า 1 พัน ปี และหากต้นไม้พูดได้ ก็คงจะถามคนตัดว่าตัดเราทำไม และได้พูดถึงต้นไม้นั้นมีความหมายกับมนุษย์มาก หากเราศึกษาให้ดีๆ แล้วจะทราบว่าปีหรืออายุของไม้แต่ละต้นจะบ่งบอกถึงธรรมชาติว่าแต่ละปีเป็นเช่นไร เช่นเกิดไฟไหม้ เกิดฤดูแล้งจัดเป็นต้น วงปีของไม้นั้นจะบอกให้เราทราบหากเราได้ศึกษากันอย่างแท้จริง
ทั้งนี้นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทส.เปิดเผยภายหลังว่า วันนี้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้ร่วมกับหน่วยงานส่วนราชการในหลายส่วน มีทั้งเจ้าหน้าที่สำนักงานปฏิรูปที่ดิน หรือ ส.ป.ก.เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองจังหวัดกาญจนบุรี รวมทั้งเจ้าหน้าที่กลาโหม ซึ่งพื้นที่ที่เรายืนอยู่ในขณะนี้ ต้องขอเรียนว่า เบื้องต้นเราเห็นใจพี่น้องประชาชนเป็นอย่างยิ่ง เพราะนับวันพื้นที่ทำกินเป็นพื้นที่ที่หายากขึ้นทุกวัน
ประกอบกับแนวเขตที่ผ่านมาส่วนราชการบางครั้งเวลาประกาศแนวเขตพื้นที่นั้น ด้วยการที่มีกฎหมายหลายตัวหลายฉบับและยังไม่รวมถึงมติ ของคณะรัฐมนตรีในหลายห้วงเวลาที่ผ่านมา จึงทำให้พื้นที่หนึ่งพื้นที่มันมีการทับซ้อนกับของส่วนราชการอยู่ดังนั้นสิ่งที่เรามาดูในวันนี้เพื่อที่จะนำสิ่งที่เกิดขึ้นมาแกะดูทีละเปาะว่าพื้นที่ทีเรายืนอยู่ตรงนี้สามารถทำได้หรือไม่ได้อย่างไร
แต่ท้ายที่สุดแล้วคอนเซปหลักๆ เลยก็คือถ้าในพื้นที่มีต้นไม้ที่โตขึ้นมาตามธรรมชาติ หรือเป็นป่าโดยธรรมชาติที่ไม่ใช่ป่าที่ปลูกขึ้นมา ซึ่งมติ ครม.ได้กำหนดเอาไว้เลยว่าไม้ที่โตขึ้นตามธรรมชาตินั้นห้ามตัดโดยเด็ดขาด
ดังนั้นการที่หน่วยงานใดก็แล้วแต่ ไม่ว่าจะเป็นกลาโหม หรือ ส.ป.ก.หรือฝ่ายปกครอง จะให้พื้นที่แก่ประชาชนในการนำไปใช้เป็นพื้นที่ทำกิน หัวใจสำคัญคือจะต้องไม่มีการตัดต้นไม้ที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ แต่ถ้าหากเป็นต้นไม้ที่ปลูกขึ้นมาเอง ขณะนี้กระทรวงทรัพยากรฯของเราได้แก้กฎหมาย ทำให้ประชาชนสามารถตัดได้แล้วเพราะเป็นป่าที่ปลูกขึ้นมาเอง
แต่พื้นที่ที่เรากำลังยืนอยู่ตรงนี้นั้น ไม่ที่ถูกตัดโค่นไปมันเป็นผืนป่าที่มีสภาพสมบูรณ์ เป็นต้นไม้ที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ แต่ในกรณีนี้เราไม่ได้โทษใคร เพราะเวลาที่พี่น้องประชาชนต้องการที่ดินทำกิน บางครั้งก็ไม่รู้ว่าตรงไหนเป็นเขตอุทยานฯ หรือเป็นเขตอะไรบ้าง ซึ่งเรื่องนี้เป็นสิ่งสำคัญ
โดยหลังจากนี้เป็นต้นไปเราจะมีการทำงาร่วมกันทั้งกรมป่าไม้ กรมอุทยานฯ รวมทั้ง ส.ป.ก.และราชพัสดุ ซึ่งก็ต้องได้รับความร่วมมือจากกระทรวงกลาโหม ในการที่จะลงพื้นที่สำรวจพื้นที่บริเวณที่มีการทับซ้อนกันระหว่าง อุทยานแห่งชาติไทรโยค รวมทั้ง ส.ป.ก.และเป็นเขตพื้นที่ของทหารมาก่อน หัวใจสำคัญหลักที่จะต้องมาร่วมกันคือจังหวัดและทางฝ่ายปกครอง ต้องมาทำความเข้าใจกับพี่น้องประชาชน
หัวใจหลักสำคัญคือต้นไม้แต่ละต้นที่มีอยู่ในประเทศไทยนับวันมันจะเหลือน้อยลงไปทุกที ซึ่งมันสวนทางกับนโยบาย ซึ่งฝ่ายปลูกป่าก็เร่งปลูกป่ากันเข้าไป แต่ก็จะมีบางส่วนที่ยังต้องการมีที่ดินทำกินบ้าง และยังไม่รวมถึงกลุ่มคนบางกลุ่มที่มีความไม่หวังดีที่ตัดไม้ทำลายป่า ซึ่งมันเหมือนกับว่าเราเร่งปลูกขณะเดียวกันกลุ่มพวกที่ไม่หวังดีก็ตัดกันไป
ดังนั้นวันนี้ต้องขอความเห็นใจจากพี่น้องประชาชนทุกท่าน เราทราบว่าพื้นที่ทำกินนั้นเป็นสิ่งที่สำคัญ แต่ขณะเดียวต้นไม้แต่ละต้นผืนป่าแต่ละตารางนิ้วมันมีความสำคัญต่อพี่น้องประชาชนคนไทย เพราะปัญหาไม่ว่าจะเป็นเรื่องของภัยแล้งที่เรากำลังพยายามแก้ไขกันอยู่ในทุกวันนี้ หรือแม้กระทุกมีอุทกภัย รวมทั้งฝนตกไม่ตรงตามฤดูกาล ทั้งหมดมันเกิดจากการที่มีการตัดต้นไม้ที่ขึ้นตามธรรมชาติอย่างที่เราเห็นกันอยู่ในทุกวันนี้ ที่ผ่านมาเรามีป่าสมบูรณ์กันอยู่ดีๆ แต่อยู่ๆทุวันนี้ก็ไม่มีป่าแล้ว ท้ายที่สุดคนที่ได้รับผลกระทบจากการตัดไม้ทำลายป่ามันไม่ใช่กรมป่าไม้ กรมอุทยาน รวมทั้งกระทรวงกลาโหม หรือกระทรวงมหาดไทยและฝ่ายปกครองเพียงอย่างเดียว แต่ผู้ได้รับผลกระทบคือพี่น้องประชาชนคนไทยทุกคน
ในส่วนของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อ ขอวิงวอนให้พี่น้องประชาชนทุกท่านอย่าตัดต้นไม้ที่ขึ้นตามธรรมชาติ เพราะต้นไม้แต่ละต้นกว่าจะโตขึ้นมาต้องใช้เวลานานชั่วอายุคนจึงจะโตขึ้นมาได้ ดังนั้นเราต้องมาช่วยกันรักษา แต่ถ้าหากต้องการทำมาหากิน หรือต้องการทำการเกษตรหรืออะไรก็ตาม ทาง ส.ป.ก.หรือทางฝ่ายปกครองจะทำความเข้าใจกับประชนว่าจากนี้จะเดินต่อกันไปอย่างไร เพราะต้นไม้แต่ละต้นมันมีคุณค่ามากขึ้นทุกวัน และหลังจากนี้เป็นต้นไปเราต้องมาช่วยกันแก้ไขปัญหาให้ได้อย่างยั่งยืน./