เมื่อเวลา 13.15 น. วันที่ 11 เม.ย.64  ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า ที่วัดสระกำแพงใหญ่  ต.สระกำแพงใหญ่  อ.อุทุมพรพิสัย จ.ศรีสะเกษ ซึ่งเป็นวัดที่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งของ จ.ศรีสะเกษ นายวัฒนา พุฒิชาติ ผวจ.ศรีสะเกษ พร้อมด้วย นพ.ทนง วีระแสงพงษ์ นายแพทย์สาธารณสุข จ.ศรีสะเกษ นายบุญประสงค์  นวลสายย์  หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.ศรีสะเกษ  นายพรชัย วงศ์งาม นายอำเภออุทุมพรพิสัย และคณะ ได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานในการตรวจคัดกรองประชาชนที่เข้ามาท่องเที่ยวชมปราสาทสระกำแพงใหญ่ และเข้าไปกราบไหว้ขอพรจากสรีระสังขารของ พระมงคลวุฒิ หรือ “หลวงปู่เครื่อง สุภัทโท” อดีตพระเกจิชื่อดังและอดีตเจ้าอาวาสวัดสระกำแพงใหญ่ อ.อุทุมพรพิสัย จ.ศรีสะเกษ ที่ชาวอีสานใต้ต่างให้ความเลื่อมใสศรัทธา โดยได้กำชับให้คณะกรรมการวัดและ อสม. ได้ดำเนินการตามกฎกระทรวงสาธารณสุข โดยให้ประชาชนที่เข้ามาในวัดได้สวมหน้ากากอนามัย เจลแอลกอฮอล์ และเว้นระยะห่าง อย่างเคร่งครัด จากนั้น ได้เดินทางไปที่จุดตรวจ/จุดบริการประชาชนตู้ยามสายธาร อ.ห้วยทับทัน จ.ศรีสะเกษ  ซึ่งเป็นจุดบริการประชาชนช่วงเทศกาลสงกรานต์ ประจำปี พ.ศ. 2564 โดยได้มอบสิ่งของให้แก่คณะเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานประจำจุดตรวจ จุดบริการประชาชน เพื่อเป็นการสร้างขวัญและกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ และได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการตามมาตรการในการบังคับใช้กฎหมายการจราจรอย่างเคร่งครัด พร้อมทั้งให้คำแนะนำ และอำนวยความสะดวก ในการเดินทางของพี่น้องประชาชนที่เดินทางกลับมาเยี่ยมบ้านในช่วงเทศกาลสงกรานต์ปีนี้อย่างเต็มที่

 

นายวัฒนา พุฒิชาติ ผวจ.ศรีสะเกษ กล่าวว่า  ตนได้รับรายงานจาก นพ.ทนง วีระแสงพงษ์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดศรีสะเกษ ว่า เมื่อช่วงกลางดึกของคืนวันที่ 10 เม.ย. 64 ที่ผ่านมา มีผลการตรวจเชื้อโควิด-19 กลุ่มเสี่ยงที่เดินทางกลับจากกรุงเทพมหานคร พบว่ามีผลเป็นบวกเพิ่มอีก 1 ราย เป็นรายที่ 4 ของการระบาดระลอกใหม่ ของ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งพบว่า เป็นเพศหญิงอายุ 36 ปี  มีอาชีพทำงานเป็นแม่บ้าน ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร โดยทางเจ้าหน้าที่กำลังเร่งสอบสวนไทม์ไลน์ และกลุ่มเสี่ยงผู้ที่อยู่ใกล้ชิด เพื่อแจ้งให้ประชาชนได้รับทราบโดยเร็ว ซึ่งขณะนี้กำลังมีการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ระลอก 3 ค่อนข้างรุนแรงมาก  แต่อย่างไรก็ตามตนมั่นใจว่า ด้วยความร่วมมือร่วมใจกันของทุกฝ่ายทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องจะสามารถระงับยับยั้งการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ในเขตพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ ได้อย่างแน่นอน ตนขอฝากไปถึงผู้ที่เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยง 5 จังหวัดสีแดง ประกอบด้วย กรุงเทพฯ  นครปฐม ปทุมธานี นนทบุรี และสมุทรปราการ ขอความร่วมมือให้รายงานตัวกับ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน หรือ อสม.ในพื้นที่อย่างเคร่งครัด และห้ามเดินทางออกไปในที่ชุมชน โรงมหรสพ ห้างสรรพสินค้า สถานบันเทิง และงานบุญประเพณี หรือสถานที่อื่นใดที่มีลักษณะทำนองเดียวกัน เว้นแต่มีเหตุจำเป็น ตามที่ได้ออกประกาศจังหวัดไว้แล้ว

นพ.ทนง วีระแสงพงษ์ นายแพทย์สาธารณสุข  จ.ศรีสะเกษ กล่าวว่า  การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 จะสามารถแพร่ระบาดได้ง่ายมาก โดยผู้ที่ติดเชื้อทั้ง 4 ราย เป็นผู้ที่เดินทางมาจากกรุงเทพฯ ซึ่งเป็นพื้นที่เสี่ยงสูงมาก ขณะนี้พักรักษาตัวอยู่ที่ รพ.ศรีสะเกษ ส่วนประชาชนที่เดินทางมาจากจังหวัดอื่น ๆ นอกเหนือจาก  5 จังหวัดเสี่ยงสูงดังกล่าว ขอความร่วมมือให้ปฏิบัติตามมาตรการของทางราชการอย่างเคร่งครัด หากมีเหตุต้องเดินทางออกนอกบ้าน ขอให้ระลึกว่า อาจมีความเสี่ยง โดยจะต้องป้องกันตัวเองและผู้อื่น โดยการสวมใส่หน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าตลอดเวลา เว้นระยะห่าง ไม่สัมผัสใกล้ชิดติดกันเพื่อลดความเสี่ยงในการติดเชื้อโควิด-19  ที่กำลังระบาดอย่างรุนแรงอยู่ในขณะนี้