เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 5 เม.ย. 64 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า ที่วัดแสงดาว ต.ปากโทก อ.เมือง จ.พิษณุโลก บรรยากาศงานรดน้ำศพ น้องปลื้ม หรือ นายพันยศ เจริญภักดี อายุ 17 ปี นักเรียนชั้น ม.5.2 โรงเรียนพิษณุโลกพิทยาคม เหยื่อกระสุนปืนเหตุทะเลาะวิวาทหน้าโรงเรียน เมื่อช่วงเย็นวันที่ 2 เมษายน 2564 ที่ผ่านมา ซึ่งรักษาตัวอยู่ห้อง ICU เรื่อยมาเนื่องจากกระสุนปืนยิงเข้าที่บริเวณศรีษะ จนกระทั่งเมื่อเวลา 12.53 น.วันนี้น้องปลื้มได้เสียชีวิตลง ท่ามกลางความโศกเศร้าเสียใจของครอบครัวและเพื่อนนักเรียน ต่างรุมประณาม “ไอ้ตั้ม” มือปืนโหดให้ตายตกไปตามกัน

 

บรรยากาศที่วัดแสงดาวเย็นวันนี้ เต็มไปด้วยความโศกเศร้า หลังจากที่รถกู้ภัยได้นำร่างน้องปลื้มมาถึงศาลานั้น ญาติสนิท พร้อมด้วยเพื่อน ต่างร่ำให้ โดยเฉพาะคุณยายอึ่ง หรือ นางอมร เวหาธนโชติ อายุ 66 ปี อยู่บ้านเลขที่ 88 ม.5 ต.ปากโทก อ.เมือง จ.พิษณุโลก คุณยายที่เลี้ยงน้องปลื้มมาตั้งแต่เด็ก ให้สัมภาษณ์ด้วยน้ำตา ว่าน้องปลื้มเป็นเด็กดี มีสัมมาคารวะ ไม่เคยดื้อ ตั้งใจเรียน เรียนเก่ง มุ่งมั่นว่าจะเป็นนายร้อยทหาร ให้ได้ จะคว้าดาวมาติดบ่าให้ พ่อแม่ และแม่ใหญ่ชื่นชมให้ได้ และมีกำหนดไปสอบเข้าเรียนทหารช่างเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา แต่ก็ไม่ทันได้สอบตามตั้งใจหมาย เพราะหลานมาถูกคนใจเหี้ยมยิงเสียก่อน

 

 

คุณยายอึ่ง เล่าต่อว่า เย็นวันที่ 2 เม.ย. ได้รับโทรศัพท์จากพ่อน้องปลื้มว่าน้องปลื้มถูกยิง ก็ตกใจมาก แต่ทราบว่าตอนนั้นน้องยังมีชีวิตอยู่ สวดมนต์ภาวนาทุกวัน ขอให้มีปาฏิหาริย์ ส่วนตัวไม่มีโอกาสได้ไปเยี่ยมหลาน เพราะมีปัญหาเรื่องสุขภาพ ตัวพ่อแม่น้องปลื้มเองก็บอกตลอดว่าน้องอาการดีขึ้นแล้ว จนมาวันนี้ ตนได้รับข่าวร้าย เสียใจมาก หลานยังไม่ได้ทำตามฝัน ไม่มีวันอโหสิกรรมให้คนร้ายเด็ดขาด เพราะเขาเหี้ยมโหดเกินไป แค่คนทะเลาะกัน ต่อยกันก็น่าจะเพียงพอแล้ว ทำไมต้องถึงขั้นลงไม้ลงมือฆ่าแกงกันด้วย ขอให้เขาได้ชดใช้กรรมตามกฏหมายให้ถึงที่สุด

 

สำหรับพิธีศพของน้องปลื้มนั้น   นางอัมพันธ์ เวหานราพงศ์ มารดา  ร้อยตรีประกายแสง เจริญภักดี บิดา ข้าราชการบำนาญ ได้รวมต้อนรับแขกด้วยความเสียใจ มีนายสุชน  วิเชียรสรรค์ ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาพิษณุโลก  อุตรดิตถ์ เป็นประธานในพิธีรดน้ำศพ  และมีเพอนนร.มารวมจำนวนมาก คนนี้ตั้งสวดอภิธรรมอยู่ที่วัดแสงดาว ต.ปากโทก อ.เมือง จ.พิษณุโลก ทางครอบครัวยังไม่ได้คุยกันว่าจะตั้งสวดกี่คืน จึงจะฌาปนกิจ รอทางครอบครัวสรุปกันอีกที

 

นางอัมพันธ์ เวหานราพงศ์ มารดา  เปิดเผยวา  อยากให้ดำเนินคดีให้ถึงที่สุด เพราะว่าอย่างน้อยจะได้เป็นคดีตัวอย่าง ทำให้นักเรียนไม่กล้าจะทำอย่างนี้อีก มันโหดร้ายเกินไป ไหนจะเด็กเสียขวัญ ไหนจะพ่อแม่ ไม่มีใครอยากจะเสีย แต่มันเกิดแล้วเราก็ต้องรับสภาพและอยากให้จัดการให้กับคนร้ายให้ถึงที่สุด ไม่อยากให้มีคนแบบนี้ในแผ่นดินบ้านเรา อยากฝากเตือนสังคมอย่าทำอะไรที่มันรุนแรงแบบนี้อีก เราอยู่ด้วยกันเราเป็นนักเรียนเป็นพี่น้องกัน ไม่น่าจะทำกันถึงขนาดนี้ในการตัดสินปัญหาทุกอย่างมันแก้ไขได้ทุกอย่างมีทางออก