"จากหัวใจลึกๆ ก็สงสารพ่ออยู่ หากพ่อถูกประหารชีวิตก็อยากเอาศพพ่อมาทำพิธีทางศาสนาเจ้ากรรมนายเวรจะได้ไม่จองเวรจองกรรม ยอมรับพ่อเป็นคนอารมณ์ร้อนมากจึงก่อเหตุต่อเนื่องแบบนี้ เหมือนผมผมก็อารมณ์ร้อนเหมือนกัน  เคยคุยกับพ่อจำได้ว่าที่ดินของพ่อที่มี 3 แห่งขายหมดแล้วเพื่อมาจ้างทนายมาต่อสู้คดีเพื่อให้ศาลตัดสินจำคุกตลอดชีวิต ปกติตนเองก็ไม่ได้อยู่พ่อสมคิดอยู่แล้ว พ่อสมคิดเป็นเพียงผู้ให้กำเนิดแต่ส่วนใหญ่ไม่ได้เลี้ยงตนเองมาอยู่กับพ่อหน่องมากกว่า"นายจาตุรงค์ กล่าว

นายจาตุรงค์ กล่าวต่ออีกว่า ถ้าถามว่ารักพ่อไหมก็รัก ภูมิใจที่พ่อให้กำเนิดผมมา แต่ว่าคนเราทำกรรมก็ต้องชดใช้กรรม ต้องยอมรับความจริง แกก็มีส่วนดีเหมือนกันแต่พ่อสมคิดอารมณ์ร้อนไปหน่อยน้องชายก็เคยถูกพ่อตีศีรษะ เชื่อว่าพ่อคงไม่ได้ออกมาจากคุกเพราะผลกรรมที่พ่อทำไว้ หากพ่อถูกประหารชีวิตจริงก็อยากนำศพพ่อมาบำเพ็ญตามประเพณี หรือหากแกได้ออกมาจากคุกอีกคิดว่าแกคงไม่ทำฆาตกรต่อเนื่องอีกแล้วแกแก่แล้วคงคิดได้

ส่วนเรื่องนายสมคิด พุ่มพวง ศาลตัดสินให้ประหารชีวิต ครูหน่อง กล่าวว่า ความรู้สึกก็คล้อยตามสังคม ศาลท่านพิจารณาแล้ว ถือเป็นบทเรียนกับใครที่มีพฤติกรรมแบบนี้กับผู้หญิง ถือเป็นบทเรียนที่เด็ดขาดและเป็นการป้องปรามอีกทางหนึ่ง โดยหนุ่ย หน้าลายได้มาถามผมเมื่อวานนี้ว่า พ่อหน่องเราจะไปรับศพพ่อสมคิดไหม ผมรู้ข่าวแล้วแต่ผมก็แกล้งถามหนุ่ย หน้าลายว่า เดี๋ยวรอฟังข่าวนะ ถ้าทางนั้นเขาติดต่อมาอย่างไรเราค่อยว่ากัน

"แต่ความรู้สึกของหนุ่ยคนเป็นลูกคือหากประหารชีวิตพ่อสมคิดจริงเขาอยากเอาศพพ่อมาบำเพ็ญตามประเพณีนี่คือความรู้สึกของเขาที่มีต่อพ่อสมคิด ตอนนี้ผมก็ดูแลหนุ่ย หน้าลายและภรรยาเขาอยู่ อยากให้เขามีที่ยืนในสังคม เติบโตเป็นคนดีของสังคมเพราะตอนนี้สังคมให้โอกาสเขาแล้วแม้ที่ผ่านมาเขาจะผ่านเรื่องไม่ดีมาเยอะ" ครูหน่องกล่าว