"ครูปรีชาฟ้องทนายตั้ม" จบด้วยดี ต่างฝ่ายต่างขอโทษ ลุ้นฟัง 22 ส.ค. ถอนอายัดบัญชีลุงจรูญ
8 ส.ค. 2562, 18:54
จากกรณี นายปรีชา ใคร่ครวญ หรือ ครูปรีชา เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง ร.ต.ท.จรูญ วิมูล อดีตข้าราชการตำรวจ สภ.บ่อพลอย อ.บ่อพลอย จ.กาญจนบุรี ในคดีอาญา หมายเลขดำ ที่ อ.1863/61 ข้อหายักยอกทรัพย์ รับของโจร เนื่องจากทั้งคู่ต่างอ้างว่าเป็นเจ้าของสลากกินแบ่งรัฐบาล รางวัลที่ 1 งวดประจำวันที่ 1 พ.ย.60 เลข 533726 จำนวน 1 ชุด 5 ใบ เป็นเงินจำนวน 30 ล้านบาท
ต่อมาวันที่ 4 มิ.ย.62 ศาลจังหวัดกาญจนบุรี มีคำพิพากษายกฟ้อง ร.ต.ท.จรูญ วิมูล แต่คดีปลีกย่อยที่ฟ้องแยกออกไปยังมีอีกหลายคดี นอกจากคดีหลักดังกล่าวแล้ว ก่อนหน้านี้ครูปรีชา ใคร่ครวญ ยังได้ยื่นฟ้องแพ่งต่อหมวดจรูญ เป็นเงินจำนวน 30 ล้านบาท ซึ่งศาลได้ประทับรับฟ้องเป็นคดีแพ่ง คดีเลขดำที่ พ.1230/60
โดยหลังจากที่ศาลพิพากษายกฟ้องหมวดจรูญ เมื่อวันที่ 4 มิ.ย.ในคดีอาญา ซึ่งถือว่าเป็นคดีหลัก วันที่ 1 ก.ค.62 ที่ผ่านมานายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม จึงได้ยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อขอให้มีคำสั่งถอนอายัดเงินในบัญชีธนาคารของหมวดจรูญ และศาลได้นัดไต่สวนคำร้อง ในเวลา 13.30 น.วันนี้ (8 ส.ค.62)
ขณะเดียวกัน เมื่อวันที่ 15 มี.ค. 62 ครูปรีชา ใครครวญ ได้มอบอำนาจให้นางสุดาทิพย์ พินิจจันทร์ เป็นทนายความ ยื่นฟ้องนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ ทนายความส่วนตัวของ ร.ต.ท.จรูญ วิมูล หรือหมวดจรูญ ซึ่งศาลจังหวัดกาญจนบุรีได้ประทับรับฟ้องในคดีอาญาหมายเลขดำที่ อ.671/62 ข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา และศาลได้นัดไต่สวนมูลฟ้องในวันนี้ (8 ส.ค.62) เวลา 09.00 น.สรุปคือวันนี้ศาลได้นัดคู่ความทั้ง 2 ฝ่าย มาไต่สวนมูลฟ้องคดีคดีอาญาหมายเลขดำที่ อ.671/62 และนัดไต่สวนคำร้อง คดีเลขดำที่ พ.1230/60 รวม 2 คดี
ล่าสุดเมื่อเวลา 16.00 น.วันนี้ 8 ส.ค. 62 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า นายปรีชา ใคร่ครวญ หรือ ครูปรีชา พร้อมด้วยนายวรยุทธ บุญวงศ์ใส ทนายความส่วนตัว ได้ออกมาพบสื่อมวลชนที่รอทำข่าวอยู่ด้านหน้าศาลจังหวัดกาญจนบุรี โดยนายวรยุทธ เปิดเผยว่าในช่วงเช้าเป็นการไต่สวนมูลฟ้องกรณีที่ครูปรีชา ฟ้องทนายตั้มในข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา แต่ก่อนที่จะมีการไต่สวนมูลฟ้อง ศาลท่านได้มีการไกล่เกลี่ยกันก่อน และสามารถตกลงและไกล่เกลี่ยกันได้ จึงมีการถอนฟ้องคดีกันไป ซึ่งเรื่องก็จบลงกันไปด้วยดี
ส่วนในช่วงบ่ายได้มีการไต่สวนคำร้องการขอถอนอายัดเงินของฝ่ายจำเลย ซึ่งทางจำเลยก็ได้นำสืบจำนวน 2 ปาก และได้มีการซักค้านกันเรียบร้อยแล้วจึงเสร็จสิ้นกระบวนการพิจารณาซึ่งศาลท่านได้นัดฟังคำสั่งในวันที่ 22 ส.ค.62 เวลา 09.30 น.สำหรับคดีแพ่งยังไม่มีการยื่นอุทธรณ์ แต่ได้ยื่นอุทธรณ์ในคดีหลักก็คือคดีอาญา ซึ่งโจทก์ได้ยื่นขอขยายอุทธรณ์มาแล้วครั้งหนึ่ง และครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 ซึ่งศาลได้อนุญาตให้ยื่นขยายอุทธรณ์ครั้งที่ 2 ได้ถึงวันที่ 1 ก.ย.62
ส่วนการที่ฝ่ายจำเลยยื่นคัดค้านการยื่นขอขยายอุทธรณ์ของโจทก์นั้น ตนยังไม่เห็นคำร้องในสำนวนในการคัดค้าน ซึ่งการยื่นขยายคำร้องขอขยายเป็นเรื่องระหว่างตัวคู่ความกับศาลอยู่แล้ว ส่วนการที่ฝ่ายจำเลยจะยื่นคัดค้านก็เป็นสิทธิ์อยู่แล้ว แต่ตนยังไม่เห็นคำร้องในการคัดค้านแต่อย่างใด
ด้านนายปรีชา ใคร่ครวญ หรือครูปรีชา กล่าวถึงกรณีการถอนฟ้องทนายตั้มในวันนี้ว่า อันที่จริงเราไม่ได้มีเรื่องโกรธเคืองอะไรกัน เพียงแต่ว่าเราถูกละเมิดสิทธิ์ เราจึงต้องมาใช้สิทธิ์ตามกฎหมาย เพราะเราถูกละเมิด แต่เมื่อมีการพูดคุยกัน เจรจากันและสร้างความเข้าใจกันได้ ก็ถือว่าเป็นสิ่งที่ดี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเวลาต่อมา ร.ต.ท.จรูญ วิมูล นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้มทนายความส่วนตัว และนายอาคม คงสวัสดิ์ ทนายความ พร้อมด้วยนางลาวัลย์ วิมูล ภรรยาของหมวดจรูญ ก็ได้ออกมาพบสื่อมวลชนเช่นกัน
โดยนายษิทรา เบี้ยบังเกิด เปิดเผยว่า ฝ่ายจำเลยมีการสืบพยานจำนวน 2 ปาก ปากแรกครูตนส่วนลุงจรูญ เป็นปากที่ 2 สำหรับฝ่ายโจทก์ไม่มีพยานจึงเสร็จสิ้นการพิจารณา และศาลได้นัดฟังคำสั่งในวันที่ 22 ส.ค.62 เวลา 09.30 น.ก็ต้องมาลุ้นกันว่าศาลท่านจะมีคำสั่งให้ถอนอายัดเงินที่ได้อายัดเอาไว้หรือไม่
สำหรับคดีที่ครูปรีชาฟ้องผมในข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา ซึ่งศาลได้นัดไต่สวนมูลฟ้องในช่วงเช้าที่ผ่านมา แต่เมื่อถึงเวลาก่อนการไต่สวนมูลฟ้อง ศาลท่านได้เรียกครูปรีชา เข้าไปพบก่อน ซึ่งตนก็คิดอยู่ในใจว่าจะต้องมีอะไรสักอย่างหนึ่ง และเมื่อครูปรีชาออกมา ศาลท่านก็ได้ให้ฝ่ายผมเข้าไปพบ ศาลท่านก็ได้บอกว่า ทางครูปรีชามีความประสงค์ที่จะถอนฟ้อง ถ้าหากมีการขอโทษ ก็คือขอให้ผมขอโทษที่ได้โพสต์หมิ่นครูปรีชา ผมจึงแจ้งไปที่ศาลว่าผมไม่สามารถขอโทษได้เพราะว่าข้อความที่ผมโพสต์ไปมันไม่ผิดกฎหมาย
แต่ศาลท่านได้บอกว่าไม่อยากให้มีคดีให้มันรกศาล เพราะตั้งแต่ทำคดีหวย 30 ล้านมา ต่างฝ่ายต่างก็เสียดสีกันไปมา ถึงแม้บางครั้งมันจะไม่ผิดกฎหมาย แต่มันก็อาจจะทำให้อีกฝ่ายหนึ่งเสียหายได้ ผมจึงคิดว่ามันก็เป็นความจริงตามสิ่งที่ศาลท่านพูด ส่วนตัวผมเองก็ถูกฝ่ายโน้นเสียดสีเหมือนกัน แต่ก็ได้พูดคุยกันจนเข้าใจทั้ง 2 ฝ่าย ผมในฐานะที่เป็นเด็กกว่าจึงกล่าวขอโทษทั้งทนายวรยุทธ และทางครูปรีชา ซึ่งหลังจากที่ผมขอโทษ ทางครูปรีชา ก็ได้มีการกล่าวขอโทษผม รวมทั้งขอโทษคุณลุงจรูญ และขอโทษพี่ทนายอาคม ด้วยว่าถ้าหากมีอะไรล่วงเกิน ซึ่งทางทนายวรยุทธก็ขอโทษเราเช่นกัน ซึ่งเรื่องก็จบลงไปอย่างแฮปปี้ในเรื่องนี้ แต่ต้องขอบอกก่อนว่าเรื่องนี้ไม่มีเงื่อนไขเชื่อมโยงกับคดีอื่น จบเฉพาะคดีหมิ่นประมาทเพียงคดีเดียวเท่านั้น
สำหรับคดีอาญาที่ทางฝ่ายโจทก์ยื่นขยายเวลาการอุทธรณ์ออกไปอีก เมื่อสักครูนี้หลังจากเสร็จจากการไต่สวน ตนได้มาที่ห้องสำนวนและได้ยื่นคำร้องคัดค้านไปแล้ว ว่าหากมีการขอขยายเวลาอุทธรณ์ออกไปอีก จะต้องให้มีพฤติการณ์พิเศษ โดยให้เขาอ้างเหตุผลมาด้วย
ส่วนหมวดจรูญ เปิดใจว่า ไม่ได้รู้สึกหนักใจอะไร แต่เพียงต้องรอให้ศาลท่านเมตตา เพราะเวลาก็ล่วงเลยมาเกือบ 2 ปีแล้ว ซึ่งเรื่องราวทั้งหมดก็เริ่มกระจ่างขึ้นมาเยอะแล้วถึงแม้จะยังไม่สิ้นสุดก็ตาม แต่ก็ยังรอความเมตตาจากศาลอยู่