มท.1 มอบนโยบายสำคัญแก่ผู้ว่าฯ-นายก อบจ.ใหม่
5 เม.ย. 2564, 13:34
วันนี้ (5 ส.ค.64) เวลา 13:00 น. ณ ห้องคอนเวนชั่น เซ็นเตอร์ ชั้น 4 โรงแรมรามาการ์เด้นส์ พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย มอบนโยบายสำคัญของกระทรวงมหาดไทยให้แก่ผู้ว่าราชการจังหวัดและนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดที่ได้รับการเลือกตั้งใหม่ โดยมี นายทรงศักดิ์ ทองศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายอนุชา โมกขะเวส ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวงมหาดไทย นายประยูร รัตนเสนีย์ อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงมหาดไทย ผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดทุกแห่ง
พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา กล่าวว่า กระทรวงมหาดไทยทำหน้าที่ในการบริหารราชการส่วนกลางและส่วนภูมิภาคผ่านการบังคับบัญชา และอีกหน้าที่หนึ่งคือเป็นพี่เลี้ยงในการส่งเสริมและกำกับดูแลการบริหารงานขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ซึ่งในทุกจังหวัดผู้ว่าราชการจังหวัดทำหน้าที่ในการบริหารราชการส่วนภูมิภาค และนายกองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทำหน้าที่ในการบริหารจัดการบริการสาธารณะในท้องถิ่นนั้น โดยทั้งสองส่วนนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งในการขับเคลื่อนการดำเนินงานภาครัฐและแก้ไขปัญหาต่าง ๆ เพื่อสนองตอบความต้องการของประชาชน ทั้งนี้ ในการทำงานที่ผ่านมา ขอขอบคุณและชื่นชมการขับเคลื่อนการดำเนินงานแก้ไขปัญหาและสกัดกั้นการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ทั้งผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทุกระดับที่ได้ขับเคลื่อนการสกัดกั้นการระบาดของโรคโควิด-19 ในพื้นที่อย่างเข้มข้นต่อเนื่อง ตั้งแต่การจัดทำหน้ากากผ้ามอบให้กับประชาชน นอกจากนี้ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นหลายแห่งมีการช่วยเหลือ เยียวยาประชาชนผู้ด้อยโอกาสที่ได้รับผลกระทบในรูปแบบต่าง ๆ ทำให้ประเทศไทยสามารถควบคุมการแพร่ระบาดของโรคดังกล่าวได้ และเป็นตัวอย่างให้กับนานาประเทศ
พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา กล่าวต่อว่า ในด้านการบริหารราชการแผ่นดิน รัฐบาลให้ความสำคัญในการขับเคลื่อนการบริหารราชการแผ่นดินทุกระดับ ทั้งราชการส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค และส่วนท้องถิ่น โดยนำยุทธศาสตร์เชื่อมโยงกับแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม และแผนด้านความมั่นคงจัดทำเป็นนโยบายรัฐบาลที่เชื่อมโยงกับแผนพัฒนาหมู่บ้าน แผนพัฒนาตำบล แผนพัฒนาท้องถิ่น แผนจังหวัด แผนกลุ่มจังหวัดอย่างสอดคล้องกันบนพื้นฐานของการพัฒนาพื้นที่ที่ผ่านการประชาคมจากประชาชนในพื้นที่ เช่น ด้านการเกษตร การท่องเที่ยว หรืออุตสาหกรรม เป็นต้น เพื่อจัดทำแผนงานโครงการตอบสนองตามอำนาจหน้าที่และความต้องการของประชาชน ครอบคลุมทั้งมิติ Function Agenda และ Area เป็นไปในทิศทางเดียวกันในลักษณะ One Plan นอกจากนี้ ในด้านการดำเนินงานศูนย์อำนวยการขจัดความยากจนและพัฒนาคนทุกช่วงวัยอย่างยั่งยืนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง (ศจพ.) องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจะร่วมเป็นคณะทำงานในการขับเคลื่อนการดำเนินงานเพื่อร่วมกันบริหารและพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนในแต่ละพื้นที่
พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา กล่าวต่อว่า ในด้านการบริหารจัดการแหล่งน้ำในพื้นที่ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเป็นคณะทำงานในการขับเคลื่อนการบริหารจัดการทั้งภาวะน้ำแล้งและน้ำท่วม โดยดำเนินการบริหารจัดการ เช่น เมื่อเกิดสถานการณ์น้ำท่วมต้องผลักดันน้ำไปเก็บในพื้นที่ไม่มีน้ำ เพื่อมีน้ำเพียงพอในช่วงฤดูแล้ง และในด้านการบูรณาการแก้ไขปัญหาผักตบชวาต้องดำเนินการอย่างต่อเนื่องในทุกแหล่งน้ำเพื่อให้เกิดผลเป็นรูปธรรม นอกจากนี้ในด้านการบริการจัดการขยะ คณะกรรมการจัดการสิ่งปฏิกูลและมูลฝอยจังหวัดจะพิจารณาแนวทางและให้คำแนะนำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในการแก้ไขปัญหาการจัดการขยะในพื้นที่ ทั้งพื้นที่สาธารณะ พื้นที่ชุมชน และพื้นที่เกาะต่าง ๆ นอกจากนี้ ต้องรณรงค์ประชาชนให้เข้าใจและแยกขยะตั้งแต่ต้นทาง คือ ครัวเรือน รวมทั้งการบำบัดน้ำเสียก่อนปล่อยลงสู่ท่อสาธารณะ หรือลำน้ำคูคลองเพื่อจะได้มีแหล่งน้ำสะอาดในการอุปโภคบริโภคของประชาชน โดยมีองค์การจัดการน้ำเสีย (อจน.) เป็นพี่เลี้ยงในการพิจารณาดำเนินการบำบัดน้ำเสียในพื้นที่ท้องถิ่นนอกจากนี้ ในการขับเคลื่อนงานศูนย์ดำรงธรรมทุกระดับ ซึ่งเป็นทางออกในการแก้ไขปัญหาให้กับพี่น้องประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน ตึงขอให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นร่วมกับจังหวัดพิจารณาแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนตามอำนาจหน้าที่
สุดท้าย พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา เน้นย้ำในการสร้างการรับรู้ให้กับพี่น้องประชาชนผ่านหอกระจายข่าว โดยนำข้อมูล องค์ความรู้ แนวทางการมีส่วนร่วมของประชาชน และผลการดำเนินงาน มาขยายผลสร้างการรับรู้อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ประชาชนได้ทราบและเข้าใจการทำงานของกระทรวงต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับประชาชนบนข้อมูลที่ถูกต้อง และสามารถมีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนงานกับภาครัฐ ทำให้การขับเคลื่อนการพัฒนาทุกท้องถิ่นเป็นไปอย่างยั่งยืน