รองนายกฯ พร้อม รมว.พลังงาน ลงพื้นที่ติดตามความก้าวหน้าสะพานมิตรภาพไทยลาวแห่งที่ 5 บึงกาฬ - บอลิคำไซ
4 เม.ย. 2564, 17:57
เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 4 เม.ย. ผู้สื่อข่าว ONb news รายงานว่า นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เดินทางมาตรวจติดตามการปฏิบัติราชการในส่วนภูมิภาค ในพื้นที่เขตตรวจราชการที่ 10 ในพื้นที่จังหวัดบึงกาฬ เพื่อตรวจเยี่ยมและติดตามความก้าวหน้าของการก่อสร้างสะพานมิตรภาพไทย-ลาวแห่งที่ 5 บึงกาฬ บอลิคำไซ และโครงการก่อสร้างทางหลวงหมายเลข 212 อำเภอโพนพิสัย - บึงกาฬ ตอนหอคำ- บึงกาฬ เพื่อพัฒนาโครงข่ายทางหลวงเชื่อมโยงกับประเทศเพื่อนบ้านภายใต้กรอบความร่วมมือ ทางเศรษฐกิจในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง และยุทธศาสตร์ความร่วมมือทางเศรษฐกิจ อิรวดี -เจ้าพระยา-แม่โขง
นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ กล่าวว่า โครงการก่อสร้างสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 5 บึงกาฬ บอลิคำไซ เป็นยุทธศาสตร์การพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขันของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในกลุ่มอนุภูมิภาคตอนบน และยุทธศาสตร์การพัฒนาจังหวัดบึงกาฬและจังหวัดใกล้เคียงที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาเศรษฐกิจ การค้า การลงทุนระหว่างประเทศ การเชื่อมโยงเส้นทางการคมนาคมและขนส่งระหว่างประเทศ การเชื่อมโยงเส้นทางการคมนาคมและขนส่งระหว่างประเทศไทย กับ สปป.ลาว สำหรับรับรองปริมาณการเดินทาง และการขนส่งสินค้าที่เพิ่มมากขึ้น โครงการนี้จึงถือว่ามีความสำคัญมาก ส่วนเรื่องความคืบหน้าโครงการรวมทุกสัญญานั้น จากแผนงานโครงการในเดือนมีนาคมที่จะต้องก่อสร้างให้ได้ 1.491% ขณะนี้สามารถก่อสร้างได้ถึง 2.338% ซึ่งถือว่าเร็วกว่าแผนงานถึง 0.661% รวมความก้าวหน้าทุกสัญญาอยู่ที่ 5.594%
สำหรับโครงการก่อสร้างสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 5 บึงกาฬ - บอลิคำไซ แบ่งงานก่อสร้างออกเป็น 5 ส่วน คือ Package1A งานถนนฝั่งไทย ค่างาน 831,110,000 บาท สิ้นสุดโครงการ 16 ธ.ค. 2565, Package1B งานถนนฝั่งไทย และด่านพรมแดนฝั่งไทย ค่างาน 883,110,000 บาท สิ้นสุดโครงการ 13 มีนาคม 2566, Package2A งานสะพานข้ามแม่น้ำโขงฝั่งไทย (รวมงานปรับปรุงสี่แยกทางหลวงเลข 212 และลานอเนกประสงค์ใต้สะพาน ค่างาน 786,523,850 บาท สิ้นสุดโครงการ 8 พ.ย. 2566, Package2B งานสะพานข้ามแม่น้ำโขง ฝั่ง สปป.ลาว ค่างาน 379,197,622.70 บาท สิ้นสุดโครงการ 3 มกราคม 2567, และPackage3 งานถนนและด่านพรมแดนฝั่งสปป.ลาว ค่างาน 773,180,000 บาท สิ้นสุดโครงการ 3 ก.ค. 2566
ก่อนหน้านี้ช่วงเช้าเวลา 08.00 น.รองนายกและคณะได้ขึ้นไปชมความสวยงามของหินสามวาฬ ที่เขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าดงดิบกะลา ป่าภูสิงห์และป่าดงสีชมพู บ้านโนนไทรทอง หมู่ที่ 8 ต.โคกก่อง อ.เมืองบึงกาฬ จ.บึงกาฬ ที่แหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียง สวยงาม อยู่เขตป่าไม้ สามารเข้าถึงได้ แต่ต้องปฏิบัติตามกติกา เพื่อรักษาธรรมชาติที่สวยงามเอาไว้ ซึ่งเชื่อว่าแหล่งท่องเที่ยวหินสามวาฬแห่งนี้ จะเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญ และมีชื่อเสียงไม่ใช่เฉพาะแต่เพียงคนไทยเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติด้วย ฉากด้านหลังที่เห็นอยู่นี้ก็มีความสวยงาม แม้อยู่ในช่วงหน้าร้อนยังสวยงามขนาดนี้ หากได้มาช่วงหน้าฝนหรือหน้าหนาวก็จะยิ่งสวยงามมากขึ้น