ติดตั้งระบบโซลาร์รูฟท็อป ให้กับ รพ.หลังสวน
8 ส.ค. 2562, 17:08
เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2562 ภาคประชาชนในอำเภอหลังสวน จังหวัดชุมพร ขับเคลื่อนความเป็นธรรมทางพลังงานโดยเข้าร่วมกิจกรรมอบรมความรู้เรื่องระบบการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์และปฏิบัติการติดตั้งระบบโซลาร์รูฟท็อปขนาด 30 กิโลวัตต์ ให้กับโรงพยาบาลหลังสวน หลังจากเมื่อวันอาทิตย์ที่ 4 สิงหาคม 2562 ที่ผ่านมา ได้มีกิจกรรมเดิน วิ่ง ปั่นจักรยานรายได้ทั้งหมดไม่หักค่าใช้จ่ายสมทบเข้ากองทุนแสงอาทิตย์เพื่อนำไปติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ให้กับโรงพยาบาล
การติดตั้งระบบโซลาร์รูฟท็อปครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของปฏิบัติการช่วงแรกของกองทุนแสงอาทิตย์ (Thailand Solar Fund) ที่ใช้เงินบริจาคจากประชาชนทั้งหมดเพื่อสร้างการพึ่งพาตนเองด้านพลังงานให้กับโรงพยาบาลของรัฐ 7 แห่ง ด้วยการผลิตไฟฟ้าจากโซลาร์รูฟท็อปในระบบออนกริดหรือระบบที่ไม่ใช้แบตเตอรี่สำรองแต่ยังเชื่อมต่อระบบกับการไฟฟ้า โรงพยาบาลหลังสวนจะเป็นโรงพยาบาลแสงอาทิตย์แห่งแรกของภาคใต้และแห่งที่ 2 ของกองทุนแสงอาทิตย์ ปัจจุบันค่าไฟฟ้าของโรงพยาบาลเฉลี่ยเดือนละ 5 แสนบาท ผู้ร่วมบริจาครายใหญ่ นายปราโมทย์ อุทัยรัตน์ ทนายความและเพื่อน และชาวหลังสวนอีกจำนวนมาก
นายแพทย์ศักดิ์สิทธิ์ มหารัตนวงศ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลหลังสวน จ.ชุมพร กล่าวว่า “โรงพยาบาลมีศักยภาพในการติดตั้งโซลาร์รูฟท็อป โดยมีอาคารบริการของโรงพยาบาลที่มีความเหมาะสมในการติดตั้งและลงทุน มีบุคลากรที่ทำงานซ่อมบำรุงที่จะสามารถเข้าร่วมอบรมเพื่อพัฒนาทักษะในการร่วมติดตั้งและดูแลรักษาอีกราว 8 คน โรงพยาบาลมีนโยบาย และคณะกรรมการบริหารโรงพยาบาลมีความมุ่งมั่นในการประหยัดพลังงานและการพึ่งพาตนเองด้านพลังงาน การระดมทุนเพื่อติดตั้งโซลาร์รูฟ ท็อปให้กับโรงพยาบาลจะช่วยลดภาระค่าไฟให้กับโรงพยาบาล และหากมีมาตรการประหยัดพลังงานและการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพร่วมด้วยจะช่วยให้ลดภาระค่าไฟฟ้าได้เพิ่มขึ้นอีก”
นางบุญยืน ศิริธรรม คณะกรรมการกองทุนแสงอาทิตย์ กล่าวว่า “ การบริจาคของประชาชนผ่านกองทุนแสงอาทิตย์เพื่อสนับสนุนให้โรงพยาบาลทั้ง 7 แห่งแรกของประเทศไทยสามารถติดตั้งโซลาร์เซลล์เพื่อผลิตไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์ภายในปี 2562 นั้น ถือเป็นจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญยิ่งในการต่อกรกับอุตสาหกรรมเชื้อเพลิงฟอสซิลที่ผูกขาดอำนาจการจัดการพลังงาน เมื่อทุกหลังคาบ้านติดตั้งโซลาร์เซลล์แล้วนอกจากจะลดค่าบิลไฟฟ้าของครอบครัว ยังลดการนำเข้าเชื้อเพลิงฟอสซิลจากต่างประเทศอีกทั้งหายนะทางสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของทุกคน ประชาธิปไตยทางพลังงานย่อมจะเกิดเมื่อเราสามารถพึ่งพาตนเองด้านพลังงาน”
นางจริยา เสนพงศ์ ผู้ประสานงานรณรงค์ด้านพลังงานและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ กรีนพีซ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กล่าวว่า “ทางออกเพื่อสร้างความเป็นธรรมทางพลังงานคือกลไกเชิงนโยบายที่รับประกันถึงสิทธิของประชาชนในการผลิตไฟฟ้าจากแหล่งพลังงานหมุนเวียนที่สะอาดและส่งไฟฟ้าขายเข้าระบบสายส่งได้ก่อนโดยไม่จำกัดจำนวน ช่วยยกระดับเศรษฐกิจครัวเรือนและลดความเหลื่อมล้ำทางสังคมผ่านมาตรการ Net Metering [4] เครือข่ายกองทุนแสงอาทิตย์ และกรีนพีซเสนอให้คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (Energy Regulatory Commission of Thailand) ออกมาตรการ net metering โดยเร็ว”