จากกรณีที่ฝ่ายปกครอง  อ.ปรางค์กู่  ร่วมกับตำรวจ สภ.ปรางค์กู่  บุกเข้าจับกุม พระกรันยา  ถาวรธัมโม  อายุ  59  ปี  ประธานที่พักสงฆ์เนื้อนาบุญ  ต.โพธิ์ศรี  อ.ปรางค์กู่  จ.ศรีสะเกษ  ในข้อหาแต่งกายเลียนแบบพระสงฆ์  หลังจากที่คณะสงฆ์ศรีสะเกษฝ่ายธรรมยุต  ได้แถลงผลการสอบอธิกรณ์ว่าการสอนผิดเพี๊ยน  และได้นำตัวพระกรันยาไปที่  สภ.ปรางค์กู่  เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย  ตามข่าวที่ได้นำเสนอไปแล้วนั้น

ล่าสุด เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 30 มี.ค. 64 ที่อดีตที่พักสงฆ์เนื้อนาบุญ  ต.โพธิ์ศรี  อ.ปรางค์กู่  จ.ศรีสะเกษ  ปรากฏว่าเช้านี้ยังคงมีลูกศิษย์และพุทธศาสนิกชนทั่วไปพากันมาปฏิบัติธรรมอย่างต่อเนื่อง  โดยต่างพากันปฏิบัติธรรมตามจุดต่างๆ รอบบริเวณ  ขณะที่อดีตนายกรันยา  อินธนู  หรืออดีตพระกรันยา  ยังอยู่ในที่พักส่วนตัว  และต่อมานายกรันยาได้เดินออกมาบริเวณด้านหน้าที่พัก  ปรากฏว่าได้มีบรรดาลูกศิษย์พากันเข้าไปก้มกราบด้วยความเคารพศรัทธาเช่นเดิม  ซึ่งนายกรันยาได้ขอร้องบรรดาลูกศิษย์ว่าอย่าได้ก้มกราบอีก  แต่บรรดาลูกศิษย์ต่างพากันกล่าวว่า  พวกตนเคารพกราบไหว้ท่านด้วยความศรัทธาภายในจิตใจของท่าน  ไม่ได้เคารพท่านที่กายภายนอก  แม้ว่าท่านจะไม่ได้เป็นพระสงฆ์แล้ว  แต่พวกตนก็พากันเคารพรักท่านเปรียบเสมือนพ่อของพวกเรา

นายกรันยา  อินธนู  หรืออดีตพระกรันยา ถาวรธัมโม  อดีตประธานที่พักสงฆ์เนื้อนาบุญ กล่าวว่า ตนได้แจ้งแก่ลูกศิษย์ทุกคนว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้  อย่าได้โกรธเกลียดใคร  เจ้าหน้าที่เขาทำตามหน้าที่  ทุกอย่างมันเป็นไปตามกรรม  ส่วนการสอนศีล  5  นั้น  ก็จะยังคงสอนศีล 5 แก่ลูกศิษย์เช่นเดิม โดยเฉพาะอย่างยิ่งการปฏิบัติธรรมแบบสะเทิ้นน้ำสะเทิ้นบกดับวิญญาณ  ซึ่งผู้ที่ปฏิบัติธรรมนี้ได้  จะทำให้บรรลุมรรคผล  โดยเส้นผมจะม้วนเป็นวงกลม กลิ่นกายก็จะหอม  ซึ่งการที่คณะสงฆ์ธรรมยุตได้สั่งปิดที่พักสงฆ์เนื้อนาบุญแล้ว  แต่ว่าที่ดินตรงนี้เป็นที่ส่วนบุคคล  คณะศรัทธาธรรมจากทั่วประเทศสามารถที่จะเข้ามาหาและสนทนาธรรมกับตนได้ตลอดเวลา ส่วนในเรื่องคดีความนั้น ตนได้ให้การรับสารภาพต่อพนักงานสอบสวน  สภ.ปรางค์กู่  ตามที่ได้รับแจ้งข้อหาว่า  แต่งกายเลียนแบบพระสงฆ์  ทั้งนี้เพื่อต้องการให้เรื่องราวต่าง ๆ จบลงด้วยดี  และเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความเสื่อมเสียต่อคณะสงฆ์ศรีสะเกษฝ่ายธรรมยุต  ตนศรัทธาในคำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า  เพราะพระธรรมคำสอนของพระองค์ท่านอยู่ในตัวและจิตวิญญาณของตน  ส่วนศาลสถิตยุติธรรมจะพิพากษาอย่างไรนั้น  ก็สุดแท้แต่ความเมตตาของศาล  จ.ศรีสะเกษ  ต่อมา  คณะของนายกรันยาได้ออกเดินทางจากอดีตที่พักสงฆ์เนื้อนาบุญ  เพื่อเดินทางไปที่  สภ.ปรางค์กู่ จ.ศรีสะเกษ  เพื่อพบพนักงานสอบวน  ที่จะได้นำตัวนายกรันยาไปส่งฟ้องต่อศาล  จ.ศรีสะเกษ  โดยมีคณะลูกศิษย์ยืนพนมมือคอยส่งจนพ้นบริเวณอดีตที่พักสงฆ์เนื้อนาบุญ