นายกฯ-มท.1 ลงพื้นที่จ.ยะลา พบปะพี่น้อง 3 จังหวัดชายแดนใต้ เน้นมุ่งแก้ปัญหาความรุนแรง-สร้างความสงบ
7 ส.ค. 2562, 13:37
วันนี้ (7ส.ค.62) เวลา 10.30 น. ที่ห้องประชุมชั้น 2 อาคารศูนย์ราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ จังหวัดยะลา พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายทรงศักดิ์ ทองศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย คณะรัฐมนตรี นายฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวงมหาดไทย และผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงมหาดไทย เดินทางเข้ามอบนโยบายแก่หัวหน้าส่วนราชการ และพบปะพี่น้องประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยมีการถ่ายทอดสดผ่านระบบ Video Conference ไปยังศูนย์ราชการจังหวัดปัตตานี และจังหวัดนราธิวาส โอกาสนี้ นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ร่วมรับฟังการมอบนโยบายและพบปะประชาชน ณ ศูนย์ราชการจังหวัดนราธิวาส ด้วย
พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มอบเงินค่าตอบแทนการทำงานของผู้นำศาสนาในพื้นที่ 5 จังหวัดให้กับประธานกรรมการอิสลามประจำจังหวัดจาก 5 จังหวัด มอบเงินช่วยเหลือเยียวยาให้แก่ผู้แทนของกลุ่มผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบจังหวัดชายแดนภาคใต้ จำนวน 5 ราย มอบบัตรส่งเสริมการลงทุนของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนและมอบประกาศเกียรติคุณให้กับภาคเอกชนที่มีการลงทุนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ พร้อมหนังสือสำคัญแสดงกรรมสิทธิ์ที่ดิน (โฉนดที่ดิน) ให้กับผู้นำศาสนา และผู้แทนประชาชนจังหวัดนราธิวาส ยะลา และปัตตานีจำนวน 3 ราย
จากนั้น พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลและทุกส่วนราชการมีความห่วงใยชีวิตและความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนทุกเชื้อชาติ ศาสนา และชาติพันธุ์ ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้เช่นเดียวกับพี่น้องในภูมิภาคอื่น ๆ และอาจจะมากกว่าที่อื่นด้วย เนื่องจากที่แห่งนี้ยังคงมีภัยคุกคามชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน นั่นคือการใช้ความรุนแรงที่นำไปสู่เหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ ซึ่งในความเป็นจริงแล้วถ้าที่นี้ไม่มีเหตุการณ์ความไม่สงบ ผมเชื่อมั่นว่าจะเป็นพื้นที่ที่มีความสำคัญต่อการพัฒนาประเทศสูงมาก เนื่องจากองค์ประกอบทางกายภาพและความพร้อมของพื้นที่หลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ทรัพยากรมนุษย์ในพื้นที่ที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรม ภาษา และสังคม เป็นศูนย์กลางการเชื่อมต่อกับอนุภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ตอนล่าง ไม่ว่าจะเป็นประเทศมาเลเซีย ประเทศสิงคโปร์ ประเทศอินโดนีเซีย และประเทศบรูไน ซึ่งมีอัตลักษณ์ร่วมกัน คือ มีพี่น้องมุสลิมร่วมอาศัยอยู่จำนวนกว่า 300 ล้านคน ซึ่งการบริหารราชการของคณะรัฐมนตรีที่ผ่านมาได้เดินหน้าแก้ไขปัญหาและพัฒนาชีวิตความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้หลายเรื่อง มุ่งมั่นดูแลรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชนและการรักษาความสงบเรียบร้อยในภาพรวมของพื้นที่ เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานทุกนายได้ทำหน้าที่ด้วยความเหน็ดเหนื่อยและเสียสละ เพื่อหวังจะให้พี่น้องประชาชนดำเนินชีวิตได้ตามปกติสุข และผลการปฏิบัติงานที่ผ่านมาถือว่าน่าพึงพอใจในระดับหนึ่ง แต่ความตั้งใจของรัฐบาลที่มุ่งหวังสูงสุด นั่นคือ การแก้ไขปัญหาความไม่สงบในพื้นที่แห่งนี้ให้สำเร็จเรียบร้อยดี ประชาชนทุกฝ่ายทุกคนอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข และร่วมมือการพัฒนาพื้นที่แห่งนี้ไปสู่ความเจริญ ตลอดจนจะต้องไม่มีผู้บริสุทธิ์หรือเจ้าหน้าที่แม้แต่รายเดียวเสียชีวิตหรือได้รับบาดเจ็บอีก
ด้านนายอนุชิต ตระกูลมุทุตา ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา กล่าวว่า จังหวัดยะลาได้ดำเนินการขับเคลื่อนงานตามยุทธศาสตร์ 10 วาระจังหวัดยะลา วาระที่ 1 Durian City เป็นเมืองทุเรียนแห่งภาคใต้ตอนล่าง เน้นการผลิตเกษตรแปลงใหญ่เป็นหลัก ลดต้นทุนการผลิต เป็นศูนย์กลางการค้าทุเรียน จังหวัดชายแดนภาคใต้มีพื้นที่ปลูกทุเรียนทั้งหมด 94,391ไร่ ให้ผลผลิต 52,111 ตัน สามารถสร้างรายได้ให้กับประชาชน 4,072,995,760 บาท จังหวัดที่มีเกษตรกรปลูกทุเรียนมากที่สุด คือ จังหวัดยะลา จำนวน 54,197 ไร่ สร้างรายได้ 2,529,023,120 บาท รองลงมาคือ จังหวัดนราธิวาส จำนวน 30,542 ไร่ สร้างรายได้ 1,246,417,520 บาท และ จังหวัดปัตตานี จำนวน 9,652 ไร่ สร้างรายได้ 297,555,120 บาท
จากนั้น นายกรัฐมนตรี และคณะ เข้าเยี่ยมชมและเปิดศูนย์ประสานและบริการการพัฒนาแบบเบ็ดเสร็จ (OSOS) และศูนย์เยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจังหวัดชายแดนภาคใต้ ภายในอาคารศูนย์ราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้