พระเมธีธรรมาจารย์ เตรียมประสานวิทยาลัยสงฆ์ทั่วประเทศ พร้อมปรับกลยุทธ์ตามกรอบงบประมาณรัฐบาล
7 ส.ค. 2562, 08:56
หลังจากเมื่อวันที่ 6 สิงหาคม 2562 คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างงบประมาณปี 2563 วงเงิน 3.2 ล้านล้านบาท โดยมีรายละเอียดดังนี้
1. รายจ่ายประจำ 74.7%
2. ชดใช้กลับเข้าคลัง 0.2%
3. งบลงทุน 20.5% (655,000 ล้านบาท)
4.ชำระเงินต้นจากการกู้ 2.8% (89,770 ล้านบาท)
5. งบขาดดุล 469,000 แสนล้านบาท
นายกรัฐมนตรี แถลงว่าทุกกระทรวงจะได้รับงบประมาณเกือบจะใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา แม้จะมีเปอร์เซ็นต์การขึ้นของงบประมาณก็ตาม โดยเล็งที่จะปรับลดงบรายจ่ายประจำและงบลงทุนเพื่อไปใช้จ่ายอย่างอื่น (ของรัฐบาล)
งบประมาณ 3.2 ล้านล้านบาทนี้ จะเห็นว่าเป็นงบขาดดุลกว่า 4 แสนล้านบาท
ทั้งนี้ พระเมธีธรรมาจารย์ รองอธิการบดี ฝ่ายแผนฯ มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย(มจร.) จึงมีการปรับโครงสร้างงบประมาณให้สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล โดยกล่าวว่า
"มจร. เราต้องปรับตัวและต้องเคร่งครัดในวินัยการเงินการคลัง ไม่เช่นนั้นจะเกิดภาวะฟองสบู่ภายในองค์กร
วิทยาเขต วิทยาลัยสงฆ์ จะต้องทราบสถานะที่แท้จริงทางการเงินของหน่วยงานตนเองและจะต้องวางแผนในแต่ละปีงบประมาณให้ดี มีประสิทธิภาพและบรรลุประสิทธิผล
ทุกส่วนงานอย่าหวังพึ่งงบประมาณของรัฐเพียงอย่างเดียว ทำอย่างไรจึงจะหางบนอก เช่น งบบริจาค งบจากท้องถิ่นและอื่นๆ มาสนับสนุนกิจการของเราหรือจะหาทางลดรายจ่ายอย่างไรให้เห็นเป็นรูปธรรมและมีเปอร์เซ็นลดลงอย่างชัดเจน เช่น ค่าสาธารณูปโภคที่ยังสูงอยู่ หรือสร้างจิตสำนึกภายในองค์กร เช่น ทุกคนจะต้องช่วยกันประหยัดน้ำ ประหยัดไฟ ปฏิบัติได้เช่นนี้ก็จะช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายขององค์กร เป็นต้น
อย่าใจใหญ่ มือเติบ หรือทำอะไรโดยที่ไม่คำนึงถึงรายจ่ายที่จะติดตามมา และบางแห่งก็พยายามที่จะอธิบายว่างบประมาณที่ได้มานั้นจะต้องสนองนั่นสนองนี่ และโดยเฉพาะงบเหลือก่อสร้างจะต้องคืนให้วิทยาเขต วิทยาลัยสงฆ์ทั้งหมด"
พระเมธีธรรมาจารย์ยังกล่าวอีกว่า "เรื่องงบประมาณเหลือจ่ายจากการก่อสร้างนั้นเป็นอำนาจของคณะกรรมการการเงินและทรัพย์สินในการอนุมัติ ไม่ใช่อำนาจของฝ่ายแผน ซึ่งขณะนี้กองแผนงานก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ พยายามแสวงหาทางออกให้ อย่างเต็มกำลัง แต่จะต้องอยู่ภายใต้กฎระเบียบทางการเงินอย่างเคร่งครัด
จึงขอให้ทุกภาคส่วนใจเย็นๆ ให้คำนึงถึงกฎเกณฑ์ของงบประมาณให้มากที่สุด เพราะวันนี้กระบวนการตรวจสอบนั้นเป็นเรื่องใหญ่ ซึ่งหากพลาดแล้วก็ไม่สามารถจะแก้ไขอะไรให้กลับคืนมาได้ เดี๋ยวจะมาเสียใจกันภายหลัง จึงต้องยึดความถูกต้องและสุจริตเป็นที่ตั้ง
ช่วยกันครับ ในภาวะที่งบประมาณของรัฐฝืดเคือง กองแผนงานยินดีที่จะสนองงานอย่างเต็มกำลัง มีอะไรโทรหาหรือมาพูดคุยกันได้ตลอดเวลา กองแผนงานไม่มีอำนาจอะไรไปมากกว่าการสนองงานของมหาวิทยาลัยในเรื่องแผนและงบประมาณเพื่อให้เกิดธรรมาภิบาลในทุกภาคส่วนครับ"