เปิด ปิด การใช้งานคุกกี้ของ ทรูฮิต (Truehits Cookies)



สถานีเพาะชำกล้าไม้บุรีรัมย์ คึกคัก!! "เกษตรกร" แห่เข้าคิวตี 4 รอรับพันธุ์กล้าไม้ยืนต้น


5 มิ.ย. 2562, 19:00



สถานีเพาะชำกล้าไม้บุรีรัมย์ คึกคัก!! "เกษตรกร" แห่เข้าคิวตี 4 รอรับพันธุ์กล้าไม้ยืนต้น




เกษตรกรแห่เข้าคิวตั้งแต่ตี 3 เพื่อมารอเข้าคิวรับพันธุ์กล้าไม้ยืนต้น ที่สถานีเพาะชำกล้า คูเมือง เผยกระแสต้องการพันธุ์กล้าไม้ยืนต้นสูงเป็นประวัติการณ์จนไม่พอกับความต้องการ คาดปีหน้ามากกว่านี้เตรียมของบเพิ่มกล้าไม้ให้เพียงพอ เชื่อคนไทยยังรักในหลวงรัชกาลที่ 9 ที่ทรงส่งเสริม

 


วันที่ 5 มิ.ย. 62  ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า ที่สถานีเพาะชำกล้าไม้บุรีรัมย์ อ.คูเมือง จ.บุรีรัมย์ เกษตรกรทั้งจังหวัดบุรีรัมย์ และจังหวัดใกล้เคียง แห่มาขอรับพันธุ์กล้าไม้ยืนต้น เช่น ไม้ยางนา, ไม้สัก, ประดู, พยุง, ตะเคียนทอง ฯลฯ ที่สถานีฯ ได้เพาะไว้เพื่อแจกให้กับผู้สนใจจะนำไปปลูกในที่ดินของตัวเองโดยบรรยากาศที่สถานีเพาะชำฯ เป็นไปอย่างคึกคัก มีเกษตรกรเดินทางมาเพื่อรอรับบัตรคิวมากกว่า 1,000 คน บางกลุ่มมารอที่หน้าสถานีตั้งแต่ 04.00 น. เพื่ออยากได้คิวอันดับต้นๆ

 


 



นางปาริชาติ ศรัญบุรุษ อายุ 55 ปี ชาว อ.สตึก บอกว่า อยากได้กล้ายางไปปลูกทดแทนต้นไม้ที่หายไป อยากจะปลูกไว้เพื่อกันตลิ่งพังและให้ลูกหลานเพราะในอนาคตไม้จะหายากขึ้น เช่นเดียวกับ นางบังอร จักรคำ อาชีพครู ที่อยากจะปลูกไม้ยืนต้นไว้เป็นปอดของคนไทยและชาวโลก

 


ด้านนายอภิรัตน์ พิรุฬห์ หัวหน้าสถานีเพาะชำกล้าไม้บุรีรัมย์ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ได้ประกาศทางเฟชบุ๊กของสถานี แต่ไม่น่าเชื่อว่าจะมีคนแห่มาขอรับมากมายขนาดนี้ ทั้งที่เตรียมการไว้อย่างดี ทั้งนี้จากกระแสการปลูกไม้ยืนต้นที่ว่าดีที่สุดในปีที่ผ่านมา มาปีนี้เห็นผู้คนแล้วถือว่ามากสุดเป็นประวัติการณ์ของผู้ต้องการปลูกไม้ยืนต้น และถือเป็นนิมิตหมายที่ดีของประเทศไทย

หัวหน้าสถานีเพาะชำกล้าไม้บุรีรัมย์ ยังกล่าวด้วยว่า ปีที่ผ่านมาเพาะกล้าไว้ประมาณ 100,000 ต้น แต่ไม่พอกับความต้องการของเกษตรกร ปีนี้เพาะเพิ่มขึ้น แต่ก็ยังถือว่าขาดไปอีกหลายเท่าตัวหากนับจำนวนผู้ที่มายื่นขอรับ ซึ่งถือเป็นที่น่าแปลกใจหากเปรียบเทียบกับยุคก่อนหน้านี้ที่ทั้งแจกทั้งจ้างให้ปลูกกลับไม่มีคนสนใจ มาถึงปีนี้ยิ่งตอกย้ำความต้องการปลูกป่าของประชาชน แห่มาขอรับกันแน่นเป็นประวัติการณ์ 

 


 


ส่วนสาเหตุคาดว่าคนไทยคิดถึงในหลวง รัชกาลที่ 9 ที่ทรงส่งเสริม ประกอบกับการปลดมาตรา 7 ของ พ.ร.บ.ป่าไม้ คนทั่วไปสามารถปลูกและตัดไม้ได้อย่างเสรีได้ในที่ดินที่มีกรรมสิทธิ์เป็นของตัวเอง ทำให้ประชาชนทุกภาคส่วนตื่นตัวอยากปลูกต้นไม้ไว้ให้ลูกหลานกันเป็นทวีคูณ และคาดว่าสถานการณ์ความต้องการกล้าไม้ยืนต้น ยังจะมีสูงขึ้นอีก จึงเตรียมจะของบประมาณเพิ่มมาเพาะกล้าไม้ให้มากที่สุดเท่าที่กำลังจะทำได้ เพื่อสนองความต้องการของเกษตรกรที่อยากปลูกต้นไม้
 

 






Recommend News






MOST POPULAR


























©2018 ONBNEWS. All rights reserved.