จากกรณีล่าสุด "พิมรี่พาย" แม่ค้าขายของออนไลน์ชื่อดัง ได้ลงพื้นที่สำรวจชุมชนคลองเตย พื้นที่ใจกลางเมืองโดยพบว่าช่วงเวลากลางคืนชาวบ้านในชุมชนต้องใช้ชีวิตด้วยความยากลำบาก ตลอดทางเดินเข้าไปในชุมชมนั้นมืดมิด เนื่องจากไม่มีไฟบริเวณทางเดิน ซึ่งในคลิปวีดิโอดังกล่าวพิมรี่พายได้นำโซล่าเซลล์จำนวนกว่า 100 ดวง ไปติดบริเวณทางเดินชุมชนคลองเตย และสนามฟุตบอลเด็กเล่น ทำให้ชาวเน็ตนั้นแห่ชื่นชมอย่างหนัก แต่ก็ไม่วายโดนวิพากษ์วิจารณ์ว่าการไปติดไฟแบบนี้ได้ขออนุญาตเจ้าของพื้นที่หรือยัง และที่ดินบริเวณดังกล่าว เคยถูกการท่าเรือฟ้องขับไล่มาแล้วในอดีตตั้งแต่ปี 2515 และศาลก็มีคำสั่งรื้อถอนไปแล้ว แต่คนในพื้นที่ไม่ได้มีการย้ายออก ดังนั้นผู้ที่อาศัยอยู่จึงถือว่าบุกรุก เหมือนพิมรี่พายทำแบบนี้เป็นการสนับสนุนให้คนในชุมชนอยู่ในพื้นที่นานขึ้นหรือเปล่า

 

             ล่าสุด(3มี.ค.64) ทางด้าน ผู้อำนวยการการท่าเรือแห่งประเทศไทย เผยว่า พิมรี่พาย สามารถนำไฟมาติดได้ ไม่ผิดกฏหมาย และได้มาขออนุญาตอย่างถูกต้องแล้ว ส่วนกรณีแสงสว่างที่ไม่เพียงพอนั้น การท่าเรือไม่ได้ละเลย แต่อาจจะมีบางส่วนที่ดูแลไม่ทั่วถึงเพราะมีประชากรอาศัยอยู่ในชุมชนคลองเตยจำนวนมาก 

ต่อมา "พิมรี่พาย" ได้ออกมาเผยว่า ตนเองนั้นเบื่อมากกับเรื่องเดิมๆ ทำความดี เอาเงินที่ขายของมาได้ไปช่วยสังคม ก็มีแต่คนจับผิดตั้งข้อสงสัยไปหมด แล้วตนก็ต้องออกมาพูดถึงดราม่าตลอด รู้สึกเสียเวลาทำมาหากินมาก  และกรณีคลองเตยนั้นก็มีชาวเน็ตตั้งข้อสงสัยทำแบบนี้ขออนุญาติหรือเปล่าหรือสนับสนันให้เขาอยู่นานหรือเปล่า  พอมีคนตั้งคำถามหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็จะได้ไปหาคำตอบ ซึ่งมันเป็นสิ่งที่ดีและก่อนจะเข้าไปก็ทำหนังสือขออนุญาตการท่าเรือแล้วส่วนเรื่องการฟ้องร้องเรียกคืนนั้นขออนุญาตไม่ยุ่ง ไม่ใช่เรื่องที่จะไปโวยวายแทน เขามีการจัดการเรียบร้อย ซึ่งเขาจะสร้างอะไรให้ชุมชน หรือให้เงินเพื่อย้ายที่นั้น หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำลังทำอยู่ ถ้าพูดกันตรง ๆ คือ "ไม่เ-ือก"  ถ้าสมมุติเขาฟ้องร้องกันเสร็จเรียบร้อย เขาก็แค่ย้ายออกไป ไฟของพิม เขาจะเอาไป หรือไม่เอาไป มันก็เรื่องของเขา ไม่ได้อยากก็แค่โยนทิ้ง ก่อนจะวิจารณ์ใครก็ช่วยหาข้อมูลก่อนไม่ใช่รู้ครึ่งๆกลางๆแล้วก็ด่า