ปลัดกระทรวงสาธารณสุข รับมอบอาคารเฉลิมพระเกียรติพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
3 มี.ค. 2564, 18:44
วันนี้ (1 มีนาคม 2564) ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า ที่โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา จ.นครราชสีมา นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ประธานรับมอบอาคารเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี (ศูนย์อุบัติเหตุและฉุกเฉิน) โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา พร้อมครุภัณฑ์ทางการแพทย์ โดยมีนายกรกต ธำรงวงศ์สวัสดิ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา นพ.พงษ์เกษม ไข่มุกด์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข เขตสุขภาพที่ 9 และ นพ.เกรียงศักดิ์ วัชรนุกูลเกียรติ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา และคณะผู้บริหาร ร่วมพิธี
นายแพทย์เกียรติภูมิ กล่าวว่า การก่อสร้างอาคารสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เพื่อเพิ่มพื้นที่ให้บริการ ลดแออัด ลดรอคอย เนื่องจากจังหวัดนครราชสีมาเป็นเส้นทางหลักที่ประชาชนเดินทางผ่านไปยังจังหวัดภาคอีสาน และภาคเหนือ โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา เป็นโรงพยาบาลศูนย์ในภูมิภาคที่มีขนาดที่ใหญ่ที่สุดในสังกัดสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข จำนวนเตียงประมาณ 1,300 เตียง ดูแลรับส่งต่อใน เขตสุขภาพที่ 9 ได้แก่ นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ชัยภูมิ และจังหวัดใกล้เคียง เป็นศูนย์เชี่ยวชาญด้านอุบัติเหตุและฉุกเฉิน โรคหัวใจและหลอดเลือด มะเร็ง หลอดเลือดสมอง ทารกแรกเกิด ปลูกถ่ายอวัยวะ ทำให้มีผู้รับบริการจำนวนมาก มีผู้ป่วยประมาณ 1.1 แสนคนต่อเดือน แบ่งเป็นผู้ป่วยในวันละ 1,600-1,700 คน ผู้ป่วยนอกวันละกว่า 4,300 คน ผู้ป่วยอุบัติเหตุและฉุกเฉินมากถึง 300 รายต่อวัน แนวโน้มเพิ่มขึ้นทุกปี โดยเฉพาะในช่วงเทศกาล
สำหรับอาคารเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี (ศูนย์อุบัติเหตุและฉุกเฉิน) โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงรับเป็นประธานจัดหาทุนก่อสร้างอาคาร ได้พระราชทานทุนเริ่มต้น 10 ล้านบาท และพระราชทานชื่ออาคารว่า “อาคารเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี (ศูนย์อุบัติเหตุและฉุกเฉิน) โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา” โดยมีพระเทพวิทยาคม (หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ) และหลวงพ่อกัณหา สุขกาโม เมตตารับเป็นประธานจัดสร้างอาคาร ซึ่งก่อสร้างพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกและครุภัณฑ์ทางการแพทย์ จากเงินบริจาคทั้งหมด 1,398 ล้านบาท เป็นเงินที่ประชาชนร่วมทำบุญผ้าป่าและร่วมบริจาคก่อสร้างอาคาร 748 ล้านบาท และงบที่ได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล จัดซื้อครุภัณฑ์ที่จำเป็น จำนวน 650 ล้านบาท เป็นอาคารสูง 12 ชั้น ประกอบด้วย ศูนย์อุบัติเหตุ-ฉุกเฉิน ศูนย์ส่องกล้องทางเดินอาหาร ห้องผ่าตัด หอผู้ป่วยบาดแผลไฟไหม้ น้ำร้อน หอผู้ป่วยวิกฤตโรคหัวใจ หอผู้ป่วยวิกฤตทางอุบัติเหตุ หอผู้ป่วยอุบัติเหตุทั่วไป หอผู้ป่วยพิเศษ และลานจอดเฮลิคอปเตอร์ เปิดให้บริการแก่ประชาชน เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2564 ที่ผ่านมา