เปิด ปิด การใช้งานคุกกี้ของ ทรูฮิต (Truehits Cookies)



คนร้ายสารภาพ ปมฆ่าด.ญ.ม.3 ก่อนนำร่างไปทิ้งกลางถนน หวังจัดฉากอำพรางคดี


1 มี.ค. 2564, 21:16



คนร้ายสารภาพ ปมฆ่าด.ญ.ม.3 ก่อนนำร่างไปทิ้งกลางถนน หวังจัดฉากอำพรางคดี




จากกรณี พ.ต.อ.พงษ์พสิษฐ์ ทองด้วง ผกก.สภ.บางกล่ำ รับรายงานมีเหตุพบศพหญิงสาววัยรุ่นอายุประมาณ 15 ปี เสียชีวิตอยู่บริเวณร่องกลางถนนเพชรเกษมสายเอเชียตัดนิคมอุตสาหกรรม ต.ท่าช้าง อ.บางกล่ำ จ.สงขลา หลังรับรายงานจึงได้รายงานให้ พล.ต.ต.ทิวธวัช นครศรี ผบก.สส.ภ.9 , พ.ต.อ.ศักดา  เจริญกุล รอง ผบก.สส .ภ.9, พ.ต.อ.บรรพต เดชมา ผกก.สืบสวน2 บก.สส.ภ.9  พ.ต.ท.ทศพล อารมณ์รัตน์ รอง ผกก.สืบสวน2 บก.สส.ภ.9, พ.ต.ท.วีระ หมวดเอียด สว.สืบสวน 2 บก.สส.ภ.9 พ.ต.อ.ธนวัฒ เส้งสุย ผกก.สส.จว.สงขลา และชุดสืบสวนจังหวัดสงขลา พร้อมประสากองพิสูจน์หลักฐานจังหวัดสงขลาและเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิมิตรภาพสามัคคี ท่งเซียเซี่ยงตึ๊งหาดใหญ่ เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ 


 
ที่เกิดเหตุพบศพหญิงสาวทราบชื่อ น.ส.อริศรา ยังจุฬา อายุ 15 ปี สวมเสื้อแขนยาวสีม่วง กางเกงยีนต์สีขาว นอนเสียชีวิตบริเวณร่องกลางถนน ในสภาพโดนจักรยานยนต์ล้มทับใบหน้า ทำให้ใบหน้าบวมปูดเหมือนถูกของแข็ง ส่วนรถจักรยานยนต์ที่ทับร่างพบเป็นรถจักรยานยนต์ฮอนด้าเวฟ สีขาวดำ ทะเบียน 1กย 4231 สงขลา ไม่มีร่องรอยเฉี่ยวชนแต่อย่างใดและยังพบรองเท้าผู้ชาย 1 คู่ 

 

ล่าสุดที่บ้านป่ายาง หมู่ที่ 9 ตำบลท่าช้าง อำเภอบางกล่ำ จ.สงขลา ซึ่งเป็นบ้านของ น.ส.อริสรา จันตุลา หรือ น้องนิน่า อายุ 15 ปี ซึ่งเป็นบ้านพักส่วนตัวของน้องนิน่าได้อาศัยอยู่กับพ่อแม่และพี่ชาย โดยบริเวณหน้าบ้านน้องนิน่าพบมีบรรดาญาติๆ ต่างจับกลุ่มพูดถึงกับการจากไปของน้องนิน่าด้วยความคิดถึงและสาปแช่งคนร้ายที่ลงมือฆ่าน้องนิน่าอย่างโหดเหียม ซึ่งมีนายอนันต์ จันตุลา อายุ 47 ปี พ่อน้องนิน่า ร่วมวงสนทนาอยู่ด้วย 

 

จากการพูดคุย  นายอนันต์ จันตุลา ได้เล่าว่า เมื่อวันที่ 26 ก.พ. ช่วงเวลา 11.00 น. น้องนิน่าได้ขออนุญาตแม่ไปเที่ยวบ้านเพื่อนและบ้านแฟน โดยเอารถจักรยานยนต์ของตนไป ซึ่งเป็นเรื่องปกติของน้องนิน่าที่ชอบออกไปเที่ยวในช่วงวันหยุดเสาร์อาทิตย์ และช่วงเวลา 03.00 น. ของวันที่ 27 ก.พ. ตนได้โทรตามน้องนิน่าเพื่อจะเอารถจักรยานยนต์ไปกรีดยางต่ออีกที่แต่น้องนิน่าไม่รับโทรศัพท์ จนกระทั้งเวลา 09.00 น. มีเจ้าหน้าที่มาแจ้งตนซึ่งตนกำลังกรีดยางอยู่แจ้งว่า ลูกสาวของตนได้เสียชีวิต ให้ทางครอบครัวน้องนิน่าไปยืนยันว่า ใช่สมาชิกคนในบ้านหรือไม่ จากนั้นตนได้เดินทางไปยังจุดเกิดเหตุก็พบว่าน้องนิน่าเสียชีวิตจริงๆ ความรู้สึกตอนนั้นเมื่อเห็นน้องนิน่าสมองตัวเองมึนไปหมดคิดอะไรไม่ออก พอตั้งสติได้ก็พบว่าน้องนิน่าไม่ได้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุแต่เสียชีวิตจากการโดนฆ่าแล้วนำมาอำพราง หากวิญญาณมีจริงอยากให้น้องนิน่ามาหาแต่ก็ไม่เจอวิญญาณน้องนิน่ามาหา เกือบทั้งคืนที่ตนนอนไม่หลับและเฝ้ารอน้องนิน่าบริเวณหน้าบ้านเพื่อจะถามหาคนร้ายว่าใครฆ่าจากน้องนิน่า

 


ส่วนภายในบ้านพัก ผู้สื่อข่าวได้พบกับน.ส.ไหมเหนาะ พลหนุ้ย อายุ 47 ปี ซึ่งเป็นแม่น้องนิน่า ที่ยังอยู่ในอาการโศกเศร้า เหม่อลอย จากการพูดคุยกับแม่น้องนิน่า ทราบว่า ช่วงก่อนเกิดเหตุน้องนิน่าได้โทรมาตนว่าอยากกินไก่ทอดตนจึงตอบว่าไก่หมดแล้ว จากนั้นน้องนิน่าได้ขออนุญาตตนไปกินชาบูกับเพื่อน ตนจึงชวนน้องนิน่าไปเที่ยวด้วยกันเพราะวันนี้รู้สึกเซงๆ แต่น้องนิน่ายืนยันจะไปกินชาบูกับเพื่อน ตนจึงอนุญาติให้ไปเที่ยวและกำหนดเวลากลับบ้านในเวลาหนึ่งทุ่มตรงแต่น้องนิน่าจะขอกลับบ้านดึก ต่อมาตนจึงได้โทรหาน้องนิน่าในเวลาหนึ่งทุ่มแต่น้องนิน่าไม่รับสาย ตนจึงคิดว่าน้องนิน่าขี่รถจักรยานยนต์ไม่ว่างรับสาย จากนั้นตนได้โทหาอีกครั้งช่วงเวลา 01.00 น. น้องนิน่าก็ไม่รับสายจนเวลา 03.00 น. ก็ยังไม่รับสายซึ่งเป็นเรื่องปกติที่น้องนิน่าไปนอนค้างบ้านเพื่อนจึงไม่ค่อยรับสาย จนกระทั้งมาทราบข่าวช่วงสายๆว่าน้องนิน่าเสียชีวิตแล้ว 

 

ช่วงก่อนสองวันที่จะเกิดเหตุมีลางบอกเหตุ ตนได้เข้าไปนอนเป็นเพื่อนกับน้องนิน่าในห้องนอน จากนั้นน้องนิน่าได้บอกตนให้กอดตัวเค้าหน่อย ซึ่งเหมือนเป็นลางบอกเหตุ โดยปกติน้องนิน่าไม่ค่อยให้ตนกอดเท่าไรแต่วันนั้นรู้สึกแปลกๆแต่ไม่คิดอะไร จนมาเกิดเรื่องดังกล่าวขึ้น 

หลังน้องนิน่าเสียชีวิตตนกินข้าวไม่ได้นอนไม่หลับ เพราะคิดถึงน้องนิน่าอยากให้น้องนิน่ามาหาตนเพราะคิดถึงน้องนิน่า ตนอยากจะถามคนร้ายว่าทำไมต้องฆ่าลูกของตน 


ล่าสุดเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนภูธรภาค 9 ชุดสืบสวนจังหวัดสงขลา ตามจับกุมตัวคนร้ายที่ลงมือฆ่าน้องนิน่าได้แล้วในพื้นที่ อำเภอกงหรา จังหวัดพัทลุง ซึ่งเป็นชายอายุ 49 ปี พร้อมรถยนต์โตโยต้า โคโลล่า สีบอร์น ทะเบียน กง 856 ประจวบคิริขันธ์ ซึ่งเป็นรถยนต์คันที่ใช้ก่อเหตุ ก่อนควบคุมตัวมาสอบสวนเพิ่มเติมที่ตั้งชุดสืบสวนจังหวัดสงขลา เบื้องต้นสารภาพจะลงมือข่มขืนเหยื่อแต่เหยื่อเกิดการขัดขืนเลยลงมือฆ่าทิ้ง

พร้อมเปิดไทม์ไลน์น้องนิน่าก่อนถูกชาย 49 ปี ลงมือฆ่า เวลา 00.13 น. น้องนิน่าได้ขี่รถจักรยานยนต์ฮอนด้าเวฟ 125i สีขาวดำ ทะเบียน 1กย 4231 สงขลา ออกจากบ้านน้องมีน (แฟนหนุ่ม) ก่อนจะขี่รถจักรยานยนต์ไปตามเส้นทางถนนลพบุรีราเมศวร์ มุ่งหน้ากลับบ้านพักบ้านป่ายาง ในขณะเดียวกันน้องนิน่าได้หยิบมือถือขึ้นมาบันทึกตัวเองที่กำลังตัดพ้อแฟนหนุ่มเรื่องไม่สนใจความรู้สึกของตัวเองแม้กระทั้งปล่อยให้ตัวเองขี่รถจักรยานยนต์กลับบ้านเพียงลำพังโดยไม่สนใจก่อนที่น้องนิน่าจะแวะปั้มน้ำมัน ปตท. สาขา ท่าช้าง อ.บางกล่ำ 

ซึ่งขณะเดียวกันมีชายวัย 49 ปี (ผู้ต้องหา)  ได้ขับรถยนต์โตโยต้า โคโลน่า สีบอร์น ทะเบียน กง 856 ประจวบคิรีขันธ์ จอดเติมน้ำมันอยู่ภายในปั้มน้ำมันก่อนหน้า หลังเติมน้ำมันเสร็จชายวัย 49 ปี ก็ได้ขับรถยนต์ออกไปจากปั้มน้ำมัน
ส่วนน้องนิน่าหลังเติมน้ำมันเสร็จก็ได้ขี่รถจักรยานยนต์ออกจากปั้มน้ำมันตามหลังออกไปในช่วงเวลา  00.24 น.(ช่วงเวลา 00.13-00.24 น. คือช่วงเวลาที่น้องนิน่าขี่รถจักรยานยนต์ออกมาจากบ้านน้องมีนที่ชุมชนบ้านโคกเมามาที่



ปั้มน้ำมัน ปตท. ซึ่งไม่ทราบว่าชายวัย 49 ปี พบเห็นน้องนิน่าระหว่างทางก่อนถึงปั้มน้ำมัน หรือ เห็นน้องนิน่ากำลังขี่รถจักรยานยนต์เข้าปั้มน้ำมันในช่วงที่ชายวัย 49 ปี ขับรถยนต์ออกจากตู้น้ำมันหรือไม่ )

ต่อมาหลังชายวัย 49 ปี ขับรถยนต์ออกมาจากปั้มน้ำมันก็ได้จอดรถยนต์รอน้องนิน่า บริเวณริมถนนเลยปั้มน้ำมันเชลล์ หลังน้องนิน่าได้ขี่รถจักรยานยนต์ผ่านรถยนต์ของชายวัย 49 ปี ที่ดักรอน้องนิน่า ชายวัย 49 ปี ก็ได้ขับรถยนต์ตามน้องนิน่าไปและลงมือก่อเหตุ ซึ่งไม่ทราบว่าชายวัย 49 ปี เริ่มต้นลงมือก่อเหตุฆ่าน้องนิน่ายังไงและสถานที่ตรงไหน ในช่วงระยะทางจากถนนโคกเมายาวไปจนถึงสี่แยกนิคมอุตสาหกรรม หรือ ทางเข้าหมู่บ้านป่ายาง ซึ่งรวมระยะทาง 7 กิโลเมตร ซึ่งเส้นทางค่อนข้างที่จะมืดสนิทไม่มีไฟฟ้าส่องสว่าง มีเพียงไฟฟ้าส่องสว่างตรงบริเวณสี่แยกอุตสาหกรรมเท่านั้น ซึ่งนอกจากนี้ตรงข้ามนิคมอุตสาหกรรมยังมีป้อมตำรวจแต่ไร้เจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ที่ป้อมดังกล่าว ซึ่งนานๆครั้งจะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจแวะไปนั่ง โดยปกติช่วงเวลาในการขับขี่รถจักรยานยนต์หรือรถยนต์ จากปั้มน้ำมัน ปตท. สาขาท่าช้าง มายังตรงสี่แยกนิคมอุตสาหกรรม ใช้เวลาไม่ถึง 10 นาที โดยใช้ความเร็วอยู่ 40-60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ผ่านช่วงสี่แยกนิคมอุตสาหกรรม 

หลังผ่านไป 20 นาที ชายวัย 49 ปี ที่ขับรถยนต์และน้องนิน่าที่ขี่รถจักรยานยนต์ทั้งคู่ไม่มีวี่แววจะขับขี่ผ่านกล้องวงจรปิดปั้มน้ำมันบางจากแต่อย่างใด ก่อนที่อีก 20 นาทีต่อมา (รวมเป็น 40 นาที) ช่วงเวลา 01.10 น. ชายวัย 49 ปี ได้ขับรถยนต์ผ่านกล้องวงจรปิดปั้มน้ำมันบางจากไป แต่ไร้วี่แววน้องนิน่าขี่รถจักรยานยนต์ผ่านกล้องวงจรปิดปั้มน้ำมันบางจาก ก่อนชาวบ้านพบศพถูกทิ้งร่องกลางถนนในเวลา 06.00 น. จึงทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนมั่นใจว่าชายวัย 49 ปี คือ บุคคลต้องสงสัย 

ทั้งหมดนี้เป็นจุดเริ่มต้นของเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนภาค 9 ชุดสืบสวนจังหวัดสงขลาและชุดสืบสวน สภ.บางกล่ำ เริ่มแกะรอยคนร้ายซึ่งเป็นชายวัย 49 ปี จากจุดเริ่มต้นคือชายวัย 49 ปี ขับรถยนต์เข้ามาใช้บริการเติมน้ำมันภายในปั้มน้ำมัน ปตท. สาขาท่าช้าง ก่อนหน้าน้องนิน่าขี่รถจักรยานยนต์เข้ามาภายในปั้มน้ำมัน ปตท. สาขาท่าช้าง ระหว่างที่ชายวัย 49 ปี เติมน้ำมันอยู่นั้น ก็ได้ลงจากรถยนต์เดินมาที่ท้ายรถเพื่อปิดฝากระโปงหลังรถที่ปิดไม่สนิท ในจังหวะนี้ชุดสืบสวนได้สังเกตจับพิรุธรองเท้าแตะที่ชายวัย 49 ปี ที่สวมใส่ลงมาจากรถยนต์ซึ่งสอดคล้องกับหลักฐานที่พบในที่เกิดเหตุซึ่งเป็นรองเท้าแตะชายสีดำ 1 คู่ ตกอยู่ข้างศพน้องนิน่า จากนั้นชุดสืบสวนจึงเร่งแกะรอยจากกล้องวงจรปิดและไล่ล่าชายวัย 49 ปี ไปจนถึงอำเภอกงหรา จังหวัดพัทลุง ก่อนประสานชุดสืบสวนพื้นที่อำเภอกงหรา จังหวัดพัทลุง เสริมกำลังเข้าควบคุมตัวชายวัย 49 ปี ได้พร้อมรถยนต์คันที่ใช้ก่อเหตุไว้ได้

 


ก่อนตรวจสอบพบเสื้อฮู้ดสีน้ำตาลที่น้องนิน่าใส่ในคืนเกิดเหตุ ส่วนกระเป๋าสะพายที่ภายในมีเงินสดอยู่ 1,300 บาทและเครื่องสำอางค์นั้น ชายวัย 49 ปี ได้เอาเงินสดไปอย่างเดียว ส่วนได้กระเป๋าสะพายได้ทิ้งระหว่างทางหลบหนีไปอำเภอกงหรา หลังนำศพน้องนิน่าและรถจักรยายนต์ไปจัดฉากที่ร่องกลาถนนเพื่ออำพรางว่าน้องนิน่าได้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุรถเฉี่ยวชน โดยถอดรองเท้าแตะสีดำของตัวเองเสมือนว่าน้องนิน่าได้มากับเพื่อนชายอีกคนเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจโดยให้เจ้าหน้าที่ตามหาเพื่อนชายเจ้าของรองเท้าแตะแค่บริเวณหาดใหญ่เท่านั้น ส่วนตนเองก็จะรอดจากการถูกจับกุมจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพราะคิดว่าตนเองเป็นคนต่างถิ่น

 

 

สภาพศพน้องนิน่าจากการตรวจสอบเบื้องต้นพบบริเวณลำคอมีรอยช้ำจากการถูกบีบคอ ส่วนบริเวณใบหน้า เบ้าตาขวา และกรามซ้าย ถูกตีด้วยของแข็งจนบวมปูดและหักผิดรูป โดยมีรถจักรยานยนต์ล้มทับตั้งแต่ช่วงศรีษะจนถึงเอว 

 

 

หลังจับกุมตัวชายวัย 49 ปี ซึ่งได้ให้การรับสารภาพเบื้องต้นว่า สาเหตุที่ลงมือฆ่าน้องนิน่าชายวัย 49 ปี ได้ลงมือข่มขืนน้องนิน่าแต่น้องนิน่าเกิดอาการขัดขืนและมีการต่อสู้ก่อนจะลงมือฆ่าปิดปากน้องนิน่า ก่อนนำศพไปทิ้งร่องกลางถนนจัดฉากเพื่ออำพรางคดี ส่วนน้องนิน่าจะถูกชายวัย 49 ปี ลงมือข่มขืนหรือไม่นั้นต้องรอผลชันสูตรศพจากนิติเวชเร


คำที่เกี่ยวข้อง : #ด.ญ.ม.3   #ฆ่า   #ข่มขืน   #สงขลา  




Recommend News






MOST POPULAR


























©2018 ONBNEWS. All rights reserved.