กลายเป็นเรื่องราวที่สะเทือนใจคนไทยเป็นอย่างมาก จากกรณียายชราวัย 85 ชาวจ.ตราด เดินไม่ไหวต้องนั่งรถซาเล้ง ตระเวนตกปลาเพื่อนำไปขายหาเงินจ่ายค่าเช่าห้องและซื้อข้าวเลี้ยงลูกชายวัย 41 ปีที่ป่วยติดเตียง และน้องสาววัย 78 ปี ซึ่งหลังจากเรื่องนี้ถูกแชร์ออกไปก็มีประชาชนโอนเงินช่วยเหลือคุณยายเป็นจำนวนเงินเกือบ 6 แสนบาทนั้น

 ล่าสุด  ช่อง  One31 รายงานว่า เงินบริจาค  เกือบ 6 แสนบาทนั้น ถูกลูกสาวใช้เงินหมดจนเกลี้ยง นางสาลี่ นวลจันทร์ อายุ 78 ปี เล่าให้ฟังว่า เมื่อประมาณปลายปีที่แล้ว ลูกสาวของตนทราบข่าวเลยบอกว่าจะมารับไปอยู่ด้วย แต่จะขอเงินไปต่อเติมบ้านก่อน 170,000 บาท เมื่อต่อเติมเสร็จประมาณเดือนพฤศจิกายน ลูกสาวก็มารับตนพร้อมด้วยนางมณี และนายบุญหลง ซึ่งพิการ ไปอยู่ด้วย

          หลังจากไปอยู่ด้วย ลูกสาวก็พาตนเองไปธนาคารเพื่อทำบัตรเอทีเอ็ม และยึดบัตรเอทีเอ็มไป โดยที่ตนไม่รู้เลยว่า ลูกสาวนำเงินไปใช้อะไร นอกจากนี้ลูกสาวยังบอกว่า หากต้องการใช้เงินให้ขอผ่านลูกสาวเท่านั้น ทำให้ตนอึดอัด ซ้ำร้ายที่ผ่านมาลูกสาวยังเคยทำร้าย ผลักจนหงายหลังศีรษะกระแทกพื้น และยังเคยจับหมุนกับพื้นจนเวียนหัวมาแล้ว ก่อนจะไล่ให้พวกตนกลับมาอยู่ที่เดิมหลังจากที่ใช้เงินจนหมดแล้ว

 ด้าน นางสาวบุญยิ่ง งามขำ ลูกสาวคนดังกล่าว ยืนยันว่า เงินที่ได้มานั้น ตนเอาไปต่อเติมบ้านและใช้จ่ายในครอบครัว ไม่ได้เอาไปใช้ส่วนตัว อีกทั้งแม่ขอเงินใช้อาทิตย์ละ 4,000-5,000 บาท และจากการไกล่เกลี่ย น.ส.บุญยิ่ง ต้องคืนเงินแม่ทั้งหมด 672,700 บาท และทำสัญญาชดใช้ใหม่แม่เดือนละ 3,000 บาท จ่ายทุกวันที่ 15 ของเดือนจนกว่าแม่จะเสียชีวิต ซึ่งเท่ากับว่าต้องจ่ายคืน 18 ปี

          "มันไม่ใช่เดือนละแสนสองแสน คือใช้ไปเรื่อย ๆ แต่พอมามีปัญหาตรงนี้ ก็มาว่าเราเอาไปทำนู่นทำนี่ จริง ๆ เราไม่ได้เอาไปไหนเลย ตอนเขาป่วยไข้เราก็ไปซื้อยาให้เขากิน" 

อีกทั้งยังบอกว่า เธอไม่มีเจตนาไล่แม่ออกจากบ้าน แค่บอกว่า หากไปอยู่ห้องเช่าน่าจะดีกว่านี้
   ด้านเจ้าหน้าที่ได้พาคุณยายสาลี่ไปธนาคาร หลังจากที่เจรจาเสร็จ เพื่อปิดรับบริจาคและปิดบัญชีทั้งหมด และถอนเงินออกมาไว้ใช้จ่าย โดยที่คุณยายสาลี่ยืนยันว่า จะไม่กลับไปอยู่กับลูกอีกแล้ว แต่จะขอกลับไปอยู่ห้องเช่าแทน ส่วนในอนาคตอาจจะไปนั่งตกปลา เพราะแก่แล้ว