"จังหวัดเลย" จัดงานมหกรรมกัญชาทางการแพทย์ ต่อยอดสมุนไพรเพื่อเศรษฐกิจไทย
23 ก.พ. 2564, 14:22
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ห้องประชุมเอราวัณ โรงแรม ฟอร์ร่า ฮิลล์ รีสอร์ท อำเภอเมืองเลย จังหวัดเลย นายแพทย์ประพนธ์ ตั้งศรีเกียรติกุล ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เดินทางเป็นประธานการจัด งานมหกรรมกัญชาทางการแพทย์ ต่อยอดสมุนไพรเพื่อเศรษฐกิจไทยและโครงการ 3 หมอเมืองเลย มีชาวบ้าน เกษตรกร ผู้ที่สนใจเป็นจำนวนมาก เข้าร่วมงาน แต่ต้องเดินทางกลับบ้านก่อน เพราะไม่รู้ตัวเองจะไปอยู่ตรงไหน
นพ.ปรีดา วรหาร นายแพทย์สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเลย สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเลย กล่าวว่า ได้ดำเนินการตามนโยบายกระทรวงสาธารณสุข กำหนดให้การนำกัญชามาใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ เป็นนโยบายเร่งด่วน ประกอบกับนโยบายของผู้ตรวจราชการฯ เขตสุขภาพที่ 8 กำหนดการ Kick Off การปลูกกัญชาทางการแพทย์ การดำเนินงานการเข้าถึงบริการคลินิกกัญชาทางการแพทย์ ให้มีการเปิดคลินิกกัญชาทางการแพทย์ในโรงพยาบาล โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลทุกแห่งที่มีแพทย์แผนไทย และส่งเสริมผลิตภัณฑ์ สมุนไพร กัญชา กัญชง และการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ในวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2564 ซึ่งในปีที่ผ่านมากรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก เป็นหน่วยงานสนับสนุนยาแผนไทยที่มีกัญชาปรุงผสม ให้แก่คลินิกกัญชาทางการแพทย์ ในโรงพยาบาลของจังหวัดเลยจำนวน 5 แห่ง และในปีงบประมาณ 2564 จังหวัดเลยมีเป้าหมายเปิดให้บริการคลินิกกัญชาทางการแพทย์ครอบคลุมโรงพยาบาลทั้ง 14 แห่ง และโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลที่มีแพทย์แผนไทย 21 แห่ง เพื่อเพิ่มโอกาสการเข้าถึงกัญชา โดยมีโรงพยาบาลเอราวัณ โรงพยาบาลผาขาว โรงพยาบาลภูเรือ และโรงพยาบาลนาด้วงปิดให้บริการคลินิกกัญชาทางการแพทย์ทุกวัน ในวัน และเวลาราชการ เป็นทางเลือกในการรักษาโรคและดูแลสุขภาพภายใต้การกำกับดูแลของสหสาขาวิชาชีพอย่างถูกต้องและปลอดภัย อีกทั้งยังจัดทำโครงการพัฒนาการปลูกและแปรรูปกัญชาที่มีคุณภาพมีความปลอดภัยและได้มาตรฐาน สำหรับการใช้ทางการแพทย์แผนไทยโดยจังหวัดเลยมีโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล ร่วมกับวิสาหกิจชุมชน จำนวน 6 แห่ง และให้ประชาชนเป็นเจ้าของระบบสุขภาพที่แท้จริง ภายให้โครงการ "คนไทยทุกครอบครัวมีหมอประจำตัว 3 คน" คือการมีสุขภาพดีจากการได้รับบริการทางสุขภาพที่ดีทั้งการรักษา (care) การบริการสาธารณสุข (public health) และมีคุณภาพชีวิตจากปัจจัยทางสังคมที่ดี (social determinants of health) โดยประสานการทำงานดูแลประชาชนที่บ้านและชุมชนแบบ “ใกล้ตัว ใกล้บ้าน ใกล้ใจ” เพิ่มความครอบคลุมให้ได้รับบริการต่อเนื่อง ลดการเดินทาง ลดความแออัดของโรงพยาบาลขนาดใหญ่ เน้นการส่งเสริมสุขภาพ ป้องกันโรค และส่งต่อรักษาในโรคซับซ้อนยุ่งยาก
การจัดงานมหกรรมในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ เพื่อประชาสัมพันธ์การดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับคลินิกกัญชาทางการแพทย์การปลูกกัญชาทางการแพทย์และ ผลิตภัณฑ์จากกัญชา ภายใต้การกำกับดูแลของสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเลย และเครือข่าย เพื่อสร้างกระแสการใช้กัญชาในการดูแลสุขภาพ อย่างถูกต้องและปลอดภัย ให้กับเครือข่าย ประชาชน และอสม. แลกเปลี่ยนแนวคิด การบูรณาการงานด้านสมุนไพร กัญชา และการท่องเที่ยว ระหว่างหน่วยงานภาครัฐ และระหว่างหน่วยภาครัฐกับภาคเอกชน กระตุ้นการดำเนินงาน เป็นจุดเริ่มต้น (Kick Off) การขับเคลื่อนงานแบบบูรณาการด้านสมุนไพร กัญชา การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ จังหวัดเลย และโครงการ "คนไทยทุกครอบครัวมีหมอประจำตัว 3 คน"
โดยบูรณาการการดำเนินงานของภาคีเครือข่ายภายในจังหวัดเลย ทั้งภาครัฐ และเอกชน ให้เกิดความเข้มแข็ง และมีความสัมพันธ์อันดีต่อกัน ทั้งการสร้างเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้เกี่ยวกับกัญชาทางการแพทย์ เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงบริการที่ปลอดภัย มีคุณภาพ และเกิดความเชื่อมั่นต่อการมารับบริการ
ภายในงานมีกิจกรรมมากมาย ได้แก่ การจัดบูธนิทรรศการ คลินิกกัญชาทางการแพทย์แผนไทย, การปลูกกัญชาทางการแพทย์และการพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์กัญชา, ผลิตภัณฑ์สมุนไพรเชิงเศรษฐกิจ ต่อยอดผลิตภัณฑ์กัญชา, การแปรรูปอาหาร/เครื่องดื่มสมุนไพรกัญชา, อาหารอัตลักษ์ชาวไทเลย, การขออนุญาตปลูกและผลิตภัณฑ์จาก กัญชา กัญชง, ไทเลยทุกครอบครัว มีหมอประจำตัว 3 คน, พิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ระหว่าง วิสาหกิจชุมชนปลูกกัญชาฯ 6 แห่ง และผู้ประกอบการภาคเอกชน, พิธีมอบป้าย คนไทยทุกครอบครัวมีหมอประจำตัว 3 คน
นางเอ เกษตรกรที่เดินทางมาจาก อำเภอภูเรือ กล่าวว่า ตนนั้นสนใจในกิจกรรมครั้งนี้มาก เลยเดินทางมากับครอบครัวตั้งแต่เช้า เพื่อมาร่วมงาน แต่ก็ต้องผิดหวังก็เพราะเมื่อเดินเข้าไปในงานแล้ว มีแต่ส่วนราชการสาธารณะสุข ที่รอต้อนรับผู้บริหาร แต่ไม่รู้ว่าตนนั้นจะเข้าไปอยู่ตรงส่วนไหน ไม่มีจุดที่จะให้ชาวบ้านและเกษตรกรนั้น เข้าไปรับรู้เรื่องกัญชาจากหน่วยงานราชการที่มาออกบู๊ซ และเป็นช่วงที่จะต้องรอผู้บริหารมาเปิด ตนและเพื่อนเลยเดินทางกลับ และมีเกษตรกรและชาวบ้านจำนวนมากที่คิดแบบเดียวกัน ก็เดินทางกลับบ้านเช่นกัน เพราะไม่รู้ว่าพวกตนนั้น จะเข้าและไปอยู่ตรงไหน ในงานและกิจกรรมนี้เลยเดินทางกลับบ้านไปก่อน และผิดหวังในกิจกรรมนี้ หรือจะเป็นเพราะเดินทางไปร่วมกิจกรรมไม่ถูกเวลาก็ไม่ทราบได้
ทั้งนี้ ได้มีชาวบ้านจำนวนมาก ที่หวังจะเดินทางไปรับรู้ข้อมูล จากหน่วยงานของรัฐ เรื่องกัญชา ต้องผิดหวัง เดินทางกลับบ้านมาก่อน ก็เพราะว่าไม่รู้จะไปอยู่ตรงส่วนไหนงาน มีแต่หน่วยงานภาครัฐ ส่วนราชการเข้าไปห้องประชุมและไม่สามารถเข้าถึงการให้ข้อมูลที่ถูกต้องในการเข้าถึงเรื่องราว ความรู้และโอกาส ของกัญชากับชาวบ้านที่จะสามารถ ปลูกและสามารถนำไปทำเป็นอาชีพได้ เลยต้องเดินทางกลับบ้านก่อนเวลา