กาญจนบุรี ผอ.สำนักทรัพยากรน้ำบาดาล เขต 2 (สุพรรณบุรี) คาดสัปดาห์หน้าติดตั้งชุดกรองน้ำเสร็จ ปชช.ได้ชิม "พุน้ำแร่โซดา" แน่นอน พร้อมเตรียมเจาะสำรวจเพิ่มอีก 3 บ่อ เป็นแนวเดียวกัน คาดมีโอกาสพบพุเพิ่มอีก

ความคืบหน้ากรณีที่ กรมทรัพยากรน้ำบาดาล ลงสำรวจพื้นที่เจาะบ่อน้ำบาดาลเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชนในพื้นที่ ต.ห้วยกระเจา อ.ห้วยกระเจา จ.กาญจนบุรี และพบ พุน้ำแร่โซดา โดยรสชาติของน้ำซ่าคล้ายโซดา ซึ่งถือว่าเป็นบ่อบาดาลแห่งแรกของประเทศไทย โดย นายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล ได้ออกมาแถลงผลการตรวจสอบคุณภาพน้ำ ระบุว่า น้ำแร่จากบ่อดังกล่าวเป็นน้ำที่มีคุณภาพดีที่สุดในประเทศไทยเท่าที่เคยค้นพบมา นั้น

ล่าสุดวันนี้ ( 17 ก.พ. 64 ) ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า บรรยากาศที่บริเวณบ่อบาดาลที่พบพุน้ำแร่โซดา ซึ่งเป็นพื้นที่คาบเกี่ยวระหว่าง หมู่ 19 บ้านทุ่งคูณ ต.ห้วยกระเจา อ.ห้วยกระเจา และหมู่ที่ 12 บ้านสระตาโล ต.บ่อพลอย อ.บ่อพลอย ยังคงมีประชาชนที่ขับรถสัญจรผ่านไปผ่านมาจอดแวะลงมาเยี่ยมชม น้ำแร่พุโซดา ที่พุงขึ้นสูงถึง 10 เมตร อย่างไม่ขาดสายตลอดทั้งวัน โดยส่วนใหญ่ก็จะหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาถ่ายเซลฟีกัน เพื่อเก็บไว้เป็นที่ระลึก นอกจากนี้ยังมีพระสงฆ์เดินทางมาเยี่ยมชมน้ำแร่พุโซดาด้วยเช่นกัน ซึ่งถือเป็นสิ่งมหัศจรรย์และความโชคดีของคนในพื้นที่ เพราะที่ผ่านมาต้องประสบกับปัญหาภัยแล้งมายาวนานหลายชั่วอายุคน จนได้ฉายาว่า เป็นอีสานเมืองกาญจน์ ดังนั้นการที่ขุดพบ พุน้ำแร่โซดา ในครั้งนี้จึงเปรียบเหมือนได้พบขุมทรัพย์ที่ล้ำค่าเลยทีเดียว

ขณะที่ บรรดาพ่อค้าแม่ค้าได้มาตั้งโต๊ะขายอาหารและน้ำ รวมทั้งพ่อค้าแม่ค้ารถเข็นมาขายอาหารริมทางอีกด้วย ทำให้บรรยากาศคึกคักเป็นอย่างมาก ซึ่งเป็นการสร้างรายได้ให้กับคนในพื้นที่เป็นอย่างมากในยุคที่ต้องเจอกับพิษวิกฤติโควิด-19

โดย นายทนงศักดิ์ ล้อชูสกุล ผู้อำนวยการสำนักทรัพยากรน้ำบาดาล เขต 2 (สุพรรณบุรี) เดินทางมาติดตามความคืบหน้าของการดำเนินงานในโครงการดังกล่าว ซึ่งพบว่า จากการทดสอบแรงดันในระบบของบ่อน้ำบาดาลดังกล่าวตลอด 24 ชม. ยังคงคงที่ ไม่ได้ลดลงแต่อย่างใด

จากนั้นได้เปิดเผยว่า นายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล ได้สั่งการให้นำชุดกรองน้ำมาติดตั้งในพื้นที่ เพื่อทำการปรับปรุงน้ำ ก่อนให้ประชาชนได้ทดลองชิมว่า น้ำจากแหล่งพุโซดานี้สามารถดื่มกินได้ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการนำชุดปรับปรุงน้ำมาติดตั้ง คาดว่าจะใช้เวลาติดตั้งประมาณ 1 สัปดาห์ ก็จะแล้วเสร็จ ดังนั้นคาดว่าภายในสัปดาห์หน้าประชาชนที่มาเที่ยวชมจะสามารถทดลองชิมน้ำได้อย่างแน่นอน

สำหรับในส่วนของจุดที่พบ พุน้ำแร่โซดา ขณะนี้ยังคงพุอยู่ ซึ่งก็จะต้องให้ทางพื้นที่ ต.ห้วยกระเจา อ.ห้วยกระเจา กับ ต.บ่อพลอย อ.บ่อพลอย พูดคุยตกลงกันในเรื่องของการบริหารจัดการในเชิงพื้นที่ว่าจะพัฒนาในรูปแบบไหน ส่วนทางกรมน้ำบาดาลที่จะทำในเรื่องของระบบประปา เพื่อแก้ไขปัญหาภัยแล้ง เราก็จะทำส่วนหนึ่ง อย่างไรก็ตามขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการสำรวจ และเจาะสำรวจ จึงยังไม่ได้ข้อสรุปในเรื่องนี้

ทั้งนี้ยังไม่สามารถตอบได้ว่า ในจุดอื่นๆ จะมีพุอีกหรือไม่ จะทราบแน่ชัดก็ภายหลังจากที่ทำการเจาะสำรวจเสียก่อน ว่าจะมีพุในลักษณะเดียวกันกับแอ่งนี้อีกหรือไม่ โดยเราได้ทำการสำรวจและกำหนดจุดที่จะดำเนินการเจาะไว้แล้ว ซึ่งห่างจากพุน้ำแร่โซดาที่พบไปประมาณ 2-3 กิโลเมตร อีกจำนวน 3 บ่อ ซึ่งจุดดังกล่าวตั้งอยู่ในพื้นที่ ต.ห้วยกระเจา อ.ห้วยกระเจา ชัดเจน ทั้งนี้เพื่อให้ทราบว่าศักยภาพของชั้นน้ำบาดาลที่กำลังจะดำเนินการเจาะสำรวจใหม่ มีมากน้อยแค่ไหน และคุณภาพเป็นอย่างไร

เนื่องจากแอ่งน้ำบาดาลมีความยาวของแอ่งอยู่แล้ว แต่เราก็ไม่ทราบว่าแอ่งน้ำพุโซดาจะครอบคลุมยาวขนาดไหน ซึ่งจุดที่เราจะทำการเจาะสำรวจเพิ่มอีก 3 บ่อ ก็เป็นแนวน้ำบาดาลเดียวกันกับพุน้ำแร่โซดา ดังนั้นก็อาจมีโอกาสที่จะเจอพุโซดาในลักษณะเดียวกันนี้อีกก็เป็นได้ อย่างไรก็ตามขอให้ประชาชนที่มาเยี่ยมชมพุน้ำแร่โซดาระมัดระวังเรื่องของการจราจร และขอให้ปฏิบัติตามที่เจ้าหน้าที่บอก