ตร.สยบหนุ่มใหญ่คลั่งยา ถือมีดดาบเผาบ้านตัวเอง
5 ก.พ. 2564, 16:25
ที่ จ.สุพรรณบุรี วันที่ 5 ก.พ. 2564 พ.ต.ต. อำนาจ อินพันธ์คำ พนักงานสอบสวน สภ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี รับแจ้งเหตุชายคลุ้มคลั่งเผาบ้านตัวเองที่บ้านเลขที่ 447 หมู่ 9 ต.อู่ทอง อ.อู่ทอง ในหมู่บ้านสะเดาเดือด จึงได้ประสานรถดับเพลิง และนำกำลัง พร้อมอุปกรณ์ เหล็กง่ามและแห ไปตรวจสอบพบที่เกิดเป็นห้องแถวชั้นเดียวมีห้องติดกัน5ห้อง ห้องแรกผู้ก่อเหตุใช้พักอาศัยไฟได้ไหมข้าวของเครื่องใช้ภายในห้องจนหมด เจ้าหน้าที่ดับเพลิงจากเทศบาลอู่ทองและเทศบาลท้าวอู่ทอง เข้าทำการฉีดน้ำสกัดไฟเอาไว้ได้ไม่ให้ลุกลามไปห้องข้างเคียง ใช้เวลาประมาณ 30 นาทีเพลิงจึงสงบ
ที่เกิดเหตุพบชายคนถือมีดดาบนั่งอยู่ริมคลอง ไม่ยอมให้ใครเข้าใกล้ เจ้าหน้าที่พยามเจราจาพูดคุยให้ชายคนดังกล่าววางมีดดาบแล้วมาคุยกันแต่ชายคนดังกล่าวไม่ยอมพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ พยายามเดินหนีเจ้าหน้าที่จึงเดินไปใกล้ๆก่อนใช้แหทอดแต่พลาดชายคนดังกล่าวได้กระโดดลงคลองพยามว่ายน้ำหนีไปอีกฝั่งคลองและเข้าไปอยู่ในป่าข้างคลอง เจ้าหน้าที่จึงได้พาเพื่อนของชายคนดังกล่าวมาพูดคุย ให้วางมีดดาบแล้วเข้ามอบตัว จากการพูดคุยกว่า10นาที ชายคนดังกล่าวจึงยอมส่งมีดดาบให้กับเพื่อนแล้วเดินออกมามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทราบชื่อต่อมาคือ นายปฏิทิน แซ่อุ่น อายุ39ปี เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวไปสอบสวน
จากการสอบถามนาง ธนพร แหล่งสนาน อายุ 48 ปี ผู้เห็นเหตุการณ์ บ้านอยู่ใกล้กับบ้านของผู้ก่อเหตุ เล่าว่า เมื่อช่วงเช้า เห็นผู้ก่อเหตุถือมีดดาบยาวเดินอยู่ในหมู่บ้าน แล้วสักพักมีคนโทรมาหาบอกว่าผู้ก่อเหตุได้เผาบ้านตัวเอง จึงออกมาดูพบว่าผู้ก่อเหตุได้เผาบ้านตัวเองแล้ว จึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ รู้สึกกลัวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะผู้ก่อเหตุมีพฤติกรรมเสพยาเสพติด หากได้ปล่อยตัวออกมาแล้ว กลัวจะมาก่อเหตุซ้ำแบบเดิมอีก
ทราบว่าเจ้าของห้องแถวเป็นญาติกับผู้ก่อเหตุ แต่อยู่ต่างจังหวัด ผู้ก่อเหตุอยู่กับญาติอีก1คน ซึ่งอยู่ห้องติดกัน ขณะเกิดเหตุไม่ได้อยู่ที่ห้อง ส่วนห้องที่เหลือถูกปล่อยทิ้งร้างโชคดีที่มีคนเห็นเหตุการณ์และแจ้งเจ้าหน้าที่มาดับไฟไว้ได้ทัน จากการตรวจสอบประวัติผู้ก่อเหตุพบมีประวัติเสพยาเสพติดถูกจับมาแล้วหลายครั้งกระทั่งมาก่อเหตุเผาบ้านตัวเองเจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อหากระทำให้เกิดเพลิงไหม้วัตถุใดๆแม้เป็นของตนเองจนน่าเป็นอันตรายแก่บุคคลอื่นและทรัพย์สินของผู้อื่น และมีอาวุธมีด ก่อนควบคุมตัวไปดำเนินคดีต่อไป
Recommend News
MOST POPULAR
