จุดผ่อนปรนนำเข้า-ส่งออกสินค้า จ.กาญจนบุรี เข้าวันที่สองยังคงคึกคัก
4 ก.พ. 2564, 20:25
กาญจนบุรี การผ่อนปรนให้สินค้าชายแดนเข้า-ออก ได้เป็นวันที่ 2 ยังคึกคัก ทั้งจุดด่านชั่วคราว สังขละบุรี และด่านถาวรบ้านพุน้ำร้อน อำเภอเมือง ซึ่งจังหวัดกาญจน์ มีเพียง 2 ช่องทางผ่อนปรนเท่านั้น
วันนี้ ( 4 ก.พ. 64 ) ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานบรรยากาศการนำเข้า-ส่งออก สินค้า บริเวณจุดผ่อนปรนทางการค้าด่านพระเจดีย์สามองค์ หมู่ 9 ต.หนองลู อ.สังขละบุรี และด่านถาวรบ้านพุน้ำร้อน ต.บ้านเก่า อ.เมือง จ.กาญจนบุรี เป็นวันที่ 2 ตามมาตรการผ่อนปรนของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดกาญจนบุรี ทั้ง 2 แห่ง ยังคึกคักมากยิ่งขึ้นเนื่องจากเป็นวันสุดท้ายจากการผ่อนปรน
โดยผู้ประกอบการเริ่มนำสินค้าที่จะส่งออกมาให้เจ้าหน้าที่ทหารและศุลกากร ตรวจสอบสินค้าและเอกสาร ก่อนให้ดำเนินการเปลี่ยนถ่ายสินค้าในลักษณะท้ายชนท้ายรถ บริเวณชายแดนช่องทางเกษตร 1 ซึ่งต้องผ่านการตรวจคัดกรองโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด - 19) จากเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อประจำด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ และให้ปฏิบัติตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุข และข้อปฏิบัติด้านสุขอนามัยในเรื่องการคัดกรองผู้ติดเชื้อ การล้างมือ การสวมหน้ากากอนามัยหรือหลักการของ Social Distancing และจะต้องทำการฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อโรคยานพาหนะทั้ง 2 ฝ่าย และให้ปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการเข้า – ส่งออกสินค้าระหว่างประเทศโดยเคร่งครัด ภายใต้การควบคุมดูแลของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกฝ่าย ทั้งทหาร ตร. ตม. ปกครอง ตชด. ประมง ศุลกากร และสาธารณสุข
โดยก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขและผู้ประกอบการได้นำน้ำยาฆ่าเชื้อ มาทำการฉีดพ่นบริเวณดังกล่าว เพื่อทำความสะอาดพื้นที่โดยรอบทั้งหมดที่จะทำการขนถ่ายสินค้า ขณะทางผู้ประกอบการชาวเมียนมา ก็ได้นำรถบรรทุกมารอรับสินค้า พร้อมทั้งจัดเตรียมแรงงานมาเพื่อมาทำการขนถ่ายสินค้า ซึ่งขณะนี้รอทางการเมียนมา เปิดประตู
โดยผ่อนปรนให้นำเข้าและส่งออกของทั้ง 2 แห่ง สินค้าส่วนใหญ่จะเป็นเครื่องอุปโภคบริโภค การปศุสัตว์ ( สัตว์น้ำ สัตว์บก และสัตว์ปีกทุกชนิด ) สินค้าทางการเกษตร และสิ่งของจำเป็นที่ใช้ในการดำรงชีวิตประจำวันทุกประเภท ยกเว้น ยาสูบ และเครื่องดื่ม ที่มีแอลกอฮอล์ทุกชนิด เพื่อผ่อนคลายความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่ทั้งไทยและเมียนมา
ซึ่งวันนี้สินค้าที่ส่งออกส่วนใหญ่เป็นสินค้าอุปโภค บริโภค ที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิต เช่น บะหมี่สำเร็จรูป ผงซักฟอก น้ำมันพืช นมพร้อมดื่ม ขนม สบู่ ยาสีฟันเป็นต้น นอกจากนั้นยังมีการส่งออกกุ้งขาวแช่แข็งจำนวนกว่า 35 ตัน ขณะที่ในวันนี้ จะมีการส่งออกสัตว์ปีก จำพวก ไก่มีชีวิต และ สุกร ซึ่งกำหนดให้ส่งออกในช่องทางพาณิชย์ 12 ต่างกับทางด่านบ้านพุน้ำร้อน ซึ่งเป็นด่านถาวรสินค้าจะต้องผ่านตามขั้นตอนเพียงช่องทางเดียวเท่านั้น
ขณะที่ น.ส.วิภาวรรณ ส่งเสริม ผู้ประกอบการธุรกิจนำเข้า ส่งออก สินค้าในพื้นที่ อ.สังขละบุรี เปิดเผยกับผู้สื่อข่าว ว่า ปัจจุบันเมียนมา มีความต้องการนำเข้าสินค้า อุปโภค บริโภค จากบ้านเราโดยเฉพาะในช่วงที่มีสถานการณ์ทางการเมืองที่ต้องมีการกักตุนสินค้าเช่นนี้ เมียนมา ยิ่งมีความต้องการเพิ่ม ที่ผ่านมาเราเองยังไม่มีความชัดเจนในการอนุญาตให้มีการนำเข้า-ส่งออกสินค้า จึงเป็นอุปสรรคในเรื่องการค้าชายแดน เนื่องจากอยู่ในช่วงวิกฤติโควิด-19 หากเป็นไปได้เมื่อทุกอย่างเข้าสู่ภาวะปกติ อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ความชัดเจนในเรื่องการอนุญาตให้มีการนำเข้าส่งออกสินค้า ในช่องทางนี้ เนื่องจากทางการเมียนมา มีความต้องการนำเข้าสินค้าผ่านช่องทางนี้สูง เนื่องจากเป็นช่องทางที่การคมนาคมสะดวก ส่งผลให้สามารถกระจายสินค้าไปยังเมืองต่างๆ ในเมียนมา ได้ง่าย ระยะทางใกล้ ช่วยให้ต้นทุนต่ำกว่าการนำเข้าจากช่องทางชายแดนด้านอื่น
ที่ผ่านมาเมื่อเกิดสถานการณ์ความไม่สงบภายในประเทศเมียนมา ทางการเมียนมาจะทำการปิดชายแดนทุกครั้ง โดยห้ามมิให้มีการเดินทางเข้า-ออกโดยเด็ดขาด แต่ครั้งนี้ทางการเมียนมา ไม่มีคำสั่งปิดชายแดน และยังอนุญาตให้ทำการนำเข้า-ส่งออกสินค้าได้ตามปกติ นั้น คาดว่าเกิดจากทางการเมียนมา ต้องการลดแรงเสียดทานและการต่อต้านจากประชาชน รวมทั้งผู้ประกอบการ โดยไม่ต้องการให้ประชาชนที่อยู่ตามแนวชายแดน รวมทั้งผู้ประกอบการได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ภายในประเทศ ท่ามกลางปัญหาจากพิษวิกฤตโควิด-19 ที่ทุกคนต้องประสบมานานนับปี ซึ่งหากสั่งปิดจะยิ่งซ้ำเติมให้สถานการณ์เลวร้ายลงไปอีก
ขณะบรรยากาศเช้าวันนี้ที่ตลาดสดพญาตองซู เมียนมา ตรงข้ามบ้านพระเจดีย์สามองค์ ประชาชนยังคงออกมาเลือกซื้อสินค้าอุปโภค บริโภค ตามปกติ แม้จะไม่คึกคัก เนื่องจากเพิ่งผ่านสถานการณ์การยึดอำนาจของทหารและยังอยู่ในช่วงการเฝ้าระวังโควิด-19