หนุ่มสติหลุด! มีดจี้ตัวเองในร้านทอง หลังขอดูสร้อยคอหนัก 1 สลึง หวังเอาไปให้ภรรยาเป็นของขวัญ
4 ก.พ. 2564, 19:40
ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 4 ก.พ.64 ตำรวจ 191 กระบี่ รับแจ้งเหตุมีคนก่อเหตุเข้าไปใช้อาวุธมีดจี้ตัวเองอยู่ภายในร้านทองศาสตร์สุวรรณ เลขที่ 123-124 ถนนเพชรเกษม หมู่ 2 ต.เหนือคลอง อ.เหนือคลอง จ.กระบี่ หลังรับแจ้งจึงประสานไปยัง พ.ต.อ.ทวีศักดิ์ สุวพิชญ์ภูมิ ผกก.สภ.เหนือคลอง นำกำลังตำรวจสายตรวจ ตำรวจจราจร ชุดสืบสวน สภ.เหนือคลอง เข้าไปตรวจสอบ พบที่ร้านทองดังกล่าว ภายในร้านพบชายคนก่อเหตุ นั่งอยู่ที่โต๊ะหน้าเคาน์เตอร์จำหน่ายทอง ในมือถืออาวุธมีดปลายแหลม จี้อยู่ที่หน้าอกของตัวเอง มีอาการกระวนกระวายอยู่ตลอดเวลา จุดใบจากยาเส้นสูบอยู่ภายในร้าน 2-3 มวน มืออีกข้างก็ถือสร้อยคอทองคำหนัก 1 สลึง ซึ่งเป็นสร้อยของทางร้านไว้
เบื้องต้นตรวจสอบทราบว่า ชายคนดังกล่าวคือ นายสิทธิศักดิ์ ทองอร่าม อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 23 หมู่ 3 ต.นาไม้ไผ่ อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช มีอาชีพขับรถส่งขนมในเขตเทศบาลตำบลเหนือคลอง ตำรวจพร้อมกับพนักงานของร้าน พยายามเข้าไปพูดจาเกลี้ยกล่อมชายคนดังกล่าว ซึ่งนั่งพูดบ่นน้อยใจภรรยาของตัวเองอยู่ตลอดเวลา โดยพบว่ามีอาการคล้ายคนเสียสติ พูดคุยไม่ค่อยรู้เรื่อง ตำรวจใช้เวลาเกลี้ยกล่อมอยู่นานเกือบ 1 ชม. ชายคนดังกล่าวจึงยอมวางอาวุธมีด และยอมให้ตำรวจเข้าควบคุมตัว พาไปสงบสติอารมณ์ที่ สภ.เหนือคลอง จากนั้น ร.ต.อ.อดิสร หยีสัน รอง สว.(สอบสวน) สภ.เหนือคลอง พร้อมตำรวจชุดพิสูจน์หลักฐาน ภ.จ.กระบี่ เข้าตรวจสอบเก็บรอยนิ้วมือในที่เกิดเหตุ เก็บไว้เป็นหลักฐาน สอบสวน น.ส.สมฤดี ถ่องแท้ อายุ 34 ปี พนักงานของร้าน ทราบว่า ช่วงก่อนเกิดเหตุ ตนและเพื่อนพนักงานอีก 2 คน กำลังนั่งอยู่ที่หน้าเคาน์เตอร์ จากนั้นชายคนก่อเหตุเดินเข้ามาในร้าน บอกว่าขอดูสร้อยทอง 1 สลึง 1 เส้น แล้วอยู่ ๆ ชายคนดังกล่าวก็ชักอาวุธมีดปลายแหลมที่พกติดตัวออกมา แล้วจี้ไปที่หน้าอกของตัวเอง บอกกับพนักงานว่า ถ้าผมจะไม่จ่ายเงินจะได้ไหม ตนและเพื่อนพนักงานก็ตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จากนั้นชายคนดังกล่าวก็เดินไปนั่งที่โต๊ะสำหรับลูกค้า ด้านหน้าเคาน์เตอร์ พูดจาพร่ำบ่นเรื่องของภรรยาตัวเองอยู่ตลอดเวลา เพื่อนพนักงานเห็นว่าชายคนดังกล่าวไม่ได้มีท่าทีจะทำร้ายพนักงานในร้าน จึงแอบโทรไปแจ้งตำรวจให้มาช่วยเจรจา ชายคนดังกล่าวก็ขอกระดาษกับปากกา ไปเขียนข้อความถึงภรรยาไว้ ต่อมาตำรวจมาถึงที่เกิดเหตุ ก็เข้ามาช่วยกันพูดคุยเจรจาเกลี้ยกล่อมกันอยู่นานเกือบ 1 ชม. ชายคนดังกล่าวจึงมีท่าทีอ่อนลง และยอมให้ตำรวจพาตัวไป
ต่อมาผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่ สภ.เหนือคลอง ตำรวจกำลังสอบปากคำนายสิทธิศักดิ์ อยู่ที่ห้องสอบสวน โดยตัวนายสิทธิศักดิ์ ยังมีอาการคล้ายคนควบคุมสติไม่ได้ พูดจาวกไปวนมา โดยบ่นน้อยใจภรรยาของตัวเอง และบอกว่าตัวเองมีอาการเครียด เพราะตัวเองกับภรรยา ไม่ค่อยมีรายได้ ตัวเองเป็นคนรักลูกรักเมีย จึงอยากหาเงินให้เมียกับลูกไว้ใช้ นอกจากนี้บางช่วงยังบ่นน้อยใจภรรยา หาว่าภรรยาชอบไปก่อหนี้ ทำให้ตัวเองต้องหาเงินมาให้ และที่มาก่อเหตุเอาทองที่ร้าน เพราะอยากเอาให้ภรรยาเป็นของขวัญ ยอมรับว่าเป็นการกระทำที่ไม่ถูก ซึ่งตลอดเวลาที่พูดคุยกับตำรวจ มือนายสิทธิศักดิ์ ยังกำสร้อยทองเส้นดังกล่าวอยู่ตลอดเวลา โดยตำรวจพยายามขอคืนแต่เจ้าตัวไม่ยอมให้ บอกจะขอส่งให้ภรรยากับมือเท่านั้น ทางตำรวจจึงติดต่อให้ น.ส.จันทร์เพ็ญ บุญมาก อายุ 23 ปี เป็นชาว ต.คลองเขม้า อ.เหนือคลอง ภรรยาของคนก่อเหตุเดินทางมาที่ สภ.เหนือคลอง เพื่อมาช่วยพูดคุย จนเมื่อเห็นหน้าภรรยา นายสิทธิศักดิ์ จึงยอมโยนสร้อยทองให้กับภรรยา ส่งคืนให้กับตำรวจ น.ส.จันทร์เพ็ญ เผยว่า ยอมรับว่ารู้สึกเสียใจที่สามีมาก่อเหตุดังกล่าว ก่อนนี้ไม่เคยมีปัญหาอะไรกันมาก่อน ก่อนจะออกมาก่อเหตุ สามีบอกว่าจะออกมาซื้อของ แต่มาทราบอีกทีตำรวจก็แจ้งว่าสามีมาก่อเหตุแล้ว ตนเองจึงรู้สึกเสียใจกับสิ่งที่สามีกระทำลงไป ก่อนนี้ยอมรับว่าตัวสามีมีอาการเครียด เพราะทั้งตนและสามี ไม่มีงานทำ ขาดรายได้ในช่วงนี้ สามีเองก็เพิ่งได้ทำงานรับส่งขนมให้กับร้านค้าใน อ.เหนือคลอง ได้เพียงไม่กี่วัน หากถามได้อยากถามสามีว่า ทำไปเพราะอะไร ทำไมไม่สงสารลูกและเมียบ้าง ทั้งนี้ตำรวจคุมตัวนายสิทธิศักดิ์ ไว้ให้สงบสติอารมณ์ก่อน เบื้องต้นคาดว่าอาจจะมีอาการเครียด ส่วนจะเสพยาเสพติดหรือไม่ จะนำตัวตรวจปัสสาวะอีกครั้ง หลังสงบสติแล้วจะนำตัวมาสอบสวน รวมทั้งสอบพยานในร้าน หากทางร้านประสงค์จะแจ้งดำเนินคดี เบื้องต้นก็สามารถแจ้งข้อหาวิ่งราวทรัพย์ได้
ต่อมาผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่ สภ.เหนือคลอง ตำรวจกำลังสอบปากคำนายสิทธิศักดิ์ อยู่ที่ห้องสอบสวน โดยตัวนายสิทธิศักดิ์ ยังมีอาการคล้ายคนควบคุมสติไม่ได้ พูดจาวกไปวนมา โดยบ่นน้อยใจภรรยาของตัวเอง และบอกว่าตัวเองมีอาการเครียด เพราะตัวเองกับภรรยา ไม่ค่อยมีรายได้ ตัวเองเป็นคนรักลูกรักเมีย จึงอยากหาเงินให้เมียกับลูกไว้ใช้ นอกจากนี้บางช่วงยังบ่นน้อยใจภรรยา หาว่าภรรยาชอบไปก่อหนี้ ทำให้ตัวเองต้องหาเงินมาให้ และที่มาก่อเหตุเอาทองที่ร้าน เพราะอยากเอาให้ภรรยาเป็นของขวัญ ยอมรับว่าเป็นการกระทำที่ไม่ถูก ซึ่งตลอดเวลาที่พูดคุยกับตำรวจ มือนายสิทธิศักดิ์ ยังกำสร้อยทองเส้นดังกล่าวอยู่ตลอดเวลา โดยตำรวจพยายามขอคืนแต่เจ้าตัวไม่ยอมให้ บอกจะขอส่งให้ภรรยากับมือเท่านั้น ทางตำรวจจึงติดต่อให้ น.ส.จันทร์เพ็ญ บุญมาก อายุ 23 ปี เป็นชาว ต.คลองเขม้า อ.เหนือคลอง ภรรยาของคนก่อเหตุเดินทางมาที่ สภ.เหนือคลอง เพื่อมาช่วยพูดคุย จนเมื่อเห็นหน้าภรรยา นายสิทธิศักดิ์ จึงยอมโยนสร้อยทองให้กับภรรยา ส่งคืนให้กับตำรวจ น.ส.จันทร์เพ็ญ เผยว่า ยอมรับว่ารู้สึกเสียใจที่สามีมาก่อเหตุดังกล่าว ก่อนนี้ไม่เคยมีปัญหาอะไรกันมาก่อน ก่อนจะออกมาก่อเหตุ สามีบอกว่าจะออกมาซื้อของ แต่มาทราบอีกทีตำรวจก็แจ้งว่าสามีมาก่อเหตุแล้ว ตนเองจึงรู้สึกเสียใจกับสิ่งที่สามีกระทำลงไป ก่อนนี้ยอมรับว่าตัวสามีมีอาการเครียด เพราะทั้งตนและสามี ไม่มีงานทำ ขาดรายได้ในช่วงนี้ สามีเองก็เพิ่งได้ทำงานรับส่งขนมให้กับร้านค้าใน อ.เหนือคลอง ได้เพียงไม่กี่วัน หากถามได้อยากถามสามีว่า ทำไปเพราะอะไร ทำไมไม่สงสารลูกและเมียบ้าง ทั้งนี้ตำรวจคุมตัวนายสิทธิศักดิ์ ไว้ให้สงบสติอารมณ์ก่อน เบื้องต้นคาดว่าอาจจะมีอาการเครียด ส่วนจะเสพยาเสพติดหรือไม่ จะนำตัวตรวจปัสสาวะอีกครั้ง หลังสงบสติแล้วจะนำตัวมาสอบสวน รวมทั้งสอบพยานในร้าน หากทางร้านประสงค์จะแจ้งดำเนินคดี เบื้องต้นก็สามารถแจ้งข้อหาวิ่งราวทรัพย์ได้.