เมื่อเวลา 08.30 น. ของวันที่ 29 มกราคม 2564 ท ร้อยตำรวจเอกพิชญากร แตงรอด สารวัตรเวรสอบสวนสถานีตำรวจภูธรสามพราน จังหวัดนครปฐม ได้รับแจ้งเหตุทะเลาะวิวาทและแทงกัน มีผู้เสียชีวิตจำนวน 1 ราย ขณะนำส่งโรงพยาบาล เหตุเกิดที่บ้านเลขที่ 22/2 หมู่ที่ 9 ตำบลสามพราน อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม จึงรายงานผู้บังคับบัญชาและรุดไปที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พ.ต.อ.ทรงวุฒิ เจริญวิชยเดช ผู้กำกับการตำรวจภูธรสามพราน และชุดสืบสวน เจ้าหน้าที่กู้ชีพ รพ.สามพราน 

จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุพบ นายมานพ จันศิริ อายุ 56 ปี อาชีพพนักงานรักษาความปลอดภัยที่บริษัทแห่งหนึ่ง ยืนรอมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดย อยู่ในอาการสงบและได้เล่าเหตุการณ์ว่า ตนเป็นคนใช้มีดปอกผลไม้แทง นายประหยัด แสวงสุข อายุ 52 ปี ซึ่งเป็นเพื่อนบ้านที่อยู่ติดกันเสียชีวิต เนื่องจาก ผู้ตายชอบเข้ามาหาเรื่องทะเลาะด่าทอคนในบ้านของตน โดยครั้งนี้ผู้ตายได้มาหาเรื่องด่าทอตนและคนในบ้านตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว และตนได้นำเรื่องไปปรึกษากับผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน และกำลังจะไปแจ้งความในตอนเช้า แต่พอรุ่งเช้าผู้ตาย ได้เข้ามาด่าทอ ข่มขู่ ที่บ้านตนอีกครั้ง และมานั่งทับหัว นายอรุณ มาเจริญ อายุ 62 ปี ลูกเขย ที่ป่วยเป็นอัมพฤกษ์ นอนอยู่หน้าบ้าน ซึ่งเหตุการณ์เหล่านี้เกิดขึ้นบ่อยครั้งจนตนเองทนไม่ไหวด้วยความโมโหตนจึงคว้ามีดปอกผลไม้ แทงผู้ตายเข้าที่ข้างหลัง และที่ท้อง จนล้มลง และถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล เพิ่งมาทราบว่าเสียชีวิตภายหลัง 

 

นายอรุณ มาเจริญ อายุ 62 ปี ลูกเขยของ นายมานพ ผู้ก่อเหตุ ได้เล่าว่า ตนและคนที่บ้านมักจะถูกผู้เสียชีวิตซึ่งอาศัยอยู่บ้านติดกัน ที่เวลากินเหล้าเมา ชอบเข้ามาด่าทอ และพูดจาข่มขู่ ที่บ้านมาเป็นเวลานาน หลายครั้งก็จะโดนผู้เสียชีวิตตบหัว  แบบไม่ให้เกียรติและดูถูกถากถางไปด้วย ซึ่งตนต่อสู้ไม่ได้เพราะเป็นอัมพฤกษ์ เดินไม่ได้ ซึ่งนายมานพ พ่อตา พยายามบอกว่าให้อดทนและจะเข้ามาช่วยเพื่อแจ้งตำรวจ เพียงวันเดียวผู้ตายก็มาหาเรื่องอีกจนกระทั่งพ่อตาทนไม่ไหวคว้ามีดมาแทงเพื่อปกป้องตนเองไม่คิดว่าจะถึงตาย