กรมทางหลวง กาญจนบุรี เปิดเวทีประชุมการมีส่วนร่วมของประชาชนใน 2 โครงการสำคัญ
26 ม.ค. 2564, 17:43
วันนี้ (26 ม.ค.64) ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า นายจีระเกียรติ ภูมิสวัสดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี เป็นประธานเปิดเวทีประชุมรับฟังความคิดเห็นโครงการก่อสร้างปรับปรุงบริเวณจุดตัดทางหลวงหมาย 323 กับ ทางหลวงหมายเลข 367 (แยกท่าล้อ) อ.ท่าม่วง ก่อสร้างทางแยกต่างระดับรวมสะพานข้ามทางรถไฟ และโครงการก่อสร้างสะพานข้ามทางแยกจุดตัดทางหลวงหมายเลข 324 กับ ทางหลวงหมายเลข 367 (แยกวังสารภี) ต.ปากแพรก อ.เมืองกาญจนบุรี
โดยมีนายกำธร ศรีพิทักษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานทางหลวง ที่ 12(สุพรรณบุรี) กล่าวรายงาน มีนายสมหวัง บุญระยอง รอง ผวจ.กาญจนบุรี นายแสงทอง พาแก้ว ผู้อำนวยการแขวงทางหลวงกาญจนบุรี รวมทั้งหน่วยงานภาครัฐ ข้าราชการ ทหาร ตำรวจ ภาคเอกชน ภาคประชาชน ผู้นำท้องถิ่น ผู้นำท้องที่ เป็นจำนวนมาก เข้าร่วมแสดงความคิดเห็น
มีนายธีรพันธ์ ภูมิรัตนประพิณ วิศวกรโยธาชำนาญการพิเศษ สำนักก่อสร้างสะพาน นายนคร ปุรินทะ นายช่างโยธาอาวุโส สำนักก่อสร้างสะพาน นายสุกิจ ยินดีสุข วิศวกรโยธาชำนาญการพิเศษ นายเพิ่มวุฒิ บูรพาศิริวัฒน์วิศวกรโยธาชำนาญการพิเศษ สำนักสำรวจและออกแบบ นายอธิปไตย ธิบูรณ์บุญ วิศวกรโยธาชำนาญการ สำนักสำรวจและออกแบบ นายกรณ์ วัฒนชัย วิศวกรโยธาชำนาญการ ร่วมชี้แจงความเป็นมาของโครงการและคอยตอบข้อซักถามจากประชาชน
สำหรับบรรยากาศเป็นไปด้วยความเรียบร้อย แต่ก็มีบางช่วงที่บรรยากาศค่อนข้างตรึงเครียด เนื่องจากผู้เข้าร่วมประชุมการมีส่วนร่วมครั้งนี้ มีทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย โดยเฉพาะโครงการก่อสร้างสะพานข้ามทางแยก ตัดทางหลวงหมายเลข 324 กับทางหลวงหมายเลข 367 (แยกวังสารภี) ที่ กม.2+586 ที่มีมูลค่าประมาณ 450 ล้านบาท
เนื่องจากก่อนหน้านี้บริเวณดังกล่าว กรมทางหลวงได้มีการออกแบบโครงการก่อสร้างอุโมงค์ลอดทางแยกวังสารภีเอาไว้อีก 1 โครงการ เพื่อเป็นทางเลือก ซึ่งได้มีการเปิดเวทีแสดงความคิดเห็นมาแล้วหลายครั้ง และที่ผ่านมานั้นมีทั้งผู้ที่เห็นด้วยกับไม่เห็นด้วย ด้วยเช่นกัน
โดยกลุ่มผู้ที่ไม่เห็นด้วยกับโครงการก่อสร้างสะพานข้ามแยกวังสารภี ส่วนใหญ่ให้เหตุผลว่าจะบดบังทัศนียภาพ หรืออาจจะทำให้พื้นที่ที่อยู่โดยรอบกลายเป็นเมืองร้างคล้ายๆ กับการก่อสร้างสะพานข้ามแยกในพื้นที่อำเภอบ้านโป่ง จ.ราชบุรี ดังนั้นทุกคนจึงสนับสนุนให้มีการก่อสร้างอุโมงค์ลอดแยกวังสารภีแทน ถึงแม้จะต้องใช้เวลาในการก่อสร้างล่าช้าออกไปและต้องใช้งบประมาณเพิ่มขึ้นก็ตาม ส่วนกลุ่มที่ไม่เห็นด้วยกับโครงการก่อสร้างอุโมงค์ลอดทางแยก ส่วนใหญ่มีความกังวลใจเกี่ยวกับปัญหาภัยน้ำท่วมที่อาจจะเกิดขึ้นได้ในอนาคต ซึ่งต่างก็มีเหตุผลของตนเอง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการจัดเวทีการประชุมเพื่อแสดงความคิดเห็นในครั้งนี้ จะเริ่มเปิดรับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอแนะ พร้อมตอบข้อซักถามในประเด็นที่น่าสนใจ แสดงความคิดเห็น กรมทางหลวงได้กำหนดเวลาที่กำหนดเริ่มตั้งแต่เวลา 11.15-12.00 น.แต่ปรากฏว่า พิธีกรได้ประกาศยุติก่อนเวลาที่กำหนด สร้างความไม่พอใจให้กับกลุ่มผู้สนับสนุนให้มีการสร้างอุโมงค์ลอดทางแยกวังสารภีเป็นอย่างมาก แต่สถานการณ์ก็ผ่านไปด้วยดี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรมทางหลวงได้รับการจัดสรรงบประมาณปี 2563 เพื่อดำเนินโครงการก่อสร้างสะพานข้ามทางแยกจุดตัดทางหลวงหมายเลข 324 กับทางหลวงหมายเลข 367 (แยกวังสารภี) จำนวน 450 ล้านบาท
เนื่องจากทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 324 ทางหลวงแผ่นดินที่เชื่อมต่อกับหลายจังหวัด เช่น สุพรรณบุรี ราชบุรี และนครปฐม และในอนาคตจะเป็นเส้นทางที่รองรับปริมาณจราจรจากทางหลวงพิเศษมอเตอร์เวย์ สายบางใหญ่-กาญจนบุรี ปัจจุบันเป็นสี่แยกดังกล่าว มีสัญญาณไฟจราจร ซึ่งเป็นทางแยกที่มีปัญหาการจราจรหนาแน่นมาก ในช่วงชั่วโมงเร่งด่วนและช่วงวันหยุดในเทศกาลต่างๆ กรมทางหลวงจึงได้จัดให้มีการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนก่อนจะดำเนินการโครงการดังกล่าวขึ้น
นายแสงทอง เปิดเผยต่อว่า การประชุมการมีส่วนร่วมของประชาชน โครงการก่อสร้างสะพานข้ามทางแยกจุดตัดทางหลวงหมายเลข 324 กับทางหลวงหมายเลข 367 (แยกวังสารภี) จัดขึ้นเพื่อชี้แจงให้ประชาชนผู้ที่อาศัยในพื้นที่บริเวณก่อสร้างและที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ใกล้เคียง รวมทั้งประชาชนผู้ที่สนใจ ให้ทราบถึงรายละเอียดของโครงการก่อสร้าง
สำหรับทางหลวงหมายเลข 324 ตอน กาญจนบุรี-หนองขาว มีจุดเริ่มต้นตั้งแต่ กม.2+000 บริเวณหน้าหมู่บ้านพฤกษากาญจน์ ไปจนถึงบ้านหนองขาว อ.ท่าม่วง ที่ กม.11+000 มีระยะทางรวมทั้งสิ้น 9 กิโลเมตร โดยจุดที่จะดำเนินการก่อสร้างคือบริเวณสี่แยกวังสารภี กม.2+586 ซึ่งตัดกับทางหลวงหมายเลข 367 ตอนทางเลี่ยงเมืองกาญจนบุรี
ปัจจุบันมีปริมาณการจราจรสูงเฉลี่ย 23,883 คันต่อวัน จึงเห็นสมควรทำการแก้ไขปัญหาจุดตัดบริเวณทางแยกดังกล่าว เพื่อให้เกิดความสะดวก ปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชน ผู้ใช้รถใช้ถนน เพื่อรองรับการจราจรที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้