หนุ่มปืนโหด ซดเหล้าย้อมใจ ก่อนไล่ยิง 2 ศพ ดับแค้นคาบขส.ภูเก็ต
24 ม.ค. 2564, 09:43
ผู้สื่อข่าวONB newsรานงานว่าเมื่อกลางดึกของคืน23 ม.ค.64ที่ผ่านมา พ.ต.อ.ธีรวัฒน์ เลี่ยมสุวรรณ ผกก.สภ.เมืองภูเก็ต พร้อมด้วย ร.ต.อ.หญิง วิภาวรรณ วัธนเงินทะนง รองสารวัตร(สอบสวน)สภ.เมืองภูเก็ต เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน มูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ต เข้าตรวจสอบ เหตุยิงกันมีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บสาหัส บริเวณด้านหน้าอาคารผู้โดยสาร สถานีขนส่งผู้โดยสารแห่งที่ 2 (บขส.ใหม่)ถนนเทพกระษัตรี ต.รัษฏา อ.เมือง ภูเก็ต
ที่เกิดเหตุจุดแรกบนถนน ใกล้กับทางเข้าอาคารผู้โดยสาร พบร่างผู้ได้รับบาดเจ็บ คือนาย ยอด แซ่หลี เป็นหัวหน้าคิวแท็กซี่ภายในบขส.ดังกล่าว สภาพถูกยิงที่ศีรษะและลำตัวหลายนัด เลือดไหลนองพื้น อาการสาหัส เจ้าหน้าที่ให้การช่วยเหลือนำส่งรพ.วชิระอย่างเร่งด่วน และเสียชีวิตในเวลาต่อมา
ส่วนอีกจุด ห่งออกไป30เมตร ที่บริเวณร้าน รับฝากรถจักรยานยนต์ พบร่างผู้เสียชีวิตคือ นาย ประกอบ ชูทอง อายุ 54 ปี ชาว จ.กระบี่ เป็นผู้ดูแลร้านรับฝากรถจักรยานยนต์ นอนเสียชีวิตอยู่หลังเคาท์เตอร์ของร้าน สภาพถูกยิงที่ศีรษะประมาณ 2 นัด เลือดไหลนองพื้น โดยที่เอวยังพกปืนลูกโม่ 1 กระบอก เจ้าหน้าที่ได้กันพื้นที่ ก่อนให้เจ้าหน้าที่วิทยาการพิสูจน์หลักฐานและแพทย์รพ.วชิระภูเก็ตร่วมเก็บหลักฐาน และ ชันสูตรพลิกศพ
ส่วนผู้ก่อเหตุทราบชื่อภายหลังคือ นายเวียน เอียดชูทอง เจ้าของ บริษัท วังวิเศษ ทราเวล เซอวิส ซึ่งอยู่ติดกัน ซึ่งอยู่ในอาการมึนเมาสุราอย่างหนัก เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัว พร้อมยึดอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุ เป็นปืนพกสั้นยี่ห้อ Ruger ขนาด 9 มม. และมีกระสุนบรรจุในแม็กกาซีนอีก 1 นัด
ซึ่งจากการสอบสวนผู้ก่อเหตุระบุว่าสาเหตุมาจากความขัดแย้ง ไม่พอใจกันมานาน มีการทะเลาะวิวาทบ่อยครั้ง ก่อนนั่งก๊องเหล้าย้อมใจงัดอาวุธปืนยิงทั้งคู่ดังกล่าว
จากการสอบถามผู้ที่อยู่ใกล้เคียงขณะเกิดเหตุ เล่าว่าได้ยินเสียงปืนดังขึ้นครั้งแรก 2 นัด จากร้านรับฝากรถจักรยานยนต์ จากนั้นไม่นานก็ได้ยิน เสียงรัวเป็นชุดประมาณ 4- 5 นัด ก่อนจะทราบว่า นายเวียน มือปืนได้ก่อเหตุยิงนาย ประกอบ เสียชีวิตภายในร้านรับฝากรถจักรยานยนต์ ก่อนจะวิ่งไล่ยิงนายยอดต่อ โดยนายยอดได้ ซึ่งวิ่งอ้อมอาคารผู้โดยสาร ก่อนวกกลับมาล้มลงที่บริเวณด้านข้างอาคาร
อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่จะเร่งเก็บหลักฐานทั้งภาพวงจรปิด สอบปากคำผู้ก่อเหตุ รวมทั้งพยานที่เกี่ยวข้อง เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงก่อนดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป