หวิดโดนย่างสด ! ไฟไหม้ห้องครัวบ้าน "พ่อแม่ลูก" ชาวบ้านตะโกนเรียก เปิดประตูวิ่งออกมาได้ทัน
19 ม.ค. 2564, 14:58
ที่จ.สระบุรี เจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยของเทศบาลเมืองสระบุรี ได้รับแจ้งว่ามี เหตุเพลิงไหม้บ้านเรือนบ้านประชาชน ที่ บ้านเลขที่ 6 ถ. พิชัยรณรงค์สงคราม ซอย 27 ต.ปากเพรียว อ.เมือง จ.สระบุรี จึงได้รายงานให้ ผศ.ดร.ภาณุพงศ์ ทิพยเศวต นายกเทศมนตรีเมืองสระบุรี ทราบ จึงได้สั่งการให้รถดับเพลิงทุกจุด ให้ไปช่วยสกัดเพลิงลุกไหม้ เนื่องจากตอนนี้เป็นหน้าหนาวลมแรงบริเวณนั้นมีหมู่บ้านเยอะ กลัวว่าจะลุกลามไปติดบ้านใกล้เคียง รถดับเพลิงทั้งหมด 12 คัน ได้มุ่งหน้าไปที่เกิดเหตุ เข้าตรอกซอยที่มีถนนล้อมในที่เกิดเหตุ เพื่อไม่ให้ไฟลุกลามไปบ้านอื่น ขณะรถดับเพลิงคันแรกเข้าไป พบเห็น มีชาวบ้านกำลังช่วยกันสาดน้ำดับไฟที่กำลังลุกไหม้ห้องครัว เจ้าหน้าที่จึงได้รีบต่อสายเปิดน้ำฉีดช่วยได้ทันเวลา ก่อนที่ไฟจะลุกลามไหม้บ้านไปทั้งหลัง หรือไฟอาจจะลุกลามข้ามไปไหม้ห้องแถวอีก 20 ห้อง ที่อยู่ติดกับบ้านตากับยาย ใช้เวลาไม่ถึง 5 นาที จึงสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ รถดับเพลิงคันเดียวใช้น้ำหมดไปแค่ครึ่งถัง แต่รถดับเพลิงมากันเป็น 10 คัน น่าปรบมือให้กับนายกที่เป็นห่วงประชาชนที่กำลังเดือดร้อน
จากนั้นได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารเข้าตรวจสอบในที่เกิดเหตุ เป็นห้องครัวที่เกิดไฟไหม้ แต่เสียหายไม่มากนัก จึงได้สอบถาม นาย พัชกิจ ทองคำมา อายุ 82 ปี (เจ้าของบ้าน) ว่า ตนเองร่างกายและขาไม่ดี ได้อาศัยอยู่กับ ยาย สะอาด ทองคำมา (หูตึง) และลูกชายอีก 1 คน อยู่ด้วยกันทั้งหมด 3 คน มีห้องให้เช่า จำนวน 2 แถว 20 ห้อง อยู่ใกล้กับบ้านของตน ขณะเกิดไฟไหม้ตนเองได้นอนกันอยู่หลับสนิท ได้ยินเสียงคนมาตะโกนเรียกว่า ไฟไหม้ๆ ให้รีบออกมา ตนจึงสะดุ้งและรีบพากันออกมาได้ทัน มองไปหลังบ้านเห็นไฟกำลังลุกไหม้ สาเหตุที่ไฟไหม้ครั้งนี้น่าจะมาจากตนเองได้ใช้ฟืนหุงข้าวและทำกับข้าว เสร็จแล้ว น่าจะดับฟืนไม่หมด ไฟจึงได้ไหม้ลุกลามห้องครัวดังกล่าว เพราะบริเวณนั้นเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้สอบไว้เป็นหลักฐาน มูลค่าการเสียหายไม่มากนัก
จากบอกเล่าของ นางจ๋า เล่าว่า ตนเองได้เช่าห้องแถวของ 2 ตายาย อยู่ ห่างจากบ้านตากับยาย ประมาณ 4 เมตร กลางดึกสามีของตนจะออกมาฉิ่งฉ่อง หน้าบ้านที่มีป่า ขณะเดินออกมาตกใจเห็นไฟกำลังลุกไหม้ห้องครัวของตากับยายอยู่ สามีจึงได้เรียกตน ตนจึงได้ออกมาก็เห็นไฟไหม้ลุกไหม้อย่างรุนแรง จึงได้ตะโกนเรียกเพื่อนบ้านระแวกนั้น ว่า ไฟไหม้ๆ ให้ออกมาช่วยกันดับไฟ ได้ใช้น้ำสาดเพื่อจะให้ไฟดับ แต่ก็ไม่ดับ จนมีรถดับเพลิงเข้ามาคันแรกและต่อสายมาช่วยฉีดน้ำดับไฟที่กำลังไหม้ได้ทัน ถ้าไม่อย่างนั้นไฟอาจจะลุกลามไหม้บ้านตากับยายทั้งหลัง และตากับยายอาจจะถูกไฟไหม้ก็ได้
ส่วน ยาย สะอาด ทองคำมา อายุ 78 ปี (ภรรยาของตาพัชกิจ) ยังเล่าให้ฟังอีกว่า ตนเองได้ไปเก็บแผ่นรูปภาพหลวงพ่อคูณ ที่เขารื้อบ้าน ตนจึงได้นำแผ่นรูปภาพหลวงพ่อคูณมา 3 วันที่แล้ว และนำรูปภาพไปใส่เตาเผา เพื่อใช้เป็นเชื้อเพลิงในการหุงข้าว จนมาถึงวันนี้ไฟได้เกิดไหม้ ตนจึงนึกถึงตอนที่ตนนำภาพหลวงพ่อคูณใส่ในเตา ตนจึงได้ยกมือไหว้ขอโทษ ไฟไหม้ในครั้งนี้น่าจะเกิดมาจากที่ตนทำไม่ดีกับรูปภาพหลวงพ่อคูณที่นำไปใส่เตาเผาก็เป็นได้