ทีมสัตวแพทย์ ทำการผ่าพิสูจน์ซากวาฬบรูด้า บนชายหาดเกาะสมุย ไม่พบเศษอาหารในกระเพาะ อวัยวะภายในเน่าหมดแล้ว ในเบื้องต้นสันนิษฐานป่วยตาย พร้อมตัดชิ้นเนื้ออวัยวะภายในนำไปพิสูจน์ที่ศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยตอนกลาง จังหวัดชุมพร อีกครั้ง พร้อมทำการฝังซากวาฬบนชายหาดเพื่อรอนำโครงกระดูกไว้ศึกษา ต่อไป

 

 

เมื่อเวลา 14.30 น. บ่ายวันที่ 11 มกราคม 2564 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า ที่ชายหาดสาธารณะบ้านเชิงมนต์ หมู่ 5 บ้านปลายแหลม ตำบลบ่อผุด อำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี แพทย์หญิงพิมพ์ชนก ประจำค่าย นายสัตวแพทย์ศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยตอนกลาง จังหวัดชุมพร นำทีมแพทย์มาทำการตรวจสอบผ่าพิสูจน์ซากวาฬบรูด้า โดยมีนายวิทยา สุขสม ประธานหน่วยกู้ภัยวีอาร์วัดปลายแหลม อำเภอเกาะสมุย นำทีมอาสาสมัครหน่วยกู้ภัยวีอาร์วัดปลายแหลม พร้อมนำรถแบ็คโฮ มาช่วยอำนวยความสะดวกในการทำการผ่าชันสูตร ซากวาฬบรูด้า เพศผู้ น้ำหนักประมาณ เกือบ 10 ตัน ความยาวตั้งแต่ส่วนหัวถึงปลายหาง 11-12 เมตร อายุประมาณ 6-7 ปี ที่ถูกคลื่นซัดลอยมาติดชายหาดบ้านเชิงมนต์ ตั้งแต่วานนี้ (10 ม.ค.) 

ซึ่งบรรยากาศในการนำซากวาฬขึ้นมาจากทะเล นำมาไว้บนชายหาด มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ และประชาชนในบ้านเชิงมนต์ ให้ความสนใจมาดูกันเป็นจำนวนมาก ทางทีมสัตวแพทย์ ได้ทำการนำน้ำมาล้างทำความสะอาดบนซากวาฬ ก่อนทำการผ่าตัดชิ้นเนื้ออวัยวะภายใน ประกอบไปด้วย ปอด มาม หัวใจ กระเพาะอาหาร และลำไส้ มาทำการตรวจสอบ และทำการชำแหละนำกระดูกสันหลัง ออกมา ส่วนลำตัวซากได้ใช้รถแบ็คโฮทำการขุดหลุมลึกนำซากฝังบนชายหาด เพื่อรอให้ชิ้นส่วนย่อยสลาย และทางประมงจำนำโครงกระดูก ไว้เพื่อทำการวิจัย

 

 

ด้าน แพทย์หญิงพิมพ์ชนก ประจำค่าย นายสัตวแพทย์ศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยตอนกลาง จังหวัดชุมพร เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า จากการผ่าพิสูจน์ตัดชิ้นเนื้ออวัยวะภายใน ออกมาตรวจสอบ โดยพบว่าอวัยวะภายในเสียหายทั้งหมด เนื่องจากวาฬตัวนี้ ตายมานานกว่า 1 อาทิตย์ โดยในกระเพาะอาหาร ไม่พบเศษอาหาร ตกค้าง ทั้งในลำไส้ และในกระเพาะอาหาร ซึ่งในเบื้องต้นสันนิษฐานว่า วาฬตัวนี้อาจจะป่วย และทำให้ไม่สามารถหาอาหารกินได้ ในช่วงเวลาที่ก่อนวาฬจะตาย มาประมาณ 1 อาทิตย์ ซึ่งจากการผ่าพิสูจน์ในครั้งนี้ ได้เก็บตัวอย่างต่างๆ ของอวัยวะ ทั้งกล้ามเนื้อ กระดูกอ่อน นำตัวอย่างไปตรวจดีเอ็นเอ เพื่อนำไปพิสูจน์ที่ ศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยตอนกลาง จังหวัดชุมพร เพื่อหาข้อมูลว่าวาฬตัวนี้ มีประวัติไว้หรือไม่ และนอกจากนั้นยังได้ทำการถ่ายรูปเก็บไว้ทั้งหมด ตั้งแต่สีของตัววาฬ ทั้งด้านหน้า ด้านข้าง เพื่อนำไปเปรียบเทียบกับข้อมูลไว้เป็นวาฬชนิดไหน 

ขณะที่ซากวาฬ ภายหลังที่ทางสัตวแพทย์ ได้ทำการผ่าพิสูจน์ นำอวัยวะ ออกมาตรวจสอบแล้ว ส่วนลำตัวได้ใช้รถแบ็คโฮ ทำการขุดหลุมฝังกลบไว้บริเวณชายหาด พร้อมใช้น้ำยาฆ่าเชื้อ และใช้ผงสารเคมีโรยก่อนทำการฝังกลบ เพื่อรอให้เนื้อย่อยสลาย และจะนำโครงกระดูกขึ้นมาเพื่อนำไปเก็บไว้เพื่อทำการศึกษาที่ประมงอำเภอเกาะสมุยต่อไป