"ชาวสังขละบุรี" แห่ชมพระอาทิตย์ขึ้น - ทะเลหมอก ที่พุทธอุทยานพระราชอุดมมงคล ผ่อนคลายความเครียดจากโควิด-19
9 ม.ค. 2564, 14:09
วันนี้ 9 ม.ค. 64 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า ทุกๆเช้า ตั้งแต่เวลา 06.00 น. 08.00 น. บนยอดเขาบริเวณวัดวังก์วิเวการาม หมู่ 2 ต.หนองลู อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี ซึ่งเป็นสถานที่ ที่กำลังดำเนินการก่อสร้างพระพุทธรูปองค์ใหญ่ ขนาดหน้าตักกว้าง 28 เมตร สูง 37 เมตร เป็นพระพุทธรูปปางสมาธิ ตามโครงการพุทธอุทยาน เพื่อสืบสานเจตนารมณ์ ของพระราชอุดมมงคล (หลวงพ่ออุตตมะ) อดีตเจ้าอาวาสวัดวังวิเวการาม เมื่อครั้งที่ยังมีชีวิตอยู่
ซึ่งยอดเขาดังกล่าว ตั้งอยู่ในตำแหน่งที่ที่สามารถมองเห็นพื้นที่โดยรอบของเมืองสังขละบุรี ทะเลสาปเขื่อนวชิราลงกรณ และเจดีย์พุทธคยา ซึ่งเป็นสถานที่ที่แม่น้ำ 3 สาย ซึ่งประกอบกอบด้วย แม่น้ำซองกาเลีย รันตี และบี่คลี่ ไหลมาบรรจบกัน (สามสบ) ก่อนรวมกันเป็นแม่น้ำแควน้อย สายน้ำสำคัญ 1 ใน 2 ของ จ.กาญจนบุรี ( แม่น้ำแควใหญ่)
ด้วยสภาพที่ตั้ง ที่รายล้อมไปด้วยแม่น้ำและขุนเขาน้อยใหญ่ ประกอบกับช่วงนี้ในพื้นที่อากาศเริ่มกลับมาเย็นลงอีกครั้ง ทำให้ทุกๆเช้า สามารถพบเห็นทะเลหมอก ที่สวยงาม จนทำให้ปัจจุบันเริ่มมีประชาชน เดินทางขึ้นมาสัมผัสบรรยากาศยามเช้า รับลมหนาว และชมทะเลหมอก บนยอดเขาแห่งนี้ทุกวัน โดยส่วนใหญ่จะมากันเป็นครอบครัว และกลุ่มเพื่อน เพื่อมาพักผ่อน ถ่ายภาพเก็บไว้เป็นที่ระลึก โดยประชาชนที่มา จะเป็นกลุ่มที่ออกกำลังกายด้วยการเดินและวิ่ง ในช่วงเช้า คนกลุ่มนี้จึงใช้การเดินเท้าบนเส้นทางที่วัดสร้างขึ้นมา ซึ่งมีระยะทางจากวัดวังก์วิเวการาม ประมาณ 1.5 กม
นอกจากได้ออกกำลังกาย พักผ่อน พบปะกันในกลุ่มเพื่อนแล้ว การเดินทางขึ้นมาชมพระอาทิตย์ขึ้นและทะเลหมอก บนยอดเขาแห่งนี้ ยังช่วงให้ประชาชน ได้ผ่อนคลายความตึงเครียดจากวิกฤติโควิด 19 ภาวะเศรษฐกิจ ที่ตามมากับวิกฤติโควิด 19 จนทำให้ในพื้นที่สังขละบุรี อยู่ในสภาพที่ไร้นักท่องเที่ยว ประชาชนเริ่มขาดรายได้ เนื่องจากตกงาน การได้มาออกกำลังกายและพักผ่อน ท่ามกลางธรรมชาติที่สวยงาม ได้พบปะพูดคุย ถามไถ่สารทุกข์สุขดิบ จึงเป็นทางออกที่ดีในสถานการณ์เช่นนี้ โดยประชาชนที่มา ยังคงให้ความสำคัญในการสวมหน้ากากอนามัย การเว้นระยะห่าง แม้จนถึงขณะนี้จะยังไม่พบผู้ป่วยโควิด 19 ในพื้นที่ อ.สังขละบุรี ก็ตาม
และจากกรณีสองสามีภรรยา ชาว ต.ดอนชะเอม อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี กลับจากทำงานในสถานที่จัดให้มีการเล่นการพนันย่านปิ่นเกล้า กรุงเทพฯ ต่อมาวันที่ 4 ม.ค. ได้เดินทางไปตรวจที่โรงพยาบาลมะการักษ์ ผลตรวจติดเชื้อโควิด-19 ทั้งคู่ ปัจจุบันอยู่ในความดูแลของบุคคลากรทางการแพทย์โรงพยาบาลมะการักษ์
และจากการลงพื้นที่สอบสวนโรคพบผู้สัมผัสเป็นชาวกาญจนบุรี จำนวน 14 ราย เป็นชาว อ.จอมบึง จ.ราชบุรี จำนวน 13 ราย และชาว กทม.จำนวน 1 ราย ซึ่งหลังจากนั้นสำนักงานสาธารณสุขของแต่ละจังหวัด ได้นำตัวผู้สัมผัสเสี่ยงสูงไปตรวจหาเชื้อพร้อมกักตัวตามโรงพยาบาลในสังกัดของแต่ละจังหวัด
โดยผลการตรวจหาเชื้อโควิด 19 รอบแรก (6 ม.ค.) จากผู้สัมผัสชาวจังหวัดกาญจนบุรี ทั้ง 14 ราย ออกมาเป็นลบ จำนวน 13 ราย ส่วนอีก 1 ราย มีอาการต้องสงสัย ต้องรอผลจากการตรวจซ้ำอีกครั้งหนึ่ง นั้น
ล่าสุดสาธารณสุขจังหวัดกาญจนบุรี ได้ยืนยันผลตรวจเชื้อโควิด-19 ของผู้สัมผัสเสี่ยงสูงรายสุดท้ายออกมาแล้ว ผลเป็นลบ คือไม่พบเชื้อโควิด-19 ในผู้สัมผัสเสี่ยงสูงทั้ง 14 คน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับผู้ป่วยสะสมของ จ.กาญจนบุรี จนถึงปัจจุบันมีจำนวน 4 ราย ซึ่งทั้ง 4 รายติดมาจากบ่อนการพนันในพื้นที่จังหวัดเสี่ยงทั้งสิ้น ส่วนผู้สัมผัสใกล้ชิดของผู้ป่วยทั้ง 4 ราย ผลตรวจเป็นลบทั้งหมด ซึ่งถือว่า จ.กาญจนบุรี ยังไม่พบการแพร่ระบาดในพื้นที่แต่อย่างใด