สิงห์บุรี พบผู้ป่วยโควิด-19 ยืนยันเพิ่ม 7 ราย
7 ม.ค. 2564, 19:28
(7 ม.ค.64 ) ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า นายชำนาญวิทย์ เตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสิงห์บุรี นายแพทย์จักราวุธ จุฑาสงฆ์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสิงห์บุรี พล.ต.ต.วีรวิชญ์ บัวประเสริฐยิ่ง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสิงห์บุรี และพันเอกชายธนัญชา วาจรัต รอง กอ.รมน.สิงห์บุรี แถลงข่าวอัพเดทสถานการณ์โควิด-19 จังหวัดสิงห์บุรี ณ ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 จังหวัดสิงห์บุรี พบผู้ป่วยยืนยันเพิ่ม 7 ราย จังหวัดสิงห์บุรีที่มี Time Line เดินทางไปสนามชนไก่ จังหวัดอ่างทอง พบผู้สัมผัสทั้งหมด 653 ราย แยกเป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 444 ราย ผู้ สัมผัสเสี่ยงต่ำ 209 ราย โดยขณะนี้ได้ดำเนินการตรวจหาเชื้อ COVID-19 ผู้สัมผัสเสี่ยงสูง ไปแล้วทั้งสิ้น 279 ราย ( ที่เหลืออยู่ระหว่างดำเนินการ ) ผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการ ไม่พบสารตั้งต้นทางพันธุกรรม COVID-19 จำนวน 254 ราย รอผล 20 ราย และพบสารตั้งต้นทางพันธุกรรม COVID-19 จำนวน 7 ราย ซึ่งรายที่ 5 มีผู้สัมผัสจำนวนทั้งสิ้น 14 ราย เป็นกลุ่มเสี่ยงสูง 8 ราย เป็นกลุ่มเสี่ยงต่ำ 6 ราย ซึ่งกลุ่มเสี่ยงสูงทุกรายได้ดำเนินการเก็บตัวอย่างส่งตรวจแล้วขณะนี้อยู่ระหว่างรอผลการตรวจ โดยผู้สัมผัสสี่ยงสูง ทั้ง 8 ราย จะถูกกักกันตัวเองที่บ้าน 14 วัน กลุ่มเสี่ยงต่ำ 6 ราย จะคุมไว้สังเกต 14 วัน ซึ่งรายที่ 5 ได้รับการยืนยันเมื่อวันที่ 6 ม.ค.2564 เวลา 17.00 น. ส่วนรายที่ 6 และ 7 คือภรรยาและเพื่อนสนิท ของรายที่ 4 ที่ได้เดินทางไปห้าง และไปงานกินปลา กลุ่มเสี่ยงสูง 50 คน และเสี่ยงต่ำ 41 คน ซึ่งผู้ติดเชื้อเพิ่มคือคนที่อยู่สัมผัสใกล้ชิดกัน ดังนั้นไทม์ไลน์ทั้ง 2 คนนี้จะเหมือนรายที่ 4 ทั้งหมด ส่วนผู้ไม่ได้สัมผัสใกล้ชิดอีก 32 คน ไม่ติดเชื้อ ล่าสุดมีผู้ติดเชื้อเพิ่ม 7 คน รวมของเก่าจากเชียงราย 1 คน เป็น 8 คน โดยผู้สัมผัสเสี่ยงสูง จะถูกกักกันตัวเองที่บ้าน 14 วัน กลุ่มเสี่ยงต่ำ จะคุมไว้สังเกต 14 วัน
สำหรับประชาชนที่จะเดินทางเข้ามายังพื้นที่จังหวัดสิงห์บุรีถ้าหากท่านเดินทางมาจากพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด 5 จังหวัด รวมถึงพื้นที่ควบคุมสูงสุด 23 จังหวัด ต้องแสดงใบอนุญาตและเหตุผลการเดินทางจากเจ้าหน้าที่ต้นทางแก่ผู้นำชุมชนในพื้นที่จังหวัดสิงห์บุรี และกักตัว 14 วัน และขอความร่วมมือประชาชนในจังหวัดสิงห์บุรีให้อยู่บ้านออกจากบ้านเท่าที่จำเป็น งดการจัดงานหรือกิจกรรมที่ทำให้เกิดการรวมกลุ่ม ดูแลตนเองโดยการ เว้นระยะห่าง สวมหน้ากาก ล้างมือบ่อย ๆ ตรวจวัดอุณหภูมิ และลงชื่อใช้ไทยชนะ เมื่อเข้าไปในแหล่งชุมชน หากรู้ว่าเป็นผู้สัมผัสกลุ่มเสี่ยงสูง ให้รีบเข้ารับการตรวจหาเชื้อ COVID-19 โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ แต่ขอให้ไม่ปกปิดข้อมูลความจริง สามารถสอบถาม และแจ้งรายละเอียดได้ที่ สถานบริการของรัฐทุกแห่งใกล้บ้าน ขอให้ประชาชนทุกคนมั่นใจในมาตรการที่กระทรวงสาธารณสุขดำเนินการอยู่ ส่วนผู้ที่เดินทางเข้าไปในพื้นที่ตาม Time line ทุกท่าน ขอให้เฝ้าระวัง คุมไว้สังเกตอาการ 14 วัน หากมีอาการไข้ ไอ เจ็บคอ มีน้ำมูก จมูกไม่ได้กลิ่น ลิ้นไม่รับรส เหนื่อยหอบ หายใจลำบาก ให้รีบไปพบแพทย์ทันที