วันที่ 29 ธันวาคม 2563 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า เวลาประมาณ 14.00 น. ร.ต.อ.พยุง ศรีโฮง รองสารวัตรสอบสวน สภ.เมืองนครพนม รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ 191 ว่า มีเหตุเพลิงไหม้ที่บ้านท่าค้อ หมู่ 4 ต.ท่าค้อ จึงพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ดับเพลิง อบต.ท่าค้อ, เทศบาลเมืองนครพนม ฯลฯ รุดไปยังที่เกิดเหตุ โดยบ้านต้นเพลิงอยู่ตรงสามแยกหัวมุมถนนประชาอุทิศบรรจบกับถนนโพธิ์ไทรพัฒนา ลักษณะเป็นบ้านไม้ชั้นเดียวยกพื้นสูง เลขที่ 50 หมู่ 4 ซึ่งเพลิงกำลังโหมไหม้ลามไปยังบ้านที่อยู่ข้างเคียงที่เป็นสองชั้นครึ่งปูนครึ่งไม้ เลขที่ 15/1 หมู่ 4 ซึ่งเป็นบ้านของนางสาคร ยุทธเนตร อายุ 71 ปี เจ้าหน้าที่เร่งฉีดน้ำสกัดเพลิงไว้ให้อยู่ในวงจำกัด

ส่วนผู้ก่อเหตุเป็นเจ้าของบ้านต้นเพลิง ทราบว่าชื่อ นายสินชนะ สมจิตร หรือแวง อายุ 40 ปี ถูกเพื่อนบ้านช่วยกันล็อคตัวไว้ในสภาพผมเผ้ารุงรัง หน้าอกสักรูปนกอินทรี สวมกางเกงยีนส์ขายาวตัวเดียว ยืนทรงตัวแทบจะไม่อยู่ พูดจาวกวนไปมา เมื่อสอบถามว่าเผาบ้านตัวเองทำไม นายแวง อ้างไม่ได้เผาแค่จะจุดไฟนึ่งข้าว พอถูกซักหนักๆ เข้านายแวงก็บอกว่าเห็นบ้านมันรกเลยจุดไฟเผาให้มันเกลี้ยงเอี่ยมสะอาด

 

 

สอบสวนเบื้องต้น นายแวง อยู่กับเมียและลูกชายวัยขวบเศษ ไม่ได้ประกอบอาชีพอะไร เสพยาบ้ามานานกว่า 10 ปี เคยเข้ารับการบำบัดมาแล้วหลายครั้ง แต่ไม่เคยคิดจะกลับเนื้อกลับตัว ล่าสุดก่อนจะเผาบ้านตัวเองมีอาการหลอนยามา 2-3 วัน โดยหาเรื่องทะเลาะกับเมียและบ่นพึมพำตลอดทั้งคืน ซึ่งเพื่อนบ้านไม่มีใครอยากเข้าไปยุ่งวุ่นวาย

ก่อนเกิดเหตุ นายแวง เล่าว่า ได้เสพยาบ้าไป 2 เม็ด เมื่อตอนเช้า และมีอาการหลอนเห็นผีสางนางไม้ไปทั่วหมด ขณะนั้นนางแอนผู้เป็นเมียกำลังเข้าห้องน้ำอยู่หลังบ้าน ได้ยิน นายแวง บ่นว่าบ้านรกจัง พอนางแอนเดินออกมาเห็นนายแวงกำลังจุดไฟเผาเสื้อผ้าอยู่กลางห้อง จึงตะโกนร้องเรียกคนให้ช่วย เพื่อนบ้านได้ยินก็รีบมาดึงนางแอนพร้อมลูกออกจากกองเพลิงทัน ส่วนนายแวงเดินออกมายืนยิ้มชมผลงานของตนอย่างพึงพอใจ ขณะเดียวกันนางสาครเพื่อนบ้านที่อยู่ข้างๆได้กลิ่นควันไฟจึงชะโงกหน้าออกมาดู พบเพลิงกำลังโหมไหม้บ้านนายแวง และมีลมพัดมาทางบ้านของตน จึงรีบวิ่งออกมาโดยไม่ได้คว้าสิ่งของมีค่าติดมือมาสักอย่าง แล้วก็ไปล้มฟุบเป็นลมอยู่ที่บ้านญาติร้องไห้คร่ำครวญที่บ้านถูกไฟไหม้ทั้งหลัง

 

เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจึงได้นำตัวนายแวงมาไว้ที่ท้ายรถกระบะ ในสภาพที่ยังไม่หมดฤทธิ์ยาและมีกลิ่นเหล้าคลุ้งทั้งตัว ส่วนนางแอนหลังรอดพ้นจากถูกไฟคลอกได้ ก็รีบพาลูกชายวัยขวบเศษหลบไปอยู่บ้านญาติ ซึ่งพนักงานสอบสวนจะเรียกตัวมาสอบปากคำหาข้อเท็จจริงต่อไป

เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจึงได้นำตัวนายแวงมาไว้ที่ท้ายรถกระบะ ในสภาพที่ยังไม่หมดฤทธิ์ยาและมีกลิ่นเหล้าคลุ้งทั้งตัว ส่วนนางแอนหลังรอดพ้นจากถูกไฟคลอกได้ ก็รีบพาลูกชายวัยขวบเศษหลบไปอยู่บ้านญาติ ซึ่งพนักงานสอบสวนจะเรียกตัวมาสอบปากคำหาข้อเท็จจริงต่อไป