ย้อนจุดเริ่มต้นของเชื้อโรคมรณะ "โควิด-19" ที่ตอนนี้ได้แพร่ไปทั่วโลกแล้ว โดยจุดเริ่มต้นมาจากเมื่อปลายปี 2562 ที่เมืองอู่ฮั่น มณฑลหูเป่ย์ ประเทศจีน ได้พบเชื้อประหลาด มีอาการปอดอักเสบรุนแรงจนถึงแก่ชีวิตได้ บริเวณพื้นที่โดยรอบตลาดค้าส่งอาหารทะเล  โดยที่เชื้อไวรัสตัวนี้สามารถแพร่กระจายจากคนสู่คนผ่านการ ไอ จาม หรือสัมผัสกับสารคัดหลั่งของผู้ป่วย ทำให้ในจีนนั้นระบาดอย่างหนัก 

ในช่วงมกราคม 2563
           - 12 มกราคม 2563 พบนักท่องเที่ยวหญิงวัย 61 ปี สัญชาติจีน มาเที่ยวไทย ซึ่งมีภูมิลำเนาอยู่ที่เมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน ติดเชื้อโควิด-19 นับว่าเป็นการพบผู้ติดเชื้อคนแรกนอกประเทศจีน 
           - 31 ม.ค. ชายไทยวัย 50 ปี ซึ่งขับแท็กซี่ในกรุงเทพมหานคร ได้รับผลตรวจว่าติดเชื้อโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ เพราะก่อนหน้านี้เขารับผู้โดยสารชาวจีนจากเมืองอู่ฮั่นซึ่งมีอาการป่วยไปส่งโรงพยาบาล ถือว่า ชายคนนี้เป็นคนไทยรายแรกที่ติดไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ โดยไม่เคยมีประวัติเดินทางไปประเทศจีนมาก่อน

ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ ขยายพื้นที่เสี่ยงในการคัดกรองผู้เดินทางผ่านสนามบินครอบคลุมประเทศญี่ปุ่น ,สิงคโปร์และเกาหลีใต้ด้วย นอกเหนือจากประเทศจีน

ในช่วงเดือนมีนาคม  มีผู้เสียชีวิตรายแรกจากโควิด-19 รายแรกในไทย 
          - 3 มีนาคม แรงงานผิดกฏหมายในเกาหลีใต้ หรือ ผีน้อย เดินทางกลับไทย เนื่องจากในเกาหลีใต้มีการระบาดโควิดหนัก  ทำให้ใครที่เดินทางมาประเทศต้องเข้ากักตัว 14 วันทุกคน  
         -12 มีนาคม ตรวจพบผู้ป่วยโควิด-19 จากการไป สนามมวยลุมพินี จากนั้นได้สั่งปิดผับ สถานบันเทิง สถานบริการ นวดแผนโบราณและโรงมหรสพ ในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑล ชั่วคราว 14 วัน และได้ปิดห้างขายได้เฉพาะโซนอาหารที่ต้องซื้อกลับ บ้าน และยาเท่านั้น
        - 24 มีนาคม นายกรัฐมนตรีได้ประกาศพระราชกำหนด การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 

ช่วงเดือนเมษายนนายกรัฐมนตรี ประกาศห้ามประชาชนออกนอกเคหสถานทั่วราชอาณาจักร (เคอร์ฟิว) และ ออกประกาศห้ามจัดงานสงกรานต์ทุกระดับ ซึ่งในช่วงนั้นไทยมีผู้ติดเชื้อสะสมรวม 2,551 ราย ผู้เสียชีวิตสะสม 38 ราย

ช่วงเดือนพฤษภาคม ได้เริ่มบังคับใช้มาตรการผ่อนปรนให้กลับมาดำเนินการได้ปกติ ได้แก่ ตลาด ร้านจำหน่ายอาหาร กิจการค้าปลีก-ส่ง กีฬาสันทนาการ ร้านตัดผมและเสริมสวยและร้านตัดผมและฝากเลี้ยงสัตว์     
            -13 พฤษภาคม ศบค. แถลงว่าประเทศไทยไม่พบผู้ป่วยรายใหม่เป็นวันแรก และเป็นวันที่ 17 ที่จำนวนผู้ป่วยติดเชื้อต่ำกว่าวันละ 10 คน  
            -17 พฤษภาคม ได้เริ่มบังคับใช้มาตรการผ่อนปรนในระยะที่ 2 ตามประกาศของ ศบค. มีผลบังคับโดย อนุญาตให้เปิดห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า สถานออกกำลังกายบางส่วน แต่ให้ปิดบริการเวลา 20.00 น. และปรับเวลาการเริ่มเคอร์ฟิวจาก 22.00 เป็น 23.00 น.
           - 27 พฤษภาคม คณะรัฐมนตรีมีมติต่อ พรก. ฉุกเฉินอีก 1 เดือน

ช่วงเดือนมิถุนายน 
            - 15 มิถุนายน เริ่มบังคับใช้มาตรการผ่อนปรนในระยะที่ 4 มีผลบังคับให้ยกเลิกการห้ามออกนอกเคหสถาน 
            - 30 มิถุนายน คณะรัฐมนตรีต่ออายุ พรก. ฉุกเฉินไปจนถึงวันที่ 31 กรกฎาคม 2563 โดยมีคำสั่งห้ามชุมนุม ห้ามกักตุนสินค้า และห้ามเสนอข่าวเท็จ