ผู้ว่าฯ กาญจน์ แจง จนท. ทำงานเชิงรุกป้องกันโควิด -19 อย่างหนัก ไม่ได้เพิกเฉย
27 ธ.ค. 2563, 13:50
ผู้ว่าฯ กาญจน์ โพสต์แจง จนท.ไม่ได้อยู่เฉยๆ ลงพื้นที่ทำงานเชิงรุก สแกนตรวจหาผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด -19 อย่างหนัก หลังมีคนติงกรณีที่ยังไม่พบผู้ติดเชื้อ เป็นเพราะ จนท.ไม่ทำงาน
วันนี้ ( 27 ธ.ค.63 ) ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า นายจีระเกียรติ ภูมิสวัสดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ได้โพสต์ภาพพร้อมข้อความลงบนเฟซบุ๊กส่วนตัว ที่ใช้ชื่อว่า "Jirakiat Bhumisawasdi" โดยภาพที่โพสต์เป็นภาพการทำงานของเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายที่บูรณาการลงพื้นที่เพื่อสแกนตรวจหาผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด -19 ตามมาตรการเชิงรุกในการปฏิบัติหน้าที่ยับยั้งและป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัวโควิด-19 โดยเฉพาะกลุ่มแรงงานต่างด้าวในสถานประกอบการต่างๆ พร้อมระบุข้อความว่า “ถึงวันนี้ยังอุ่นใจนิดนึงว่าเมืองกาญจน์ของเรายังไม่พบผู้ติดเชื้อครับ อยากจะเรียนว่าที่ไม่พบไม่ใช่ไม่พยายามออกตรวจ เรียนว่า หลังจากพบการแพร่ระบาดรอบใหม่ จว.กาญจนบุรี ของเราได้เรียกประชุมผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายทั้งภาครัฐและเอกชนต่างระดมความคิดความร่วมมือ จนท. ทุกฝ่ายต่างทำงานหนักตั้งแต่วันนั้นทั้งตั้งด่านตรวจค้นสกัดกั้นแรงงานต่างด้าวโดยฝ่ายความมั่นคง การออกตรวจตามข่าวสาร Timeline ที่ได้รับแจ้งประสานตามที่จังหวัดต่างๆ แจ้งประสานมา”
“รวมทั้งออกตรวจเชื้อในกลุ่มเสี่ยงของแรงงานต่างด้าวตามโรงงานต่างๆ ทั่วเมือง เหล่านี้มิใช่การอยู่เฉยๆ แล้วบอกว่าไม่พบเชื้อ เหมือนจินตนาการร้ายๆ แล้วออกมาเห่าของใครบางคน”
“ยืนยันว่า จนท.ของรัฐทุกคนทำงานหนักกันครับ”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทันทีที่พบการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในรอบใหม่นี้ นายจีระเกียรติ ภูมิสวัสดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ได้เรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในวันรุ่งขึ้นทันที พร้อมสั่งการให้ทุกฝ่ายทำงานเชิงรุก เพื่อสกัดกั้นไม่ให้มีการแพร่ระบาดในพื้นที่ โดยเน้นไปที่กลุ่มแรงงานต่างด้าวเป็นหลัก รวมทั้งการลักลอบข้ามแดนเข้ามาของแรงงานต่างด้าว พร้อมกับระงับการใช้ช่องทางเข้ามาในราชอาณาจักรของบุคคล ยานพาหนะ และสิ่งของ ณ จุดผ่านแดนถาวรบ้านพุน้ำร้อน ตำบลบ้านเก่า อำเภอเมืองกาญจนบุรี และจุดผ่อนปรนทางการค้าด่านพระเจดีย์สามองค์ (จุดผ่านแดนชั่วคราวเพื่อการท่องเที่ยว) ตำบลหนองลู อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี และช่องทางผ่านแดนที่เป็นช่องทางธรรมชาติ โดยกำชับให้ทุกฝ่ายถือปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคอย่างเคร่งครัด
ขณะที่ที่ อ.ท่ามะกา ซึ่งมีโรงงานขนาดใหญ่ตั้งอยู่เป็นจำนวนมาก นายอนุชา หอยสังข์นายอำเภอท่ามะกา พร้อมด้วย นายธนกร สว่างแก้ว ปลัดอำเภอหัวหน้าฝ่ายความมั่นคง และ สมาชิก อส.อำเภอท่ามะกา ร่วมกับ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดกาญจนบุรี (กอ.รมน.) แรงงานจังหวัด เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลมะการักษ์ สาธารณสุขอำเภอกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ลงพื้นที่ตรวจคัดกรองตามมาตรการเฝ้าระวัง ป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ในกลุ่มแรงงานต่างด้าว บริษัท ไวต้าฟู้ด แฟคทอรี่ (1989) จำกัด ซึ่งเป็นโรงงานผลิตและจำหน่ายพืชผักและผลไม้แปรรูปเพื่อการส่งออกรายใหญ่ ที่ศาลาเอนกประสงค์ หมู่ที่ 7 ตำบลแสนตอ อำเภอท่ามะกา จังหวัดกาญจนบุรี
ทั้งนี้ ที่โรงงานไวต้าฟู้ด และบริษัทในเครือมีแรงงานชาวเมียนมา กว่า 1,000 คน จากการตรวจในเบื้องต้น ไม่พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 แต่อย่างใด ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้กำชับให้คนงานทั้งหมดสวมหน้ากากอนามัย ขณะออกจากที่พักไปทำงาน และให้หัวหน้าคนงานคอยตรวจสอบว่า มีแรงงานต่างด้าว มาจากที่อื่นหรือไม่ ถ้ามีให้แจ้งเจ้าหน้าที่ เพื่อทำการตรวจโรค และห้ามเคลื่อนย้ายแรงงานออกนอกพื้นที่โดยเด็ดขาด เพื่อป้องกันการระบาดของโรคโควิด-19
ส่วนที่ อ.ท่าม่วง นายฑรัท เหลืองสอาด นายอำเภอท่าม่วง ได้สั่งการให้ นายประเสริฐ ทองด้วง ปลัดอำเภอหัวหน้าฝ่ายความมั่นคง พร้อมด้วยสมาชิก อส.ร้อย อส.อ.ท่าม่วง ที่ 5 สนธิกำลังร่วมกับผู้แทนจากหน่วยงานต่างๆ ประกอบด้วย กองอำนวยการรักษาความสงบภายในจังหวัดกาญจนบุรี สาธารณสุขอำเภอท่าม่วง โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลนพกิจโกศล เทศบาลตำบลหนองตากยา สถานีตำรวจภูธรสำรอง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน แพทย์ประจำตำบล ผู้ใหญ่บ้าน อาสาสมัครสาธารณสุขหมู่บ้าน (อสม.) ชุดรักษาความสงบหมู่บ้าน (ชรบ.) และสมาชิก อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (อปพร.) เทศบาลตำบลหนองตากยา รวมทั้งสิ้นประมาณ 100 นาย เข้าดำเนินการตรวจสอบคุมเข้มเพื่อการถือปฏิบัติตามมาตรการเฝ้าระวัง ป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของ COVID – 19 ทั้งในส่วนของบรรดาพ่อค้าแม่ค้าที่มีอยู่ประมาณ 400 คนเศษ (มีทั้งที่เป็นคนในท้องที่เองอำเภอข้างเคียงในจังหวัดกาญจนบุรี บางส่วนมาจากราชบุรี เพชรบุรี) และประชาชนทั่วไปจากพื้นที่ในละแวกตำบลหนองตากยา ตำบลพังตรุ ตำบลรางสาลี่ อำเภอท่าม่วง และอำเภอข้างเคียง เช่น อำเภอท่ามะกา อำเภอด่านมะขามเตี้ย จังหวัดกาญจนบุรี อำเภอบ้านโป่ง อำเภอโพธาราม อำเภอจอมบึง จังหวัดราชบุรี รวมทั้งแรงงานต่างด้าวจากสถานประกอบการข้างเคียงที่นิยมมาจับจ่ายใช้สอยซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคในทุกๆ วันเสาร์ ไม่ต่ำกว่าวันละ 1,000 คน
ทั้งนี้พบว่ามีการปฏิบัติตามมาตรการป้องกันและควบคุมโรคดังกล่าวของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด เช่น การสวมหน้ากากอนามัย-หน้ากากผ้า การตรวจวัดไข้ การใช้เจลแอลกอฮอล์ล้างมือ โดยผู้ประกอบการตลาดได้จัดแบ่งช่องทางเข้า – ออก สำหรับผู้ใช้บริการตลาด รวม 4 ช่องทาง พร้อมมีกำลังเจ้าหน้าที่คอยบริการทุกจุด และมีเจ้าหน้าที่คอยประชาสัมพันธ์ขอความร่วมมือผ่านเครื่องขยายเสียงตลอดเวลาจนกว่าจะปิดตลาด อนึ่ง จากการสอบถามผู้ประกอบการเจ้าของตลาดและพนักงานฝ่ายปกครองประจำท้องที่ซึ่งได้รับการชี้แจงยืนยันว่าตลาดแห่งนี้ไม่ยินยอมให้พ่อค้าแม่ค้าที่รับสินค้าจำพวกอาหารทะเลทั้งสดและแห้งจากตลาดมหาชัยและพื้นที่ใกล้เคียงในจังหวัดสมุทรสาคร รวมทั้งพื้นที่เสี่ยงต่างๆ มาวางจำหน่ายโดยเด็ดขาด
นอกจากนี้ยังได้เข้าตรวจสถานประกอบการ บริษัท เอสอีดับเบิ้ลยูที กาญจนบุรี จำกัด (ซูมิโตโม อิเล็คตริกไวริ้ง ซิสเต็มส์) เบื้องต้นไม่พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 แต่อย่างใด
ขณะที่ทุกๆ อำเภอของจังหวัดกาญจนบุรี เจ้าหน้าที่ก็ดำเนินการตรวจคัดกรองตามมาตรการเฝ้าระวัง ป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) เช่นกัน
ขณะเดียวกัน เพจเฟซบุ๊กสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดกาญจนบุรี ได้โพสต์ขณะที่ นพ.ธนรักษ์ ผลิพัฒน์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข เขตสุขภาพที่ 5 ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมติดตามระบบและการดำเนินงานสถานการณ์ การระบาดของโรคโควิด-19 ที่จังหวัดกาญจนบุรี เมื่อวันเสาร์ที่ 26 ธ.ค.2563 ที่ห้องประชุมแผน สิริเวชชะพันธ์ โรงพยาบาลพหลพลพยุหเสนา
โดยมี นพ.นิพนธ์ พัฒนกิจเรือง นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดกาญจนบุรี นพ.สมเจตน์ เหล่าลือเกียรติ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลพหลพลพยุหเสนา นพ.อิทธิพล จรัสโอฬาร ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมะการักษ์ และคณะทำงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุมและให้ข้อมูลการดำเนินงาน รวมทั้งติดตามปัญหาอุปสรรคในพื้นที่
โดย นพ.ธนรักษ์ ผลิพัฒน์ ได้ให้นโยบายการทำงานเป้าหมาย 3 ข้อ คือ 1) ขอให้ควบคุมโรคและสถานการณ์ให้ได้โดยเร็ว ภายใน 28 วัน 2) ให้ลดอัตราป่วย/ตายลงให้ต่ำกว่า 1.4% และ 3) บุคลากรสาธารณสุขที่เกี่ยวข้องต้องไม่ติดเชื้อจากผู้ป่วย
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า จนถึงขณะนี้จังหวัดกาญจนบุรี ยังไม่พบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรน่า COVID-19 แม้แต่รายเดียว