ภาพจากกล้องวงจรปิดที่ลานจอดรถศูนย์การค้าสตาร์พลาซ่า จับภาพเหตุการณ์ขณะที่ รปภ.กำลังเดินไปบอกหนุ่มหัวร้อนเจ้าของรถยนต์คันหนึ่ง ขอให้เคลื่อนย้ายรถออกจากที่จอดรถเป็นการด่วน เนื่องจากเกรงว่า รถยนต์ที่จอดอยู่จะได้รับความเสียหายจากคราบน้ำยา ของเจ้าหน้าที่เทศบาลนครระยอง ที่มาฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อการแพร่ระบาดของโรคโควิด19 จึงเกิดมีปากเสียงกันกับหนุ่มหัวร้อนเจ้าของรถ จากไม่พอใจที่สั่งให้เร่งรีบ จนถึงขั้นชกต่อยกันต่อหน้าไทยมุง ที่ต่างยืนมองในเหตุการณ์ก่อนต่างฝ่ายต่างแยกย้ายกันไปแจ้งความกับ ตำรวจ สภ.เมืองระยอง

นายเรืองเกียรติ ศิริประพันธ์รัตน์ อายุ 46 ปี หัวหน้า รปภ.ได้เล่าว่า ช่วงแรกที่มีปัญหา รปภ.เดินไปเปิดเทป ขาว แดง เพื่อให้รถของเขาถอยออก ขณะนั้นรปภ.ก็ถูกหนุ่มหัวร้อนเจ้าของรถ ต่อว่า ว่าเรื่องมากที่ต้องย้ายรถ จนเกิดการโต้เถียงกัน
นายเรืองเกียรติ ฯ หัวหน้า รปภ. เล่า ผมเลยเดินไปแจ้งกับหนุ่มหัวร้อนว่าขอความร่วมมือ ด้วยจะมีเจ้าหน้าที่สาธารณสุข เทศบาลนครระยอง จะมาฉีดพ่นยาค่าเชื้อให้ และเกรงว่าน้ำยาจะกัดสีรถของเขา จึงขอความร่วมมือขอให้ถอยรถออกจากที่จอด และเมื่อเจ้าหน้าที่มาถึงในรอบแรกเลยยังไม่ได้พ่น ด้วยติดว่ามีรถของหนุ่มหัวร้อนจอดอยู่ จึงขอให้เจ้าหน้าที่ไปพ่นน้ำยาในจุดถัดไปก่อน ด้วยเกรงว่ารถของหนุ่มหัวร้อนจะมีปัญหา

แต่ที่ไหนได้ หนุ่มหัวร้อน ก็ยังด่า รปภ. ด้วยคำหยาบคายอยู่ตลอด จนสุดท้ายตนเองจึงเข้าไปพูดคุยกับ หนุ่มหัวร้อนเจ้าของรถ พร้อมกับ แจ้งว่ามีปัญหาอะไรผมขอรับผิดชอบเอง เพราะผมทำงานเป็นหัวหน้า รปภ.อยู่ที่นี่ อย่างไรต้องขอรบกวนพี่หนุ่มหัวร้อน ถอยรถออกก่อน และเมื่อเขาถอยรถออกไปก็ยังมีท่าทีไม่พอใจ พอหนุ่มหัวร้อนย้ายรถเสร็จ ตนเองกับ รปภ.ลูกน้อง ก็ยังดูการจราจรที่ต้องเคลียร์เส้นทางในตลาด ให้กับรถของเจ้าหน้าที่พ่นน้ำยาได้

นายเรืองเกียรติ เล่าด้วยความระทึก ว่า เป็นจังหวะเดียวกันกับที่ หนุ่มหัวร้อนได้เดินมาอีกมุมกล้อง ที่มองไม่เห็นว่ากำลังยืนด่าผมด้วยคำหยาบคาย ผมจึงขอให้เจ้าหน้าที่การตลาดไปคุยกับหนุ่มหัวร้อน แต่เขาก็ยังไม่เลิกด่า เลยเดินไปอธิบายในการขอความร่วมมือ หนุ่มหัวร้อนก็ยังให้ "คว*"ผมผมบอก ผมมาพูดกับพี่ดีๆ แต่พี่พูดคำหนึ่งก็ ไอ้สั* คำหนึ่งก็ เห*ย  คำหนึ่งคว* แบบนี้พี่เลิกด่าแล้วมาต่อยผมแทนดีกว่าจะได้หายโมโห  เพราะพี่หนุ่มหัวร้อนไม่ฟังสิ่งที่ผมอธิบายไปเลย