เมื่อวันที่ 18 ธ.ค. 63  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ตำรวจภูธรจังหวัดศรีสะเกษ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ  พล.ต.ท.ภาณุรัตน์  หลักบุญ  ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 พร้อมด้วย นายวิชัย   ตั้งคำเจริญ  รอง ผวจ.ศรีสะเกษ พล.ต.ต.สันติ   เหล่าประทาย ผบก.ภ.จว.ศรีสะเกษ  นายนเรศ สุวรรณกูฏ ผอ.กกต.ประจำ  จ.ศรีสะเกษ นายปรพัทธ์  ภูงามทอง  ผอ.แขวงทางหลวงชนบทศรีสะเกษ นายสมเกียรติ   ศรีขาว  นายอำเภอเมืองศรีสะเกษ ได้ร่วมกันแถลงข่าวผลการระดมกวาดล้างอาชญากรรมก่อนการเลือกตั้ง ส.อบจ.และ นายก อบจ.ศรีสะเกษ  โดยได้บูรณาการสรรพกำลังร่วมกับทุกภาคส่วน เพื่อทำการกวาดล้างอาชญากรรม ระหว่างวันที่  10-19 ธ.ค.63  เน้นเป้าหมายสำคัญ ได้แก่ อาวุธปืน วัตถุระเบิด  อาวุธสงคราม ยาเสพติดให้โทษ  การพนันทุกประเภท แรงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย อย่างจริงจัง และให้มีผลการปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม ในพื้นที่รับผิดชอบ 8 จังหวัด ประกอบด้วย ชัยภูมิ นครราชสีมา บุรีรัมย์ ยโสธร ศรีสะเกษ สุรินทร์ อำนาจเจริญ และ อุบลราชธานี  มีการนำเอาของกลางจำนวนมากมาประกอบการแถลงข่าวในครั้งนี้ด้วย โดยมี พ.ต.อ.เทพพิทักษ์  แสงกล้า ผกก.สภ.เมืองศรีสะเกษ นำคณะนายตำรวจ สภ.เมืองศรีสะเกษให้การต้อนรับ

พล.ต.ท.ภาณุรัตน์   หลักบุญ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3  กล่าวว่า   ตามที่คณะกรรมการการเลือกตั้งได้มีประกาศ ลงวันที่ 26 ต.ค. 63 เรื่อง กำหนดให้มีการเลือกตั้งสมาชิกในวันอาทิตย์ที่ 20 ธ.ค. 63 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้มีหนังสือ ด่วนที่สุด ที่  0007.33/3265 ลงวันที่ 30 ต.ค. 63 เรื่อง การเตรียมความพร้อมในการรักษาความปลอดภัยและความสงบเรียบร้อยการจัดการเลือกตั้ง ส.อบจ.และ นายก อบจ.โดยให้จัดกำลังพลเจ้าหน้าที่ตำรวจปฏิบัติหน้าที่ เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยและความสงบเรียบร้อย ใแต่ละภารกิจให้เหมาะสมกับสภาพพื้นที่ สถานการณ์ และให้มีการระดมกวาดล้างอาชญากรรม โดยเฉพาะกลุ่มผู้มีอิทธิพล มือปืนรับจ้าง และอาวุธสงครามและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนในช่วงก่อนการเลือกตั้งดังกล่าว โดยในห้วงระหว่างวันที่ 10 - 17 ธ.ค. 63  ตำรวจภูธรภาค 3 สามารถจับกุมผู้ต้องหาและตรวจยึดของกลางในคดีต่าง ๆ ได้จำนวนมาก  การจับกุมคดีต่าง ๆ แยกได้ดังนี้คือ ความผิดเกี่ยวกับชีวิตร่างกาย และเพศ จับกุม 22 ราย ผู้ต้องหา 22 คน ความผิดเกี่ยวกับทรัพย์  จับกุม 40 ราย ผู้ต้องหา 43 คน ความผิดพิเศษ (17 พ.ร.บ.) จับกุม 29 ราย ผู้ต้องหา 29 คน ความผิดที่รัฐเป็นผู้เสียหาย  จับกุม 3,671  ราย ผู้ต้องหา 3,802 คน โดยแยกผลจับกุมการกระทำความผิด ได้ดังนี้ หมายจับคดีค้างเก่า (กลุ่ม 1-4)  จับกุม 29 ราย ผู้ต้องหา 29 คน ความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด จับกุม 1,308 ราย ผู้ต้องหา 1,308  คน ยาบ้าของกลาง  51,183 เม็ด สารไอซ์  130.12 กรัม กัญชาแห้ง 928.80 กรัม กัญชาสด 1 กิโลกรัม และอีก 533.63  กรัม พืชกระท่อม 1 กิโลกรัม ความผิดเกี่ยวกับ  พ.ร.บ.อาวุธปืน จับกุมได้ 577 ราย ผู้ต้องหา 579 คน ของกลางอาวุธปืนไม่มีทะเบียน จับกุมได้ 123 ราย 123 คน จำนวน 127 กระบอก กระสุนปืน 119 นัด ความผิดเกี่ยวกับ พ.รบ.คนเข้าเมืองฯ จับกุม 83 ราย ผู้ต้องหา 100 คน  ตนขอความร่วมมือพี่น้องประชาชนและสถานประกอบการทุกแห่งในการแจ้งเบาะแสข้อมูลการกระทำผิดกฎหมายทุกรูปแบบ โดยแจ้งข้อมูลผ่านสายด่วน 1599 และสายด่วน 191 ได้ตลอด 24 ชม. เพื่อดำเนินการปราบปราม จับกุม ดำเนินคดีผู้กระทำความผิด ลดปัญหาอาชญากรรมในรูปแบบต่าง ๆ ในพื้นที่ในภาพรวมอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ประชาชนมีความปลอดภัยจากปัญหาอาชญากรรม  ซึ่งในการเลือกตั้ง ส.อบจ.และ ส.อบจ.ครั้งนี้  ตนได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทุกนายสังกัดตำรวจภูธรภาค 3 ให้วางตัวเป็นกลางอย่างเคร่งครัด