จากการสอบสวนปากคำ น.ส.ณัฐกานต์ เจ้าของร้านให้การว่า ก่อนเกิดเหตุเวลาประมาณ 17.30น.ขณะที่พนักงานขายของร้าน2คนคือ น.ส.รัตติกาล  รอดแก้ว 24 ปี และ น.ส.ระวิวรรณ เรืองฤทธิ์ อายุ 25ปี กำลังยืนขายทองภายในร้านและกำลังจะเตรียมปิดร้าน ทันใดนั้นได้มีคนร้ายเป็นชายฉกรรจ์ สวมเสื้อยืดคอปกสีขาว และผ้าคลุมกันเปื้อนแบบพนักงานขายไก่ย่างยี่ห้อหนึ่งใส่แมสดำ ใส่ผ้ากันเปื้อนและสวมหมวกแก๊ปไก่ย่างยี่ห้อดังยี่ห้อหนึ่ง ขี่รถจยย.สกู๊ปปี้ ไอสีเทา เดินเข้ามาในร้านทำทีขอเลือกซื้อสร้อยคอทองคำ โดยพนักงานได้เอาสร้อยคอทองหนัก2บาท2เส้นมาให้เลือกดู พอพนักงานขายนำเอาสร้อยคอทองคำหนัก 2บาท 2 เส้นมาวางบนตู้โชว์แล้ว คนร้ายก็ชักอาวุธปืนพกสั้น ขนาด 9 มม.ออกจากผ้ากั้นเปื้อนด้านหน้าออกมาขู่ไม่ให้พนักงานขัดขืน  ทำให้พนักงานขายตกใจนั่งหลบไปหลังร้าน คนร้ายยิงไป1นัดแต่ไม่ถูกใคร ก่อนจะชิงทองทั้งสองเส้นหันหลังวิ่งจะออกจากร้าน แต่ปรากฏว่าประตูร้านทองล็อคปิดอัตโนมัติ ทำให้คนร้ายหนีไม่ได้ คนร้ายจึงใช้อาวุธปืนกระหน่ำยิงใส่บานกระจกร้านทอง5นัดซ้อนจนกระจกแตกละเอียด แล้วทำหมวกหล่นในที่เกิดเหตุ แล้วคนร้ายได้ถือสร้อยคอทองคำหนัก 2 บาท 2 เส้นรวม 4 บาท มูลค่า 1.1 แสนบาท วิ่งออกจากร้านไปขี่รถจยย.คันดังกล่าวขับย้อนศรหลบหนีไปทาง อ.ปากพนังทันที

 

เจ้าของร้านทองแห่งนี้เผยอีกว่า เมื่อ5ปีที่ผ่านมา ร้านทองของตนเคยถูกคนร้ายใช้ปืนปลอมบุกชิงทองหนักกว่า100บาทที่สาขาหน้าหมู่บ้านเมืองทอง แล้วหลบหนีแต่ถูกตำรวจติดตามจับกุมคืนมาได้ทั้งหมด มาคราวนี่ถูกคนร้ายบุกชิงทองอีกรอบแต่คนละสาขาห่างกันประมาณ 2 กม. ซึ่งหลังจากเกิดเหตุ จนท.ตำรวจจะได้เร่งแกะรอยกล้องวงจรปิดติดตามคนร้ายรายนี้ตอไป คาดได้ตัวเร็วๆเพราะเห็นหน้าคนร้ายชัดเจน