วันที่ 3 ธ.ค. เวลา 10.30 น. ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า ณ ห้องประชุมสิรินธรวัลลี ชั้น 4 ศาลากลางจังหวัดบึงกาฬ นายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงยุติธรรม นายเรืองศักดิ์ สุวารี อธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ พ.ต.อ.อัครพล บุณโยปัษภัมภ์ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ และเจ้าหน้าที่จากกระทรวงยุติธรรม ลงพื้นที่ประชุมหารือแนวทางการให้ความช่วยเหลือ กรณีชาวบ้านถูกมิจฉาชีพชักชวนหลอกลวงให้ทำสัญญาเช่าชื้อรถจักรยานยนต์ โดยนายสนิท ขาวสอาด ผวจ.บึงกาฬ คณะทำงานของกระทรวงยุติธรรม พร้อมด้วยหน่วยงานต่างๆ ในจังหวัดบึงกาฬ ประกอบด้วย นายวนาชาติ วงศ์พุทธา ปลัด อบจ.บึงกาฬ ปฏิบัติหน้าที่นายก อบจ.บึงกาฬ นายวิชญ สุขสวัสดิ์ ยุติธรรมจังหวัดบึงกาฬ และชาวบ้านที่ได้รับความเสียหายจากการทำสัญญาเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ จำนวนกว่า 300 ราย ร่วมหารือในครั้งนี้

 

 

 

ทั้งนี้เมื่อวันที่ 6 พ.ย. นายนิพนธ์ คนขยัน อดีตนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดบึงกาฬ ได้ยื่นหนังสือร้องทุกข์ต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ให้ช่วยเหลือกรณีชาวบ้านจังหวัดบึงกาฬ ถูกหลอกลวงให้ทำสัญญาเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ โดยที่ประชุมได้สรุปแนวทางการให้ความช่วยเหลือชาวบ้าน ดังนี้ 1. ให้ สยจ.บึงกาฬ ให้ความช่วยเหลือเรื่องทนายความจากกองทุนยุติธรรมในการฟ้องร้องต่อสู้คดี 2. ให้ตำรวจภูธรจังหวัดบึงกาฬ และ สภ.ที่เกี่ยวข้อง เร่งรัดติดตามจับกุมตัวผู้กระทำความผิด กรณีชาวบ้านได้แจ้งความร้องทุกข์ไว้ 3. ให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ พิจารณารับเป็นคดีพิเศษ ในการติดตามตัวผู้กระทำความผิดและติดตามเส้นทางการเงินและอายัดเงินคืนแก่ชาวบ้านที่ได้รับความเสียหาย 4. ให้กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพช่วยเหลือในการเจรจาไล่เกลี่ยคดีที่ชาวบ้านถูกบริษัทไฟแนนซ์ฟ้องร้อง ข้อหาฉ้อโกงและผิดสัญญาเช่าชื้อให้กับชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อน

 

 

นายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า นายกรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ให้ความสำคัญในการแก้ไขปัญหาการฉ้อโกงประชาชนเป็นวาระแห่งชาติ และท่านสมศักดิ์ เทพสุทิน รมต.กระทรวงยุติธรรม ท่านเน้นย้ำในการอำนวยความยุติธรรมให้กับพี่น้องประชาชน มีนโยบายชัดเจนในเรื่องยุติธรรมเชิงรุก สร้างสุขให้ประชาชน เรื่องนี้ผู้เสียหายได้มาร้องทุกข์ที่กระทรวงยุติธรรม โดยผ่านศูนย์ยุติธรรมสร้างสุข รัฐมนตรีได้มอบหมายให้ผมลงพื้นที่มาสืบหาข้อเท็จจริง ลงพื้นที่เพื่อที่จะรับฟังจากปากของชาวบ้านที่เสียหาย ถูกหลอกลวงให้เช่าซื้อรถจักรยานยนต์ โดยที่ตัวเองนั้นไม่ได้รจักรยานยนต์ไปเลย กลับถูกบริษัทไฟแนนซ์ฟ้องร้องให้ชำระเงิน ซึ่งวันนี้จะต้องแสวงหาความจริงให้มันปรากฏให้ชัดเจนว่ากระบวนการหลอกลวงนั้นเป็นมาอย่างไร และผู้เสียหายที่ถูกฟ้องร้องคดีทางกระทรวงยุติธรรมก็จะไปช่วยอำนวยความยุติธรรม โดยผ่านยุติธรรมจังหวัด ผ่านกองทุนยุติธรรม ซึ่งจะมีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพไปกำกับอีกครั้ง ก็ฝากเตือนพี่น้องประชาชนทั่วประเทศอย่าหลงเชื่อกระบวนการเหล่านี้ มันเหมือนกับแชร์ลูกโซ่ เหมือนกับฉ้อโกงประชาชนในหมู่มาก เพราะใช้วิธีการปากต่อปาก อย่าไปหลงเชื่อหากมีการชักชวนแล้วมีผลตอบแทนไม่ต้องทำอะไรแล้วมีเงินใช้ สุดท้ายท่านอาจตกเป็นเหยื่อถูกหลอก