รวบ "พระสงฆ์" ซุกยาบ้าในกล่องไม้ขีด เสพจนหลอน
1 ธ.ค. 2563, 18:46
วันที่ 1 ธันวาคม 2563 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า เวลา 13.00 น. นายวรวิทย์ พิมพนิตย์ นายอำเภอบ้านแพง จ.นครพนม ได้มอบหมายให้ นายมนตรี จารุธำรง ปลัดอำเภอฯ ชำนาญการพิเศษ/เจ้าพนักงานสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) นายชยณัฐ ประทุมมาตย์ นายปัญญา ประดิษฐ์บุญ ม.ญ.(นายหมู่ใหญ่) อิสเรนน์ พระจอมจันทร์ ม.ญ.กองมณี สีหา ม.ท. (นายหมู่โท) กฤษดา แพงหนู และ อส.(อาสารักษาดินแดน)ดนัย ศรียางนอก เข้าตรวจค้นกุฏิพระภายในวัดสายธรรมยุตแห่งหนึ่ง หมู่ที่ 5 เขตเทศบาลตำบลบ้านแพง หลังส่งสายล่อซื้อยาบ้าจากพระรูปหนึ่ง ทราบภายหลังว่าชื่อ พระสมชาย เจริญชัย ( ธัมมสาโร ) อายุ 55 ปี พื้นเพเป็นชาวบ้านหมู่ 5 เทศบาลตำบลบ้านแพง พร้อมของกลางยาบ้าจำนวน 32 เม็ด ซุกซ่อนอยู่ในกล่องไม้ขีดไฟ วางอยู่บนหัวนอนในกุฏิ พร้อมเงินล่อซื้อจำนวน 300 บาท อยู่ในกระเป๋าผ้าคาดเอว และค้นเจอหลอดไม้ซาง 4 อัน ไฟแช็ค 2 อัน ที่มีไว้สำหรับเสพยาบ้า จึงนำตัวพระสมชายไปสึกกับเจ้าอาวาสวัดฯ จากนั้นก็พาตัวไปตรวจหาสารเสพติดที่โรงพยาบาลบ้านแพงพบเป็นฉี่สีม่วง จึงดำเนินการสอบสวนขยายผลต่อ
จากการสืบสวนเบื้องต้นทราบว่าวันที่ 30 พฤศจิกายนที่ผ่านมา นายมนตรี จารุธำรง ปลัดอำเภอ/ป.ป.ส.ฯ ได้รับแจ้งจากสายลับว่า มีพระสงฆ์รูปหนึ่งชื่อหลวงพี่สมชาย มีพฤติกรรมเสพและจำหน่ายยาบ้าแก่วัยรุ่นในชุมชน จึงทดสอบข้อเท็จจริงด้วยการมอบเงินสดจำนวน 200 บาท ให้สายลับไปล่อซื้อยาบ้าได้มา 3 เม็ด
หลังทราบพฤติการณ์ชัดเจน จึงประสานกับ นายปัญญา ประดิษฐ์บุญ ปลัดอำเภอฯ หัวหน้าฝ่ายความมั่นคงอำเภอบ้านแพง และรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ จึงร่วมกันวางแผนล่อซื้อ โดยนำเงินจำนวน 300 บาท ถ่ายสำเนาไว้เป็นหลักฐาน ก่อนจะมอบให้สายลับไปล่อซื้อ พร้อมจัดกำลัง อส. ซุ่มดูอยู่บริเวณทางเข้าวัด สายลับได้เดินไปหาพระสมชายที่กุฏิ ก่อนจะเดินกลับมาพร้อมกับยาบ้าจำนวน 4 เม็ด ห่อด้วยถุงพลาสติกสีเขียวจึงส่งให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบ จากนั้นชุดจับกุมได้แสดงตัวเข้าขอตรวจค้น พระสมชายเห็นเจ้าหน้าที่มีท่าทีตื่นเต้นลุกลี้ลุกลน และยอมรับว่าเป็นผู้เสพยาบ้า และเพิ่งจะมอบยาบ้าให้ชายหนุ่มคนนั้นจริง แต่อ้างว่าตนเองไม่ใช่ผู้จำหน่าย สาเหตุที่ให้ยาบ้าไปเพราะเขามาขอแบ่งสูบ
เจ้าหน้าที่ได้ตรวจค้นตัวพบเงินจำนวน 300 บาท อยู่ในกระเป๋าผ้าคาดเอวของพระสมชาย เมื่อเข้าไปในกุฏิพบยาบ้าบรรจุอยู่ในถุงพลาสติกซ่อนอยู่ในกล่องไม้ขีดไฟวางอยู่บนหัวนอน พระสมชายจนมุมจึงยอมรับสารภาพแต่ไม่เปิดเผยที่มาของยาบ้า จึงนำตัวสึกดังกล่าว พร้อมแจ้งข้อกล่าวหาแก่ นายสมชาย คือ 1.จำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) โดยผิดกฎหมาย 2.มียาเสพติดให้โทษประเภท 1(ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย และ 3. เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1(ยาบ้า) โดยผิดกฎหมาย แต่นายสมชาย ไม่ยอมเซ็นชื่อลงในบันทึกการจับกุม เจ้าหน้าที่จึงนำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.บ้านแพง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า นายสมชาย ระหว่างถูกควบคุมตัวอยู่ในที่ว่าการอำเภอบ้านแพง ยังมีอาการหลอนยาวิ่งวนไปเวียนมาอยู่ไม่เป็นที่ และให้การวกวนสับสน พอจับใจความได้ว่าอุปสมบทเป็นพระสายป่าอยู่ที่อำเภอบุ่งคล้า จังหวัดบึงกาฬ รวมแล้วประมาณ 3 พรรษา ต่อมาช่วงหลังออกพรรษาได้เดินทางมาขอจำวัดอยู่ที่วัดสายธรรมยุตชื่อดังในเขตเทศบาลตำบลบ้านแพง เจ้าอาวาสเห็นว่าเป็นคนในชุมชนจึงอนุญาตให้อยู่ด้วย
ระหว่างที่จำพรรษาอยู่วัดแห่งนี้ ก็ไปเจอกับวัยรุ่นคนข้างวัดที่พาเมียมาขอข้าววัดกินประจำ จึงมีความสนิทสนมกันโดยปริยาย เมื่อมีความคุ้นเคยนายสมชายอ้างว่าวัยรุ่นคนนั้นได้ชวนทดลองเสพยาบ้า และมั่วสุมกันในกุฏิเรื่อยมา ส่วนเงินที่ไปซื้อยาบ้ามากักตุนก็ได้มาจากการรับกิจนิมนต์ของญาติโยม แต่เจ้าหน้าที่ไม่เชื่อคำให้การของผู้ต้องหา เพราะทราบว่าเป็นผู้จำหน่ายรายย่อยที่รับยาบ้ามาจากนายทุน โดยแหล่งข่าวเผยว่านายสมชายนำยาบ้าอีกจำนวนหนึ่ง ไปฝังดินซ่อนไว้ในบริเวณวัด แต่ไม่ยอมปริปากบอกความจริง เหตุที่ความลับแตกเพราะนายสมชายหลังเสพยาบ้า จะมีอารมณ์จึงขอมีอะไรกับเมียของวัยรุ่นที่มั่วสุมกัน ทำให้วัยรุ่นไม่พอใจจึงนำเรื่องไปเล่าให้สายลับฟัง จึงนำมาสู่การล่อซื้อและจับกุมดังกล่าว ซึ่งเจ้าหน้าที่กำลังติดตามตัวสองผัวเมียวัยรุ่นคู่นี้มาสอบสวนหาข้อเท็จจริงต่อไป