ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังมีการร้องเรียนข้อมูลผ่านสื่อโซเชียล กรณีถูกกลุ่มคนที่มีพฤติกรรมแอบแฝงฉวยโอกาสข่มขู่เรียกผลประโยชน์ ขายดอกไม้ ธูป เทียน บริเวณพื้นที่จอดรถวัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร อ.ธาตุพนม จ.นครพนม  ซึ่งมีลักษณะไม่แตกต่างจากโจรปล้นชาวบ้าน  พอประชาชน นักท่องเที่ยว ไม่ยอมซื้อก็จะถูกข่มขู่และมีการทำลายรถยนต์ เช่น ขูดขีดสีรถ ปล่อยลมยางได้รับความเดือดร้อนและเสียหาย

 ต่อมา นายไกรสร กองฉลาด ผวจ.นครพนม ได้ประสานทางวัดพระธาตุพนม เร่งด่วนหารือ คณะกรรมการวัด หน่วยงานตำรวจ ฝ่ายปกครอง และหน่วยงานเกี่ยวข้อง เร่งหาทางป้องกันแก้ไข  ซึ่งปัญหาดังกล่าวอาจเคยเกิดขึ้นในสถานที่สำคัญหลายแห่ง รวมถึงวัดพระธาตุพนมฯ  แต่ครั้งนี้ไม่ควรจะเกิดขึ้นในวัดพระธาตุพนมฯ ศูนย์รวมจิตใจชาวบ้าน

 ทั้งนี้วัดคือหน่วยงานหลักสำคัญ เพราะเป็นนิติบุคคลที่จะต้องรับผิดชอบ และหาทางแก้ไข ร่วมกับหน่วยงานเกี่ยวข้องไม่ให้เกิดขั้นอีก เพราะเป็นการทำลายภาพลักษณ์การท่องเที่ยว เบื้องต้นได้สั่งการให้ทางตำรวจ รวมถึงเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ไปติดตามตรวจสอบหาตัวผู้กระทำผิด โดยเบื้องต้นพบว่าเป็นกลุ่มบุคคลที่อ้างว่า มีอาการทางประสาท ไม่สมประกอบ แต่จะต้องมีการตรวจสอบชัดเจน และหากเข้าข่ายผิดกฎหมายจะต้องดำเนินการขั้นเด็ดขาด  นอกจากนี้จะต้องวางมาตรการดูแลป้องกันร่วมกัน ต้องมีการจัดระเบียบ วางแนวทางที่ชัดเจน ทั้งระบบ ไม่ให้เกิดขึ้นซ้ำอีก เพราะเป็นสถานที่สำคัญ  ประชาชน นักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาจะต้องมีความอุ่นใจ และได้รับความปลอดภัยทุกคน  

 

ล่าสุด วันที่ 22 พฤศจิกายน 2563 ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่บริเวณหน้าวัดพระธาตุพนมฯ ตรงจุดลานจอดรถที่มีปัญหาอีกครั้ง พบกลุ่มผู้สร้างความเสื่อมเสีย มีการยัดเยียดขายดอกไม้ ธูป เทียน พร้อมแผ่นทอง ให้นักท่องเที่ยว  ประมาณ 4-5 คน ได้ฉวยโอกาสในตอนช่วงเช้า และเป็นวันหยุดพิเศษ 4 วัน ที่ยังคงมีนักท่องเที่ยวหลายๆจังหวัดหลั่งไหลเข้ามากราบไหว้สักการะบูชาองค์พระธาตุพนม

 

 

ซึ่งคนกลุ่มนี้เดินขายดอกไม้ธูปเทียนให้กับนักท่องเที่ยว โดยไม่แยแสกับคำสั่งที่ทางจังหวัดให้ดำเนินการขั้นเด็ดขาดกับคนกลุ่มนี้ ขณะที่ผู้สื่อข่าวเดินเข้าไปเก็บภาพก็มีแม่ค้าบางคน ท้าทายให้ถ่ายไปเลย เพราะฉันไม่ได้ทำอะไรผิด แค่ดอกไม้ให้นักท่องเที่ยวในราคา 40 บาทเท่านั้น