เปิด ปิด การใช้งานคุกกี้ของ ทรูฮิต (Truehits Cookies)



ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ผู้แทน ISCCC มอบโล่ประกาศเกียรติคุณแผ่นทองจารึกและธงเกียรติยศ ให้กับเทศบาลเมืองน่าน


15 พ.ย. 2563, 16:02



ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ผู้แทน ISCCC มอบโล่ประกาศเกียรติคุณแผ่นทองจารึกและธงเกียรติยศ  ให้กับเทศบาลเมืองน่าน




ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ทำหน้าที่ผู้แทน ISCCC มอบโล่ประกาศเกียรติคุณ แผ่นทองจารึกและธงเกียรติยศ ชุมชนปลอดภัยสากลแก่ นายสุรพล เธียรสูตร นายกเทศมนตรีเมืองน่าน ในโอกาสที่เทศบาลเมืองน่าน ได้รับการประกาศรับรอง (ซ้ำ) ชุมชนปลอดภัยเทศบาลเมืองน่าน ลำดับที่ 316 สมาชิกชุมชนปลอดภัยระดับสากล จาก ศูนย์รับรองชุมชนปลอดภัยสากล International Safe Community Certifying Centre (ISCCC) Re-designation Muang Nan Safe Community ceremony at NIEMS, Nov 12, 2020 นอกจากนี้ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ยังได้เป็นประธานในการมอบโล่ ตำบลปลอดภัยเข้มแข็งด้านการแพทย์ฉุกเฉิน นำร่อง 24 แห่ง

 



ที่อาคารพัฒนาบุคลากรการแพทย์ฉุกเฉิน สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข  เป็นประธานในการมอบโล่รางวัลมอบโล่รางวัล “ตำบลปลอดภัยเข้มแข็งด้านการแพทย์ฉุกเฉิน” ให้กับ เทศบาล/องค์การบริหารส่วนตำบล จำนวน 24 แห่ง จากทั่วประเทศ ซึ่งคัดเลือกจากเทศบาลและ อบต. ที่มีการจัดการชุมชนปลอดภัยและเข้มแข็งได้มาตรฐานการแพทย์ฉุกเฉินเชิงพื้นที่

นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า จากสถานการณ์ปัจจุบันประชาชนยังขาดความรู้ความเข้าใจในการช่วยเหลือผู้ป่วยฉุกเฉิน รวมไปถึงการป้องกันภาวะเจ็บป่วยฉุกเฉินที่อาจจะเกิดขึ้นได้จากปัญหาด้านสุขภาพจิต การสูญเสียจากภาวะแทรกซ้อน ความดันโลหิตสูงเป็นปัจจัยเสี่ยงอันดับต้นของการเกิดภาวะหลอดเลือดสมองเฉียบพลันและหัวใจขาดเลือด อุบัติเหตุ ทั้งนี้ ประเทศไทยมีจำนวนเทศบาล/องค์การบริหารส่วนตำบล ทั้งสิ้น 7,772 แห่ง การดำเนินการตำบลปลอดภัย เป็นประเด็นใหม่และเป็นประเด็นใหญ่ ที่เมื่อดำเนินการแล้วจะสามารถแก้ปัญหาความไม่ปลอดภัย ในประเทศไทยได้อย่างก้าวกระโดด ตนในฐานะประธานกรรมการการแพทย์ฉุกเฉิน จึงได้มอบให้ สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ ( สพฉ. ) จัดทำโครงการส่งเสริมตำบลปลอดภัยเข้มแข็งด้านการแพทย์ฉุกเฉิน เพื่อให้ประชาชนสามารถป้องกัน เฝ้าระวัง และเข้าถึงความรู้และการสื่อสารสาธารณะ ที่จะทำให้สามารถป้องกันหรือหลีกเลี่ยงภาวะฉุกเฉินได้

นายสุรพล เธียรสูตร นายกเทศมนตรีเมืองน่าน กล่าวว่า ความเป็นมาของการดำเนินการเรื่องชุมชนปลอดภัย เริ่มจากความคิดที่ต้องการแก้ไขปัญหา และการจัดการเรื่องความปลอดภัยในชุมชนของตนเอง ประกอบกับหน่วยงาน ภาคีเครือข่ายในพื้นที่ เล็งเห็นความสำคัญเรื่องนี้ จึงเกิดกระบวนการดำเนินงานที่เป็นลำดับขั้นตอน โดยมีความร่วมมือของชุมชนเป็นพื้นฐาน เริ่มจากการสร้างความตระหนัก ทำให้คนในชุมชนมีจิตสำนึก ส่งผลให้เกิดการปฏิบัติและการช่วยกันดูแล ป้องกันอันตรายต่าง ๆ ในชุมชนได้เป็นอย่างดี ทำให้ผู้อยู่อาศัยในชุมชนมีสุข ภาพดี ไม่ได้รับอันตรายจากปัญหาความไม่ปลอดภัยต่าง ๆ ประจวบเหมาะกับการที่ศูนย์วิจัยเพื่อสร้างเสริมความปลอดภัยและป้องกันการบาดเจ็บในเด็ก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี ได้จัดทำโครงการเด็กไทยปลอดภัยขึ้น จึงได้ทำการคัดเลือกจังหวัดน่าน เป็นพื้นที่ดำเนินงาน พร้อมกับค้นหาพื้นที่ในการศึกษาเพื่อดำเนินการเรื่อง “ชุมชนปลอดภัย”มาอย่างต่อเนื่อง เทศบาลเมืองน่านได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วนที่ได้ตระหนักถึงการสร้างเสริมความปลอดภัยในชุมชน ซึ่งประกอบไปด้วยความปลอดภัยในหลากหลายมิติ ทั้งนี้ ในการสร้างให้เกิดความปลอดภัยในชุมชนนั้น มีการบูรณาการความร่วมมือจากภาคส่วนต่างๆ โดยเฉพาะภาคประชาชน ซึ่งเป็นส่วนสำคัญหลักที่จะทำให้ชุมชนมีความปลอดภัยแบบยั่งยืนนั้น เข้ามามีส่วนร่วมในการทำงาน เพื่อให้เกิดการทำงานอย่างบูรณาการร่วมกัน การทำงานนี้จำเป็นต้องทำอย่างต่อเนื่องและทำเป็น กระบวนการ ทั้งขั้นตอนของการเตรียมพร้อมก่อนเกิดภัย การดำเนินการขณะเกิดภัย และการเยียวยาบำบัดฟื้นฟูหลังเกิดภัยอีกทั้งนำบทเรียนที่เกิดขึ้นไปวิเคราะห์ เพื่อนำไปสู่การสร้างมาตรการป้องกันภัยในชุมชนจนทำให้ เทศบาลเมืองน่านจังหวัดน่าน ได้รับการรับรองเป็นชุมชนปลอดภัยระดับนานาชาติ และเป็นต้นแบบพื้นที่ตำบลปลอดภัย สพฉ. ซึ่งความสำเร็จเกิดจากความร่วมแรงร่วมใจจากทุกภาคส่วน ตลอดจนถึงภาคีเครือข่ายต่าง ๆ ที่ได้ช่วยกันคิดค้นหาแนวทางสู่การขับเคลื่อนเพื่อความปลอดภัยอย่างยั่งยืน   

 

ด้าน ร.อ.นพ.อัจฉริยะ แพงมา เลขาธิการสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) กล่าวว่า  สพฉ. ได้เริ่มดำเนินโครงการ “ตำบลปลอดภัย ประเทศไทยปลอดภัย ไร้ผู้ป่วยฉุกเฉิน” ตั้งแต่ปี 2562 ซึ่งเป็นไปตามนโยบายแผนหลักการแพทย์ฉุกเฉิน ฉบับที่ 3.1 ปี พ.ศ.2562-2565 โดยใช้ชุมชน สังคมในระดับตำบลเป็นฐานในการพัฒนา เพื่อสร้างความปลอดภัยในตำบล และลดอัตราการเสียชีวิตและพิการจากภาวะฉุกเฉิน เพื่อพัฒนากลไกการป้องกันและแก้ไขปัญหาการเจ็บป่วยฉุกเฉินทั้งในภาวะปกติและภัยพิบัติ ซึ่งจากผลการดำเนินงานตามโครงการ ได้ตำบลที่ผ่านเกณฑ์ ทั้งสิ้น จำนวน 24 ตำบล กระจายไปทั่วประเทศ โดยคณะกรรมการผู้ประเมินประกอบด้วยผู้เชี่ยวชาญจากหน่วยงานทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน

 







Recommend News






MOST POPULAR


























©2018 ONBNEWS. All rights reserved.