วันนี้ ( 24 ก.ค.62 )  นายสำราญ สาราบรรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร เปิดเผยว่า จากมติที่ประชุมกระทรวงเกษตรและสหกรณ์กำหนดมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบและความเสียหายจากภัยแล้งเมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ได้สั่งการให้สำนักงานส่งเสริมและพัฒนาการเกษตร สำนักงานเกษตรจังหวัด และสำนักงานเกษตรอำเภอ ติดตามสถานการณ์ในพื้นที่อย่างใกล้ชิด ทำความเข้าใจกับเกษตรกร และเร่งสำรวจข้อมูลพื้นที่การเกษตรที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาภัยแล้งและภาวะฝนทิ้งช่วง พร้อมจัดตั้งศูนย์เฉพาะกิจ (War Room) จังหวัดเพื่อติดตามสถานการณ์ภัยแล้งในพื้นที่ และวางแผนการช่วยเหลือเกษตรกรที่ประสบภัยแล้ง ให้เตรียมการวางแผนระบบการปลูกพืชให้เหมาะสมกับสภาวะที่เกิดขึ้นในแต่ละพื้นที่ 

โดยแนะนำวิธีการดูแลรักษาพืชในภาวะแห้งแล้ง ฝนทิ้งช่วง รวมถึงแนะนำให้เกษตรกรปรับเปลี่ยนการเพาะปลูกพืชอายุสั้นใช้น้ำน้อยทดแทนการเพาะปลูกข้าวในช่วงเดือนสิงหาคม – กันยายนนี้

นอกจากนี้ได้แจ้งเตือนเกษตรกรที่เพาะปลูกพืช ให้มาปรับปรุงทะเบียนเกษตรกร หรือหากเป็นเกษตรกรรายใหม่ให้มาขึ้นทะเบียนเกษตรกรกับกรมส่งเสริมการเกษตรเพื่อรับความช่วยเหลือเมื่อผู้ว่าราชการจังหวัดประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน ทางสำนักงานเกษตรอำเภอ/จังหวัด จะได้เร่งให้ความช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ ซึ่งจะต้องเป็นเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนเกษตรกรกับกรมส่งเสริมการเกษตร ไว้ก่อนเกิดภัย ให้ช่วยเหลือตามพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายจริง ไม่เกิน 30 ไร่ โดยมีอัตราการช่วยเหลือด้านพืช แบ่งเป็น ข้าว ไร่ละ 1,113 บาท พืชไร่ ไร่ละ 1,148 บาท พืชสวนและอื่น ๆ ไร่ละ 1,690 บาท