รวบตัว ! "4 นายพราน" พร้อมซากหมูป่า สารภาพดักบ่วงจับ นำเอาไปเป็นอาหาร
7 พ.ย. 2563, 08:21
เมื่อวันที่ 6 พ.ย. 63 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณป่าทิศใต้บ้านโอบังโกว์ ห่างจากหมู่บ้านประมาณ 5 กม. อยู่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยศาลา พิกัด UTM 48P 405181E 1595017 N ท้องที่ตำบลไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ ขณะที่นายสาธิต พันธุมาศ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยศาลา ได้นำเจ้าหน้าที่ชุดลาดตระเวน Smart Patrol ศูนย์พิทักษ์ป่าที่ 2 ออกลาดตระเวนในเขตพื้นที่รับผิดชอบเพื่อป้องกันการกระทำผิดกฎหมาย ได้พบว่า มีรถจักรยานยนต์พ่วงข้าง มีชายฉกรรจ์นั่งมาในรถ 4 คน ภายในรถพ่วงข้างรถจักรยานยนต์มีการนำเอาผ้าใบปกปิดสิ่งของอยู่ในกระบะรถ เจ้าหน้าที่จึงได้ขับขี่รถยนต์ไล่ติดตามไปเพื่อจะทำการตรวจสอบและพบว่า ผู้ต้องสงสัยได้เร่งความเร็วรถเพื่อหลบหนี และได้ไปจนมุมอยู่ที่บริเวณที่มีการก่อสร้างท่อระบายน้ำรถไม่สามารถวิ่งต่อไปได้ ผู้ต้องสงสัยได้ทิ้งรถวิ่งหลบหนี แต่ว่าเจ้าหน้าที่สามารถไล่ติดตามจับกุมมาได้ทั้ง 4 คน ทราบชื่อภายหลังว่า คือ 1.นายบุญยัง จันทราทิพย์ อายุ 58 ปี , 2.นายกฤษดา จันทราทิพย์ อายุ 44 ปี, 3.นายสมใจ ศรีสองเมือง อายุ 25 ปี และ4.นายวีระชัย ทองแดง อายุ 15 ปี ทั้ง 4 คน เป็นราษฎรบ้านวนาสวรรค์ หมู่ที่ 5 ตำบลไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ จากนั้น เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจสอบภายในกระบะรถพ่วงข้างรถจักรยานยนต์พบ ซากหมูป่าเพศผู้ จำนวน 3 ซาก น้ำหนักตัวละ 17 กก. 19 กก. และ 22 กก. ตามลำดับ รวมน้ำหนักหมูป่าทั้งสิ้น 58 กก. จึงได้ทำการตรวจยึดไว้เป็นของกลาง คิดค่าเสียหายของรัฐ กก.ละ 300.บาท เป็นเงิน 17,400.-บาท และได้ตรวจยึดอุปกรณ์การกระทำผิด ได้แก่ รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้าสีแดง-ดำมีพ่วงข้าง ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนจำนวน 1 คัน ,มีดถางป่า 1 ด้าม,มีดแหลมเล็ก 2 ด้าม,แก๊สกระป๋อง 2 กระป๋อง,หัวแก๊ส 1 หัว ,ลวดสลิงบ่วง 3 เส้น,หินลับมีด 1 อัน,หม้อสนาม 1 ใบ,และหัวไฟฉาย 2 อัน เมื่อวันที่ 6 พ.ย.63 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณป่าทิศใต้บ้านโอบังโกว์ ห่างจากหมู่บ้านประมาณ 5 กม. อยู่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยศาลา พิกัด UTM 48P 405181E 1595017 N ท้องที่ตำบลไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ ขณะที่ นายสาธิต พันธุมาศ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยศาลา ได้นำเจ้าหน้าที่ชุดลาดตระเวน Smart Patrol ศูนย์พิทักษ์ป่าที่ 2 ออกลาดตระเวนในเขตพื้นที่รับผิดชอบเพื่อป้องกันการกระทำผิดกฎหมาย ได้พบว่า มีรถจักรยานยนต์พ่วงข้าง มีชายฉกรรจ์นั่งมาในรถ 4 คน ภายในรถพ่วงข้างรถจักรยานยนต์มีการนำเอาผ้าใบปกปิดสิ่งของอยู่ในกระบะรถ เจ้าหน้าที่จึงได้ขับขี่รถยนต์ไล่ติดตามไปเพื่อจะทำการตรวจสอบและพบว่า ผู้ต้องสงสัยได้เร่งความเร็วรถเพื่อหลบหนี และได้ไปจนมุมอยู่ที่บริเวณที่มีการก่อสร้างท่อระบายน้ำรถไม่สามารถวิ่งต่อไปได้ ผู้ต้องสงสัยได้ทิ้งรถวิ่งหลบหนี แต่ว่าเจ้าหน้าที่สามารถไล่ติดตามจับกุมมาได้ทั้ง 4 คน ทราบชื่อภายหลังว่า คือ 1.นายบุญยัง จันทราทิพย์ อายุ 58 ปี , 2.นายกฤษดา จันทราทิพย์ อายุ 44 ปี, 3.นายสมใจ ศรีสองเมือง อายุ 25 ปี และ4.นายวีระชัย ทองแดง อายุ 15 ปี ทั้ง 4 คน เป็นราษฎรบ้านวนาสวรรค์ หมู่ที่ 5 ตำบลไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ จากนั้น เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจสอบภายในกระบะรถพ่วงข้างรถจักรยานยนต์พบ ซากหมูป่าเพศผู้ จำนวน 3 ซาก น้ำหนักตัวละ 17 กก. 19 กก. และ 22 กก. ตามลำดับ รวมน้ำหนักหมูป่าทั้งสิ้น 58 กก. จึงได้ทำการตรวจยึดไว้เป็นของกลาง คิดค่าเสียหายของรัฐ กก.ละ 300.บาท เป็นเงิน 17,400.-บาท และได้ตรวจยึดอุปกรณ์การกระทำผิด ได้แก่ รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้าสีแดง-ดำมีพ่วงข้าง ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนจำนวน 1 คัน ,มีดถางป่า 1 ด้าม,มีดแหลมเล็ก 2 ด้าม,แก๊สกระป๋อง 2 กระป๋อง,หัวแก๊ส 1 หัว ,ลวดสลิงบ่วง 3 เส้น,หินลับมีด 1 อัน,หม้อสนาม 1 ใบ,และหัวไฟฉาย 2 อัน
จากการสอบสวนเบื้องต้น นายบุญยัง จันทราทิพย์ อายุ 58 ปี ได้ให้การว่า ตนกับพวกได้เข้าไปในป่าใกล้แนวชายแดนไทย – กัมพูชา จากนั้น ได้ทำบ่วงไว้จำนวน 15 อันเพื่อดักหมูป่าที่มีอยู่ในป่าจำนวนมาก และเมื่อช่วงเวลาประมาณ 03.00 น.ของวันที่ 6 พ.ย. 63 ตนได้ไปตรวจดูบ่วงที่ดักเอาไว้และพบหมูป่าติดบ่วงจำนวน 3 ตัว จึงได้จับเอามาชำแหละเอาเครื่องในหมูป่าออกมา จากนั้น ได้พากันนำซากหมูป่าขึ้นรถจักรยานยนต์พ่วงข้างเพื่อจะนำเอาไปเป็นอาหารเลี้ยงตนเองและครอบครัวในหมู่บ้าน แต่ว่าโชคร้ายระหว่างที่กำลังขับขี่รถจักรยานยนต์กลับมา ได้มาพบกับเจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุสัตว์ป่าห้วยศาลาและถูกจับกุมได้ในที่สุด
นายสาธิต พันธุมาศ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยศาลา จึงได้แจ้งข้อกล่าวหากับผู้ต้องหาทั้ง 4 คนว่า กระทำผิด พรบ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2562 มาตรา 53,54 ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า โดยไม่ได้รับอนุญาต จากนั้น นำตัวผู้ต้องหาและของกลางไปส่งมอบให้พนักงานสอบสวน สภ.ภูสิงห์ ดำเนินคดีตามกฎหมาย สำหรับของกลางจะได้ขออนุมัติพนักงานสอบสวนดำเนินการตามระเบียบที่เกี่ยวข้องต่อไป