วันนี้ (5 พ.ย. 63) ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า พลเอก กัมปนาท รุดดิษฐ์ องคมนตรี ประธานอนุกรรมการติดตามและขับเคลื่อนโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริพื้นที่ภาคใต้ และพลเอกเฉลิมชัย สิทธิสาท รองประธานอนุกรรมการฯ พร้อมคณะอนุกรรมการฯ เดินทางติดตามการดำเนินงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ในพื้นที่จังหวัดชุมพร โดยมี นายธีระ อนันตเสรีวิทยา ผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร และหัวหน้าส่วนราชการให้การต้อนรับ พร้อมกับรายงานผลการดำเนินงาน ณ โครงการอาคารอัดน้ำคลองดินแดงพร้อมระบบส่งน้ำอันเนื่องมาจากพระราชดำริ บ้านเขาหลัก ตำบลเขาค่าย อำเภอสวี จังหวัดชุมพร โดยพลเอก กัมปนาท รุดดิษฐ์ องคมนตรี ได้รับฟังรายงานผลความก้าวหน้าการดำเนินงานโครงการฯ และพบปะเยี่ยมราษฎรที่ได้รับประโยชน์จากโครงการฯ พร้อมกับเสนอแนะแนวทางการดำเนินงาน เพื่อสร้างประโยชน์สุขให้กับราษฎรตามพระราชปณิธาน พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงสืบสาน รักษา ต่อยอดโครงการฯ เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของราษฎรให้เกิดความยั่งยืน

โอกาสนี้ นายธีระ อนันตเสรีวิทยา ผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพรได้รายงานสรุปผลการติดตามและขับเคลื่อนโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริพื้นที่จังหวัดชุมพร โดยจังหวัดชุมพร มีโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จำนวนทั้งสิ้น 58โครงการ แยกเป็นด้านแหล่งน้ำ 45 โครงการ ด้านสิ่งแวดล้อม 2 โครงการ ด้านคมนาคมสื่อสาร 1 โครงการ ด้านสวัสดิการสังคมและการศึกษา 7 โครงการ และด้านอื่นๆ อีก 3 โครงการ สำหรับโครงการอาคารอัดน้ำคลองดินแดงพร้อมระบบส่งน้ำ เป็นหนึ่งในโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ เพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อน ขาดแคลนแหล่งน้ำ ในพื้นที่ หมู่ที่ 5 หมู่ที่ 6 บ้านเขาหลัก ตำบลเขาค่าย อำเภอสวี จังหวัดชุมพร

 

 

สำหรับประวัติและลักษณะโครงการอาคารอัดน้ำคลองดินแดงพร้อมระบบส่งน้ำอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ตำบลเขาค่าย อำเภอสวี จังหวัดชุมพร พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ รับโครงการอาคารอัดน้ำคลองดินแดง ไว้เป็นโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ เมื่อวันที่ 9 มีนาคม 2554 ตามที่ องค์การบริหารส่วนตำบลเขาค่าย อำเภอสวี จังหวัดชุมพรมีหนังสือขอให้นำความกราบบังคมทูลพระกรุณาขอพระราชทานโครงการก่อสร้างทำนบดินคลองดินแดงเพื่อช่วยเหลือราษฎรหมู่ที่ 5 บ้านเขาหลัก หมู่ที่ 6 บ้านโดห้อย ตำบลเขาค่าย ซึ่งประสบความเดือดร้อนขาดแคลนน้ำสำหรับอุปโภค - บริโภคและทำการเกษตรกรรมในช่วงฤดูแล้ง ซึ่งโครงการฯ ดังกล่าวช่วยเหลือพื้นที่การเกษตรในฤดูฝน ประมาณ 900 ไร่ และการอุปโภค-บริโภค ของราษฎรบริเวณใกล้เคียง จำนวน 140 ครัวเรือน ประชากร 425 คน และช่วยเหลือพื้นที่การเกษตรในฤดูแล้ง ประมาณ 450 ไร่ อีกด้วย