แม้ว่าสถานการณ์ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศไทยจะเริ่มดีขึ้น และมีการเริ่มผ่อนคลายมาตรการต่าง ๆ แต่ในประเทศเพื่อนบ้านกลับพบว่ายังมีการแพร่ระบาดรุนแรงมากขึ้น เป็นความเสี่ยงที่ไทยต้องเฝ้าระวังแนวพรมแดนเพื่อสกัดไม่ให้การระบาดเข้ามาในประเทศไทย จึงจำเป็นต้องเข้มงวดกวดขันมากขึ้น ในการสกัดกั้นกลุ่มแรงงาน และบุคคลต่างด้าวที่ลักลอบเข้ามาประเทศ ผ่านช่องทาง และท่าข้ามธรรมชาติตลอดแนวชายแดนในพื้นที่จังหวัดตาก และภาคเหนือตอนบนของประเทศ 

ตลอดแนวชายแดนทางบกไทย-เมียนมา กว่า 2,400 กิโลเมตร มีจุดผ่านแดนถาวร จุดผ่อนปรน และจุดผ่านแดนชั่วคราวจำนวนมาก แต่พื้นที่ยุทธศาสตร์สำคัญที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เน้นย้ำคือ จังหวัดตาก เนื่องจากเป็นจุดที่แรงงานจากสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา เดินทางเข้า – ออก จำนวนมาก ประกอบกับมีแนวชายแดนยาวกว่า 533 กิโลเมตร
 

ทำให้ระดับนโยบายต้องกำชับในพื้นที่ให้กวดขันเข้มงวด โดย “ แม่ทัพภาคที่ 3 ” เน้นย้ำการลาดตระเวนเฝ้าตรวจป้องกันการลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายข้ามเข้ามาฝั่งไทยผ่านทางช่องทางธรรมชาติต่างๆ ตลอดแนวในเขตพื้นที่จังหวัดตาก ทั้งทางบก ทางน้ำลงเรือลาดตระเวนลำน้ำเมย ปืนภูเขายอดดอยสูง ของหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 35

โดยผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 35 เน้นย้ำให้กำลังทหาร เจ้าหน้าที่ทหารพรานตามแนวชายแดน ตรวจคุมเข้มช่องทาง ท่าข้ามธรรมชาติตลอดแนวชายแดนไทย - เมียนมา เพื่อป้องกันการลักลอบเข้ามาโดยไม่ผ่านการคัดกรองโรค พร้อมทั้งให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานตามแนวชายแดนให้ทำหน้าที่ปกป้องดูแลคนไทย ด้วยการทำหน้าที่เฝ้าระวังป้องกันตะเข็บชายแดนทุกจุดอย่างเต็มกำลังความสามารถ เพื่อให้ประเทศไทยผ่านวิกฤตโควิด-19 นี้ไปให้ได้