เมื่อเวลา 22.30 น.วันที่ 31 ตุลาคม 2563 พ.ต.ท. ภูวดล คณาดา สว.(สอบสวน ) สถานีตำรวจภูธรท่าเรือ อำเภอท่าเรือ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้รับแจ้งเหตุ ทะเลาะวิวาทและ มีผู้ถูกยิงด้วยอาวุธปืนได้รับบาดเจ็บสาหัสและเสียชีวิต ในเวลาต่อมาที่โรงพยาบาลท่าเรือ เหตุเกิดบริเวณหน้าเทศบาลตำบลท่าเรือ ตำบลท่าเรือ อำเภอท่าเรือ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จึงรุดไปตรวจสอบพร้อม รายงาน พ.ต.อ.ธีรวุฒิ แสงมณี ผกก.สภ.ท่าเรือ เจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สมาคมอยุธยารวมใจหน่วยกู้ภัยอยุธยาจุดท่าเรือ

 

 

ในที่เกิดเหตุ เป็นงานวันลอยกระทง บริเวณ ลานปูนริมแม่น้ำป่าสัก พบกองเลือด 1 กอง บริเวณพื้น มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 รายเป็นชาย ถูกอาวุธปืนไม่ทราบชนิดยิงเข้าที่บริเวณลำตัว ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลท่าเรือแต่ทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตในเวลาต่อมาทราบชื่อ นายเกษมศักดิ์ สวัสดิรักษา อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 41 หมู่ 3 ตำบลท่าเจ้าสนุก อำเภอท่าเรือ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา พบมีบาดแผลถูกอาวุธปืนยิงเข้าที่ บริเวณหน้าอกด้านขวา 2 นัด หัวเข่าขาทั้งสองข้าง 3 นัด แขนขวา 2 ขวา รวมเป็น 7 นัด เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ตรวจสอบจุดเกิดเหตุ พบ ปลอกกระสุนปืนขนาด 9 มม. 8 ปลอก เศษ หัวกระสุน จำนวน 3 หัว และพวงกุญแจ 1 ดอก กระจัดกระจาย ตกอยู่ในที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน จึงได้บันทึกภาพและเก็บหัวกระสุนไว้เป็นหลักฐาน

 

 

 

 

 

จากการสอบถาม  ผู้อยู่ในเหตุการณ์เล่าว่า วันนี้ทางเทศบาลตำบลท่าเรือ ได้จัดงานวันลอยกระทง ริมแม่น้ำป่าสัก ขณะเกิดเหตุ นายหนึ่งผู้ก่อเหตุมาเจอกับตนในงาน และมาดึงกางเกงหยอกล้อตนเอง ตนเองจึงบอกนายหนึ่งไปว่าทำไมเล่นแรง ตนเองเจ็บ นายหนึ่งผู้ก่อเหตุจึงพูดว่าทำไมถึงเล่นไม่ได้ ตนจึงเดินหนีออกมา จากนั้นนายหนึ่งก็เดินตามมาและตบบ้องหูตน 1 ครั้ง ตนเองจึงหันไปบอก ว่าผมก็น้องพี่และรู้จักกัน แต่นายหนึ่งผู้ก่อเหตุไม่พอข้าใจ ตบหน้าตนซ้ำอีก 2 ครั้ง ตนก็เริ่มไม่พอใจ จากนั้นตนเองจึงเรียกพี่ๆที่รู้จักกันมาพูดคุยและเคลียร์กับนายหนึ่งผู้ก่อเหตุแล้ว ต่อมาผู้เสียชีวิตได้ทราบเรื่องว่านายหนึ่งผู้ก่อเหตุได้ทำร้ายตนเอง ก็ไปถามนายหนึ่งคนที่ตบตนเองมามีอะไรกัน จนทำให้ผู้เสียชีวิตมีปากเสียงกับนายหนึ่ง จนเกือบมีเรื่องกันภายในงาน แต่ได้เคลียร์กันจนจบ ต่อมาผู้เสียชีวิตกำลังจะเดินไปที่รถ นายหนึ่งผู้ก่อเหตุได้เดินอ้อมมาข้างหลังแล้วใช้อาวุธปืนยิงใส่ผู้ตาย จนล้มลงไป และยิ่งซ้ำอีกจำนวนหลายนัด จนผู้ตายล้มฟุบลงกับพื้น จากนั้นนายหนึ่งผู้ก่อเหตุได้ อาศัยช่วงชุลมุนหลบหนีไป ผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์จึงได้เข้าช่วยเหลือรีบนำตัวผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาลท่าเรือ แต่ทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตในเวลาต่อมา เหตุการณ์ดังกล่าวที่เกิดขึ้น มันไม่น่าจะเกิดเพราะนายหนึ่งผู้ก่อเหตุก็รู้จักกับตนเองและผู้ตายเป็นอย่างดี