จากการสอบสวนนายสมนึก รณศิริ พขร.ขบวนรถไฟที่ 37 ทราบว่า ในระหว่างที่กำลังทำขบวนรถไฟ ซึ่งมี จำนวน 12 โบกี้ เพื่อเข้าสถานีรถไฟสุไหงโก-ลก จู่ๆได้มีรถจักรยานยนต์ 3 ล้อพ่วงข้าง ซึ่งมีผู้โดยสารนั่งกันมารวม 3 คน โดยรถจักรยานยนต์ได้วิ่งออกมาจากถนนที่ตัดผ่านป่าสวนยางพาราที่รกทึบที่ฟาดกับรางรถไฟ โดยที่คนขี่รถจักรยานยนต์ไม่จอดดูว่ามีขบวนรถไฟวิ่งผ่านมาหรือไม่ แต่กลับวิ่งผ่านถนนที่ฟาดกับทางรถไฟแบบกระชั้นชิด เมื่อตนเห็นอีกครั้งก็ไม่สามารถที่จะห้ามล้อของขบวนรถไฟให้หยุดได้ทันท่วงที จึงได้เกิดเฉี่ยวชนกับรถจักรยานยนต์ 3 ล้อพ่วงข้างอย่างจัง จึงมีผู้เสียชีวิตทั้ง 3 คนดังกล่าว

 

 

และจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นส่งผลทำให้หัวรถจักรดีเชลได้รับความเสียหาย ที่บริเวณท่อลมด้านฝั่งซ้ายมือ และขบวนรถไฟต้องล่าช้าเสียเวลากว่า 1 ช.ม. ที่ต้องรับผู้โดยสารล่องขึ้นไปยังสถานีรถไฟกรุงเทพมหานคร

 

ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ ถือว่าเป็นครั้งที่ 2 ในรอบปีนี้ กล่าวคือ เมื่อเดือนมีนาคม 2563 ที่ผ่านมา จุดดังกล่าวมีอุบัติเหตุขบวนรถไฟเฉี่ยวชนรถจักรยานยนต์มีผู้เสียชีวิตมาแล้ว 1 ครั้ง ซึ่งทางเจ้าหน้าที่การรถไฟ ได้แก้ปัญหาด้วยการนำป้ายสัญญาณเตือน ตอหม้อรางรถไฟมาปักปิดเส้นทาง และได้นำไม้มาปิดกั้นอีกชั้น เพื่อป้องกันอุบัติเหตุที่อาจจะเกิดขึ้นซ้ำซ้อน แต่ถูกชาวบ้านที่ใช้ถนนเส้นทางดังสายกล่าวอยู่เป็นประจำ ได้แอบถอดไม้ที่นำมาปิดกั้นออก จนเกิดเหตุสลดขึ้นดังกล่าว