รวมทันควัน ! "หนุ่มจอมแสบ" ซิ่งจักรยานยนต์ กระชากกระเป๋า 2 ตายายขณะไปหาหมอ
27 ต.ค. 2563, 08:57
เมื่อวันที่ 27 ตุลาคม 2563 ผู้สื่อข่าว ได้รับการเปิดเผยจาก พ.ต.อ.ยุทธนา ศิริสมบัติ ผกก.สภ.บ่อผุด อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี เปิดเผยว่า จากกรณีที่คนร้ายเป็นชายไทย ได้ขับรถจักรยานยนต์ ก่อเหตุวิ่งราวกระเป๋า นายสารัญ สมหวัง อายุ 75 ปี และ นางไพพัก สมหวัง อายุ 72 ปี ภูมิลำเนา ต.มะเร็ต อ.เกาะสมุย 2 ตายาย ที่ขับขี่รถจักรยานยนต์ฮอนด้าเวฟ เพื่อไปหาหมอ ที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพ ใน ต.มะเร็ต แล้ว ถูกคนร้ายกระชากกระเป๋า ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย เหตุเกิดบนถนนสายทวีราษฎร์ภักดี ช่วงโค้งบ้านบางน้ำจืด หมู่ 1 ต.มะเร็ต ล่าสุดตำรวจสืบสวนจับได้แล้ว
ตำรวจรวบทันควันหนุ่มแสบ ซิ่งจักรยานยนต์ ตระเวนหาเหยื่อเพื่อก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์ ขณะที่ 2ตายาย อายุ กว่า 70 ปี ขับรถจักรยานยนต์เพื่อไปพบหมอที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพ ถูกชิงทรัพย์ได้เงินไปกว่า 1,000 บาท ตำรวจสืบสวนเเกะรอยจากกล้องวงจรปิด บุกรวบทันควัน รับสารภาพอ้างต้องการเงินไปซื้อข้าวให้ลูกเมีย พร้อมสำนึกผิดยกมือไหว้ขอโทษ ด้าน 2 ตายาย อโหสิให้ พร้อมสอนต่อไปอย่าไปเป็นโจรอีก ส่วนคดีให้ตำรวจดำเนินไปตามกฎหมาย พร้อมขอบคุณชื่นชมตำรวจ จับได้ภายใน 24 โมง
หลังเกิดเหตุ ทางตำรวจสืบสวน นำโดย ร.ต.อ.วิเศษ ชูพยัคฆ์ พร้อม ร.ต.อ.ธวัชชัย เทพหนู รอง.สว.สส. ด.ต.วสันต์ สัมภวะผล, ด.ต.สาธิต คงช่วย,ด.ต.วินิจ ชุมแสง, ด.ต.อนุพงศ์ แก้วเชิด ผบ.หมู่.สส.สภ.บ่อผุด ได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิด บนถนนบริเวณจุดที่เกิดเหตุ และพบภาพคนร้าย ที่ติดตาม 2 ตายาย และสามารถติดตาม จับกุมตัว นายวิจิตร เจาะหมิง อายุ 37 ปี ภูมิลำเนา ชุมชนหมู่บ้านหัวถนน หมู่ 1 ต.มะเร็ต อ.เกาะสมุย ขณะหลบซ่อนอยู่ในบ้านพัก ไม่มีเลขที่ พร้อมยึดของกลางที่ใช้ก่อเหตุ ประกอบด้วย เสื้อผ้าที่ผู้ก่อเหตุสวมใส่ และรถจักรยานยนต์ ฮอนด้าคลิ๊กสีเทา ทะเบียน คพล-295 สุราษฎร์ธานี โดย พ.ต.อ.ยุทธนา ศิริสมบัติ ผกก.สภ.บ่อผุด ได้ทำการสอบปากคำด้วยตนเอง
ทั้งนี้ นายวิจิตร ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ก่อนหน้าหน้าทำงานเป็นพนักงานขับรถบรรทุก 10 ล้อ บรรทุกน้ำ แต่ภายหลังเกิดโควิด-19 ระบาด ทำให้กิจการที่ทำงานปิดลง จึงตกงาน พร้อมกับต้องเลี้ยงลูก อีก 2 คน และภรรยาก็ไม่ม่ได้ทำงาน ก่อนเกิดเหตุเวลา 05.30 น.เช้าวันเดียวกันได้ขับขี่รถจักรยานยยนต์ ออกตระเวนหาเหยื่อ เพื่อวิ่งราวทรัพย์ เนื่องจากต้องการเงินไปซื้อข้าวให้ลูกกินก่อนไปโรงเรียน
ระหว่างนั้นพบเห็น 2 ตายาย ขับรถจักรยานยนต์ ผ่านมา เห็นว่า 2 ตายายมีกระเป๋าถือแบบผู้หญิง เชื่อว่าต้องมีเงิน จึงได้ขับรถตามหลังก่อนสบโอกาศ ได้กระชากกระเป๋าของยาย ที่ถือกระเป๋าทำให้รถจักรยานยนต์ที่คุณตาเป็นคนขับ ถึงกับเสียหลัก หลังจากได้เงินจึงได้ขับรถจักรยานยนต์กลับบ้าน ภายในกระเป๋ามีเงินประมาณ1,200 บาทพร้อมกับบัตรประจำตัวผู้สูงอายุ ของโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลมะเร็ต
ต่อมา นายสารัญ สมหวัง และ นางไพพัก สมหวัง สองสามีภรรยา ผู้เสียหาย ที่ทราบข่าวว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สามรถจับกุมคนร้ายได้เเล้ว จึงได้เดินทางไปดูพร้อมชี้ตัวยืนยัน ว่าเป็นคนร้ายคนเดียวกัน เมื่อมาถึงพบนายวิจิตร ผู้ต้องหา ได้ยกมือขอโทษแลยกมือไหว้ สำนึกผิด
ซึ่งทางด้าน นางไพพัก ผู้เสียหาย ได้สอนว่ากล่าวตักเตือนผู้ต้องหา ว่าที่หลังอย่าทำแบบนี้อีก หากรถเสียหลักล้มขึ้นมาและเจ็บหนัก จะทำอย่างไร เนื่องจากตนมีอายุมากแล้ว ไม่สงสารคนแก่หรือ ที่หลังอย่าทำ ถ้าไม่มีเงินจริงๆมาขอก็ได้ 100-200 บาท ตนให้ทันทีขอให้บอกตรงๆ แต่อย่าไปเป็นโจรเป็นขโมย พร้อมกับกล่าวอีกว่า ต่อไปนี้ คงไม่กล้าพกเงินใส่กระเป๋าถือแล้ว เพราะกลัวไม่ปลอดภัย ทำให้นายวิจิจร ผู้ต้องหา ถึงกับอึ้ง พร้อมกันนี้ ทางผู้เสียหาย ยังได้กล่าวชื่นชมขอบคุณทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวน ที่สามารถติดตามจับกุมคนร้ายได้รวดเร็ว เป็นที่พึ่งของประชาชน ส่วนในเรื่องคดี ขอให้เป็นหน้าที่ของทางตำรวจ
ทั้งนี้ ทางตำรวจืบสวน ได้แจ้งข้อกล่าว วิ่งราวทรัพย์ ในเวลากลางคืน โดยใช้ยานพาหนะ ในการก่อเหตุ พร้อมส่งตัวให้ ร.ต.อ.ระวิ ณ.บุญโน รอง.สว.สอบสวน สภ.บ่อผุด ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป