นรข.บึงกาฬ บุกยึดเรือ 2 ลำ บรรทุกรถยนต์โตโยต้าแคป 3 คัน เตรียมส่งไปลาว
18 ต.ค. 2563, 16:31
หน่วย นรข.บึงกาฬ ร่วมกับเจ้าหน้าที่หลายฝ่ายเข้าจับกุมตรวจยึดเรือ 2 ลำพร้อมเครื่องยนต์ 13 แรงม้า 4 เครื่อง ที่กำลังบรรทุกรถยนต์โตโยต้าแคป 3 คัน กำลังแล่นออกจากฝั่งไทยบริเวณริมโขงบ้านเหล่าหมากผาง หมู่ที่ 6 ต.ท่าดอกคำ อ.บึงโขงหลง จ.บึงกาฬ ชายฉกรรจ์ประมาณ 10 คนกระโจนลงน้ำโขงว่ายน้ำหลบหนีฝ่ายความมืดไปได้ ใครเป็นเจ้าของรถติดต่อรับด่วนที่ สภ.เหล่าหลวง
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 18 ต.ค. ที่หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขงหรือ สถานีเรือ นรข.บึงกาฬ อ.เมืองบึงกาฬ จ.บึงกาฬ พล.ต.ต.สมศักดิ์ คงไพบูลย์ ผบก.ภ.จว.บึงกาฬ น.อ.วรัท โกพลรัตน์ ผบ.นรข.เขตหนองคาย น.ท.พิเชษฐ์ เมืองโคตร หน.สถานีเรือบึงกาฬ พ.ต.อ.สุกฤษณ์ ข้อร่วมคิด ผกก.สืบสวน ภ.จว.บึงกาฬ พ.ต.อ.ชูธเรศ ยิ่งยงดำรงสกุล ผกก.ตม.บึงกาฬ พ.ต.ท.จรูญศักดิ์ ลำพุทธา รอง ผกก.สส. รรท.ผกก.สภ.เหล่าหลวง พ.ต.ท.พลสันติ์ คมขาวผบ.ร้อย ตชด.244 นายสมบัติ ค้อนทอง ผอ.ส่วนควบคุมทางศุลกากรและนายชัยณรงค์ สุระดะนัย ป้องกันจังหวัดบึงกาฬแถลงผลการตรวจยึดรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้ารุ่นวีโก้ แคป 3 คัน คือ 1.สีขาว ทะเบียน บว 4311 สกลนคร 2.สีบรอนซ์ ทะเบียน บร 8828 ร้อยเอ็ดและ 3.สีบรอนซ์ ทะเบียน ผต 3427 นครราชสีมา พร้อมของกลางเป็นเรือเหล็กขนาดใหญ่ยาว 14 เมตรกว้างประมาณ 1 เมตรติดเครื่องยนต์ลำละ 2 ตัว 2 ลำ 4 เครื่องยี่ห้อฮอนด้าสีแดงขนาด 13 แรงม้าเป็นแรงขับเคลื่อนเรือ โดยมีไม้กระดานเป็นแผ่นยึดติดเรือ 2 ลำเอาไว้สำหรับใช้บรรทุกรถยนต์ 3 คัน โทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง มูลค่าทั้งหมดประมาณ 1 ล้านบาท
ทั้งนี้เมื่อเวลา 00.30 น. คืนผ่านมา พล.ร.ต.จรัสเกียรติ ไชยพันธุ์ ผู้บัญชาการหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขงนครพนมหรือ นรข. สืบทราบว่าจะมีขบวนการลักลอบน้ำรถยนต์ใช้แล้วนำออกนอกประเทศโดยไม่ผ่านพิธีการด้านศุลกากรเพื่อนำไปขายให้กับประเทศเพื่อนที่บริเวณริมน้ำโขงบ้านเหล่าหมากผาง หมู่ที่ 6 ต.ท่าดอกคำ อ.บึงโขงหลง จ.บึงกาฬ จึงได้สั่งการให้ น.อ.วรัท โกพลรัตน์ ผบ.นรข.เขตหนองคาย น.ท.พิเชษฐ์ เมืองโคตร หน.สถานีเรือบึงกาฬ และร.ต.อุทร รื่นกลาง ผค.เรือ รตล.สนธิกำลังกับ พ.ต.ท.ธนพล โพธิดา สว.ตม.บึงกาฬ ร.ต.อ.สมพงษ์ พบวันดี รอง ผบ.ร้อย ตชด.244 ร.ต.อ.ทองจัทร์ หิรัญวร สว.(ป.) ตำรวจน้ำบึงกาฬ ร.ต.อ.สุทธิพงษ์ ประเสริฐทรง รรก.สว.สส.สภ.เหล่าหลวง ร.ท.ชาญณรงค์ ถิระโคตร ผบ.ร้อย ทพ.2210 ทหารชุดตรวจยึด บก.ควบคุมที่ 2 กกล.สุรศักดิ์มนตรี นายอธิภัทร อยู่คุ้มญาติ หน.ฝ่ายสืบสวนและปราบปรามศุลกากรและ นายณพน แสนวิเศษ จพน.ศุลกากรชำนาญการ ร่วมวางแผนจับกุม กระทั่งมีชายฉกรรจ์ประมาณ 9-10 คน กำลังนำรถยนต์ 3 คันดังกล่าวขึ้นเรือ 2 ลำ ที่ต่อเป็นเรือแพจอดเทียบท่าอยู่ริมตลิ่ง และคนขับคาดว่าเป็นชาวลาวขับเรือกำลังแล่นออกจากฝั่งไทย เพื่อข้ามไปยังฝั่ง สปป,ลาว จึงได้ส่งสัญญาให้หยุดเรือเพื่อตรวจค้น เมื่อทราบว่าเป็น จนท. ทุกคนต่างกระโดดลงน้ำว่ายหลบหนี ส่วนที่อยู่บนบกก็วิ่งหลบหนีฝ่าความมืดไปได้อย่างรวดเร็วด้วยความชำนาญเส้นทาง จึงเข้าควบคุมตรวจยึดรถยนต์ทั้ง 3 คัน และเรือ 2 ลำพร้อมเครื่องยนต์เรือ 4 เครื่อง จากนั้นตำรวจพิสูจน์หลักฐานบึงกาฬ โดย พ.ต.อ.ธรรมรัตน์ พงศ์เพ็งธรรม. นวท.(สบ 4) พฐ.นำกำลังเข้าตรวจสอบเก็บรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อหาตัวกลุ่มผู้กระทำความผิดมาลงโทษตามกฎหมาย หากใครสงสัยเป็นรถยนต์ของตัวเองหรือแจ้งความรถยนต์หายไว้ก็ให้ติดต่อและนำเอกสารรับรถคืนได้ที่ สภ.เหล่าหลวง ต.ดงบัง อ.บึงโขงหลง จ.บึงกาฬ ได้ต่อไป
ด้าน พล.ต.ต.สมศักดิ์ คงไพบูลย์ ผบก.ภ.จว.บึงกาฬ กล่าวว่าจะต้องบูรณาการกับหน่วยงานข้างเคียงในการปฏิบัติงานป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทุกประเภท เช่น การลักลอบนำยาเสพติดเข้ามาในจังหวัดบึงกาฬ ตามแนวชายแดนริมน้ำโขงเพื่อนำเข้าไปส่งขายในส่วนกลางของประเทศหรือส่งต่อออกทางทะเลไปขายต่อยังต่างประเทศ การลักลอบนำรถยนต์หรือรถจักรยานยนต์ ออกไปขายหรือไปแลกยาเสพติด โดยจะตั้งศูนย์ปฏิบัติการร่วมกันที่ด่าน ตม.เก่าทั้งนี้เพื่อเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพและผลสัมฤทธิ์ในการปฏิบัติงานต่อไป